เดิมทีคิดว่าระหว่างพวกเขาสองคนคงไม่มีความเกี่ยวข้องกันมากเกินไปอีก
เขาเป็นคนธุระเยอะ ทั้งยังเป็นบุคคลที่ได้รับความนิยมมากขึ้นทุกทีในเมืองแห่งนี้ มีคนนัดกินข้าวกับเขายาวไปจนถึงหลังปีใหม่ นางทำการค้าเล็กๆ เท่านั้น ต่อให้อยากเชิญเขาไปกินข้าวก็ไม่มีสิทธิ์ แต่ไม่รู้เหตุใด หลังจากวันนั้นนางมักจะพบเขาบนถนนโดยบังเอิญ
บอกว่าบนถนน อันที่จริงก็ไม่ใช่บนถนนเสียทีเดียว บางครั้งเป็นในร้านค้า บางครั้งในหอสุรา บางครั้งนางเพิ่งก้าวเท้าออกจากโรงย้อม รถม้าของเขาก็ปรากฏตรงหน้านางพอดี
ทุกครั้งที่เจอ เขามักเอ่ยถามประโยคเดิมเสียงเรียบ
‘กินข้าวหรือยัง’
นางมองเขา มักจะได้แต่ตอบคำเดิมอย่างจริงใจ
‘ยัง’
จากนั้นนางก็จะถูกบังคับให้ตามเขากลับไปกินข้าว
เขาไม่ได้บีบบังคับนางอย่างแท้จริง แต่กลิ่นอายที่ชายผู้นี้แผ่ออกมาทำให้คนไม่กล้าที่จะปฏิเสธ ประกอบกับความจริงแล้วนางก็ไม่ได้อยากปฏิเสธจริงๆ
ตั้งแต่เริ่มออกมาทำการค้าข้างนอก นางตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง เดินทางเทียวไปเทียวมาระหว่างในเมืองกับนอกเมือง แม้ระยะทางไกลจะมีรถเทียมลาให้นั่ง แต่นางก็เดินไม่น้อย แต่ละวันเวลาเลือกสินค้าตรวจสอบสินค้าล้วนต้องยืนหรือเดิน บางครั้งเวลาลุงชิวกับลู่อี้ไม่ว่าง นางยิ่งต้องบังคับรถและขนของเอง ถึงเวลาเที่ยงแล้วไม่ได้กินข้าวเป็นเรื่องปกติ ในเมื่อมีคนจะเลี้ยงข้าวนาง นางย่อมต้องด้านหน้ากินอยู่แล้ว
เงินทุกอีแปะในมือนางล้วนมีที่ให้นำไปใช้ แน่นอนว่าประหยัดได้ย่อมต้องประหยัด
อีกอย่าง เขาไม่ขาดแคลนเงินเพียงเท่านี้ ที่พักของเขาทั้งใหญ่และสบาย ทั้งยังมิดชิดลับตา สามารถแอบพักเหนื่อยอยู่ที่นั่นตอนกลางวัน ทำให้นางมีเรี่ยวแรงไปเจรจาต่อรองกับพวกเถ้าแก่และหลงจู๊พวกนั้นมากขึ้นจริงๆ
เพียงแต่นางออกจะไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเหตุใดเขาต้องปฏิบัติต่อนางเช่นนี้ด้วย
เป็นเพราะนางเป็นหญิงหรือ
นางไม่รู้
สิ่งเดียวที่นางรู้คือเขาไม่เคยทำตัวรุ่มร่ามกับนาง อีกอย่างก็คือบางครั้งนางรู้สึกว่าดูเหมือนเขาจะชอบช่วงเวลาที่ทั้งสองคนกินข้าวและพักผ่อนอยู่ที่นั่น
เขาไม่ได้ยุ่งง่วนถึงเพียงนั้นทุกวัน บางครั้งก็มีเวลาว่าง
ยามเขามีเวลาว่างอย่างหาได้ยากยิ่ง โต๊ะเล็กบนเตียงหลัวฮั่นที่ตั้งอยู่ริมหน้าต่างของเขาจะมีกระดานหมากวางอยู่ มีชามใส่หมากสีดำและขาวที่ทำจากหินอ่อนวางอยู่สองใบ
ทุกครั้งเขาจะชวนนางเดินหมาก
‘ข้าเดินหมากไม่เป็น’
ครั้งแรกที่เขาถาม นางตอบอย่างเปิดเผย
‘อยากเรียนหรือไม่’ เขาเลิกคิ้วถาม
นางลังเลครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า
เขาให้หมากสีขาวกับนาง ตัวเองใช้หมากสีดำ และเริ่มสอนนาง
ทักษะการเดินหมากของเขาดีมาก แต่กลับไม่ยึดติดว่าต้องชนะให้ได้ เขาชอบที่จะชงชาและเดินหมากอย่างผ่อนคลาย มองนางจ้องกระดานหมากอย่างกลัดกลุ้มอยู่ครึ่งค่อนวันมากกว่า
บางครั้งเวลาแพ้ เขาก็ไม่ถือสา หากนางเจอทางตันและเอ่ยปากถามเขา เขายังบอกนางด้วยว่าก้าวต่อไปควรเดินอย่างไร
เขาไม่เคยถามเรื่องการค้าของนาง นางเองก็ไม่เคยขอให้เขาช่วย
ชายผู้นี้ช่วยนางมามากแล้ว
การค้าของนางไม่เลวเลย ตอนนี้ไม่เพียงมีกำไร ยังเก็บออมได้ส่วนหนึ่ง
ที่น่าแปลกคือนางได้เข้าใจหลักการค้าบางอย่างระหว่างเดินหมากประลองฝีมือกับเขาจริงๆ นางเองไม่ใช่คนที่ชอบเอาชนะ แต่ในเมื่อจะเรียนแล้ว ก็ต้องเรียนรู้ให้ถ่องแท้ จึงตั้งใจไปร้านขายหนังสือเก่าทางทิศใต้ของเมืองซื้อตำราการเดินหมากมาศึกษาค้นคว้า แต่ก็ยังเอาชนะเขาไม่ได้อยู่ดี
ใช้เวลาไม่นานนางก็พบว่าทักษะการเดินหมากของเขาดีมาก อีกทั้งบางครั้งไม่รู้ว่าบังเอิญหรืออย่างไร การเดินหมากกับเขามักทำให้นางรู้สึกว่าสามารถนำไปปรับใช้กับการค้าของตัวเองได้
บางครั้งนางถึงขั้นสงสัยว่าชายผู้นี้เอากระดานหมากมาบังหน้า ชี้แนะหลักการทำการค้าให้นาง