ทดลองอ่าน ปรปักษ์จำนน ตอนที่ 7 – หน้า 3 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ปรปักษ์จำนน ตอนที่ 7

เว่ยเซ่ากลับมาในช่วงหลังของยามไฮ่ เขาเดินเข้ามาด้วยฝีเท้าที่ล่องลอยเล็กน้อย ขณะก้าวข้ามธรณีประตูบานที่ถูกตนฟันกรอบเสียหายและเพิ่งซ่อมแซมเสร็จเมื่อไม่กี่วันก่อน จู่ๆ ฤทธิ์สุราก็ประดังขึ้นมาระลอกหนึ่งจนเขาต้องหยุดพัก ยกมือยันประตูทรงกาย

สองปีที่ผ่านมาเสี่ยวเฉียวเคยชินแล้วที่จะเข้านอนเร็ว เพราะนอกจากเข้านอนเร็วก็ไม่มีเรื่องอื่นใดให้ทำแล้วจริงๆ เว้นเสียแต่มีเรื่องในใจจนนอนไม่หลับเท่านั้น หาไม่ในยามนี้นางคงเข้าสู่ห้วงนิทราไปนานแล้ว ในที่สุดเมื่อครู่สาวน้อยก็รอไม่ไหวขึ้นมาบนเตียงก่อน เอนพิงอยู่บนนั้นภายในห้องอันเงียบสงัด ขณะที่นางกำลังสะลึมสะลือมากขึ้นตามลำดับ นางก็ต้องสะดุ้งตื่นเพราะเสียงเคลื่อนไหวของเว่ยเซ่าที่กลับเข้ามา เสี่ยวเฉียวรีบคลุมเสื้อลงจากเตียงไปต้อนรับ ก่อนจะเห็นเขาชะงักอยู่ตรงประตู กลิ่นสุราทั้งร่างโชยมาปะทะจมูก นางรู้ว่าเขาเมามายแล้วจึงเรียกหญิงรับใช้อาวุโสให้พยุงเขาเข้ามา

หญิงรับใช้อาวุโสสองสามคนที่อยู่นอกประตูรีบรุดมากระหนาบซ้ายขวาหมายประคองนายท่านทันที

เว่ยเซ่าช้อนตาขึ้นจับจ้องเสี่ยวเฉียวที่ยืนอยู่เบื้องหน้าแต่ไม่ได้เข้ามาใกล้นัก เขาเห็นว่านางมองตนอยู่เช่นกัน อีกทั้งยังเผยแววห่วงใยเกลื่อนดวงหน้า คงเพราะสุราที่ดื่มคืนนี้แรงกว่าปกติจริงๆ ชายหนุ่มพลันรู้สึกแน่นหน้าอก ฤทธิ์สุราอีกระลอกพลันปะทุออกมาอย่างไม่อาจยับยั้ง เขาสลัดหญิงรับใช้ที่เข้ามาใกล้หมายประคองแขนตนออกไปในคราวเดียว ก่อนยกเท้าข้ามธรณีประตูเข้ามาเองแล้วเดินมุ่งสู่ด้านใน

เพิ่งอยู่ร่วมห้องกับเว่ยเซ่าไม่ถึงสองวัน เสี่ยวเฉียวก็สังเกตเห็นว่าท่าทางเขาจะใส่ใจเรื่องความสะอาดเป็นระเบียบมากทีเดียว แม้ปกติจะสวมชุดสีดำเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ยังแผ่กลิ่นอายของความพิถีพิถันออกมาได้อย่างชัดเจน ข้ารับใช้ในเรือนประจิมที่ปรนนิบัติเขามานานยิ่งรู้ดีว่านายท่านเคยชินที่จะแช่ร่างผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าทุกวัน หวังเอ่าผู้นั้นไม่อยู่ที่เรือนประจิมแล้ว เมื่อครู่หญิงรับใช้อาวุโสแซ่หลินที่เลื่อนขึ้นมาแทนพอเห็นเขากลับมาก็รีบสั่งบ่าวให้ยกน้ำอาบเข้าห้อง ไม่ช้าก็เตรียมการเรียบร้อย

หลินเอ่ายังรู้อีกว่ายามที่นายท่านชำระกายจะไม่ชอบให้มีคนคอยอยู่ด้านข้าง เมื่อเตรียมน้ำอาบเสร็จแล้วจึงนำบ่าวออกไปรอด้านนอก อีกครู่ค่อยกลับมาจัดเก็บของ

“น้ำอาบเตรียมพร้อมแล้ว ท่านพี่จะไปชำระกายหรือไม่”

เสี่ยวเฉียวเอ่ยถามเขา

เว่ยเซ่าทำราวกับไม่ได้ยิน ยืนหันหลังให้เสี่ยวเฉียวพลางปลดกระบี่ เขากดกระบี่ลงบนโต๊ะเสียงดังปึง แล้วหมุนกายเดินไปยังห้องอาบน้ำ

เสี่ยวเฉียวรู้เช่นกันว่ายามที่เขาชำระกายไม่ต้องมีใครปรนนิบัติ ยิ่งไม่ต้องให้นางคอยดูแล เห็นเขาคลายสาบเสื้อพลางเดินเข้าไปด้านใน จนกระทั่งเงาร่างหายลับไปหลังประตูห้องอาบน้ำแล้ว นางก็กระดากใจที่จะปีนกลับขึ้นเตียงไปนอนต่อจึงได้แต่นั่งคอยเขา

รอคอยอยู่สักพัก เสียงน้ำซ่าๆ ซึ่งแรกเริ่มยังได้ยินมาจากด้านในก็ค่อยๆ เงียบหาย ก่อนที่จะไม่มีเสียงเคลื่อนไหวใดๆ อีก

เสี่ยวเฉียวลังเลเล็กน้อย นางรู้สึกชอบกลอยู่บ้าง ในที่สุดจึงยืนขึ้น กลั้นหายใจแล้วย่องไปใกล้ห้องอาบน้ำอย่างเบามือเบาเท้า แหวกม่านตรงมุมเป็นช่องเล็กๆ เหลือบมองด้านในอย่างรวดเร็ว

เว่ยเซ่านั่งพิงอยู่ในถังอาบน้ำ สองแขนซ้ายขวาแยกวางอยู่บนขอบถัง ศีรษะหงายไปด้านหลังเล็กน้อย หลับตาพริ้ม

ที่แท้หลับไปแล้วนี่เอง

สำหรับบุรุษผู้นี้ ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่เสี่ยวเฉียวจะมีความรู้สึกดีอันใดด้วยได้ ทว่ายามนี้นางก็ไม่ได้หวังให้เขาหลับสนิทจนไถลจมน้ำไปในลักษณะเช่นนี้ สาวน้อยลังเลชั่วอึดใจแล้วเรียกเขาคำหนึ่ง “ท่านพี่”

ดูเหมือนเขาจะหลับลึกยิ่ง ไม่มีปฏิกิริยาแต่อย่างใด

เสี่ยวเฉียวเพิ่มระดับเสียงขึ้นอีก แต่เขาก็ยังคงไม่ตอบสนอง

นางจึงเดินเข้ามาหยิบกระบวยไม้อันหนึ่งที่ใช้ในการอาบน้ำแล้วยื่นไปจิ้มแขนเขาหนึ่งทีก่อนเอ่ยเรียกซ้ำ “ท่านพี่”

คราวนี้เว่ยเซ่ามีอาการตอบสนองเสียที เปลือกตาของเขาขยับเล็กน้อยก่อนลืมตาขึ้นช้าๆ

ฤทธิ์สุราอันเข้มข้นยังคงฉายชัดอยู่บนดวงหน้า หยดน้ำที่เกาะพราวอยู่จำนวนหนึ่งทำให้สีน้ำหมึกของคิ้วคมยิ่งลึกล้ำ เป็นเพราะศีรษะหงายไปด้านหลังเล็กน้อย ลูกกระเดือกของชายหนุ่มจึงยิ่งนูนเด่น บ่ากว้าง สองแขน รวมไปถึงแผงอกส่วนที่เผยอยู่เหนือผิวน้ำล้วนอวดเค้าโครงของมัดกล้าม น้ำทอประกายสีทองแดงอุ่นตาท่ามกลางแสงเทียน

ทันทีที่เขาลืมตา เสี่ยวเฉียวก็เบนสายตาไปทางอื่น เปลี่ยนไปจับจ้องผ้าเช็ดตัวที่วางพาดอยู่บนขอบถังข้างกายเขาพร้อมเอ่ยชี้แจง “เมื่อครู่ท่านหลับไป”

เว่ยเซ่าพริ้มตายกมือนวดคลึงหน้าผาก ท่าทางคล้ายปวดศีรษะอยู่บ้าง ไม่ช้าเขาก็ขยับไหล่ ค่อยๆ นั่งยืดกายตรงพลางลืมตาขึ้นมองนาง

เสี่ยวเฉียวหมุนกายเดินออกไปด้านนอกทันที

เสียงน้ำจำนวนมากดังซ่าขึ้นที่เบื้องหลัง ดูเหมือนเขาจะลุกขึ้นยืนแล้ว

สาวน้อยจึงยิ่งเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น

“เสื้อผ้าของข้า ส่งมาให้ที”

สุ้มเสียงของเขาที่ดังตามหลังมาแหบพร่านิดๆ

เสี่ยวเฉียวจำใจชะงักฝีเท้า ก่อนจะหยิบเสื้อผ้าของเขาจากบนชั้นวางชุดสะอาดเดินกลับมายื่นส่งให้

ชายหนุ่มออกมาจากถังอาบน้ำแล้ว ร่างกายท่อนล่างพันคร่าวๆ ด้วยผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่นั้น เขารับเสื้อผ้าจากนางมาสวมทับ ผูกเชือกเพียงลวกๆ แล้วปลดผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ร่วงลงพื้น ก่อนเดินเท้าเปล่าก้าวออกมาเบื้องนอก

ไม่รู้ว่าเขาไปดื่มสุราเมื่อตอนค่ำมาเท่าใดกันแน่ ถึงได้มีสภาพเมามายมิใช่เบาเช่นนี้ แสงไฟในห้องอาบน้ำสลัวราง ซ้ำยังมีไอน้ำปกคลุม ทำให้ยามที่เขาหมุนกายถึงกับไม่ทันสังเกตเห็นชั้นวางอ่างน้ำที่อยู่ด้านข้าง เสี่ยวเฉียวจึงเห็นเขาชนเข้าไปตรงๆ ชัดเต็มสองตา

เนื่องจากรูปร่างสูง หน้าผากของเขาจึงชนเข้ากับไม้ที่วางนอนแผ่นนั้นเสียงดังโป๊กก้องกังวาน

เนื้อไม้ของชั้นวางแข็งแรงทนทาน เว่ยเซ่าชนเข้าไปครานี้คงเจ็บไม่ใช่เล่น

เงาร่างของเขาชะงักกึก

“ซี้ด…” เสี่ยวเฉียวได้ยินเสียงเขาสูดปากเบาๆ ก่อนยกมือกุมหน้าผาก

แม้มองไม่เห็นสีหน้า แต่ก็สามารถจินตนาการได้ไม่ยาก

เสี่ยวเฉียวกลั้นไม่อยู่แล้วจริงๆ เสียงคิกจึงเล็ดลอดออกมา

แม้สุ้มเสียงแสนจะแผ่วและเบาเพียงใด กระทั่งต้นเสียงเพิ่งจะโพล่งขึ้นในส่วนลึกของลำคอเท่านั้นก็ถูกนางกดข่มกลับลงไปทันที ทว่าหูของเว่ยเซ่าในยามนี้ดูเหมือนจะเฉียบไวยิ่งนัก ศีรษะจึงหันขวับมาในพริบตา

คิ้วสองข้างของเขาขมวดมุ่นพร้อมขึงตาจ้องนาง

เสี่ยวเฉียวเปลี่ยนสีหน้าเป็นเคร่งขรึมจริงจังในฉับพลัน

มือของเขาที่กุมหน้าผากอยู่ลดลงช้าๆ

“ใครเอาชั้นไม้นี่มาวางไว้ตรงนี้” เสียงของเขาฟังดูไม่สบอารมณ์อย่างยิ่ง

“เดิมทีก็วางไว้ตรงนี้อยู่แล้ว” เสี่ยวเฉียวตอบเสียงค่อย “แต่หากเกะกะขวางทาง ข้าก็จะให้พวกบ่าวมาเก็บไป” นางเอ่ยเสริมอีกประโยค

เว่ยเซ่าขึงตาจ้องนางซ้ำสอง

“ไม่ต้องแล้ว” เขาเอ่ยหนึ่งประโยคเสียงเยียบเย็นก่อนเดินอ้อมชั้นไม้ไป คราวนี้ก็ออกจากห้องอาบน้ำราบรื่นเสียที

เสี่ยวเฉียวขบริมฝีปากเดินตามออกมา นางเปิดประตูให้พวกหลินเอ่าเข้ามาเก็บกวาด พวกนางเก็บกวาดอย่างคล่องแคล่วเสร็จเรียบร้อยก็ออกไปจากห้อง

เสี่ยวเฉียวปิดประตู ก่อนจะหันกลับมาเห็นเขานอนอยู่บนเตียงหลับตาไปแล้ว

นางจึงตรงไปเป่าไฟตะเกียงที่อยู่ตรงหัวเตียง แล้วปีนขึ้นเตียงในความมืดอย่างระมัดระวัง ไม่ให้สัมผัสถูกเขาแม้เพียงน้อยนิด

สาวน้อยเพิ่งเอนนอนลงไป ไม่ทันไรก็ได้ยินเว่ยเซ่าเอ่ยขึ้น “ข้าคอแห้ง”

นี่ย่อมหมายความว่าต้องการให้ข้ายกน้ำมาให้เขาสินะ

ดังนั้นเสี่ยวเฉียวจึงคลานตัวไป เล็งตำแหน่งเหมาะๆ เพื่อไม่ให้สัมผัสถูกเขาขณะปีนลงจากเตียง นางจุดตะเกียงก่อนเดินไปรินน้ำชาที่อยู่บนโต๊ะ ยกมาถึงหน้าเตียงยื่นส่งให้เขา

เว่ยเซ่าลุกขึ้นนั่งก่อนรับน้ำชามาดื่ม เสี่ยวเฉียวนำถ้วยเปล่าไปวางคืนบนโต๊ะ ดับตะเกียงอีกครั้งแล้วกลับขึ้นเตียงมาอย่างระมัดระวังตามเดิม

นางเพิ่งเอนกายลง ทว่ายังไม่ทันจัดท่านอนเสร็จดี ข้างหูก็ได้ยินเว่ยเซ่าเอ่ยขึ้นซ้ำสอง “ข้ายังคอแห้ง”

เสี่ยวเฉียวพลันนึกสงสัย แคลงใจว่าเพราะเมื่อครู่นางเผลอไปล่วงเกินเขาเป็นแน่ ตอนนี้เขาจึงจงใจใช้งานนางโดยเอาอาการเมามาบังหน้า

นี่ถ้าหากเป็นยุคที่นางจากมา นางเป็นได้เตะเขาลงจากเตียงในเท้าเดียวไปแล้ว ให้เขาไปดื่มเองเสียให้พอ

ทว่าอยู่ที่นี่ ภรรยาปรนนิบัติสามีกลับถูกต้องตามทำนองคลองธรรม

เสี่ยวเฉียวจึงปีนกลับลงไป จุดตะเกียงน้ำมันสว่าง แล้วรินน้ำส่งมาถึงหน้าเตียงให้เขาอีกถ้วย

เว่ยเซ่าลืมตาขึ้น ลุกขึ้นนั่งอย่างเชื่องช้า รับน้ำมาดื่ม

“ท่านพี่ยังต้องการดื่มอีกสักถ้วยหรือไม่” เสี่ยวเฉียวถามเขา

เว่ยเซ่ายื่นถ้วยคืนมา มองนางพร้อมหัวคิ้วที่เลิกขึ้นนิดๆ ก่อนจะนอนกลับลงไปโดยไม่เอ่ยตอบ

เสี่ยวเฉียวยืนอยู่ข้างเตียงอีกสักพัก เห็นคราวนี้ดูเหมือนเขาจะหลับได้เสียที นางจึงค่อยวางถ้วยชากลับเข้าที่ เป่าตะเกียงดับเป็นหนที่สาม แล้วปีนขึ้นเตียงมาช้าๆ

ก่อนเป่าตะเกียงดับ สาวน้อยมองตำแหน่งขาของเขาไว้อย่างดิบดีแล้ว ยามปีนขึ้นมาจึงคอยหลบอย่างระมัดระวัง ไม่คาดว่าเพิ่งจะปีนขึ้นมา ขาข้างหนึ่งของเขากลับงอขึ้น นางไม่ทันตั้งตัวจึงเสียหลักถลาลงมาทับสองขาของเขาไว้ใต้ร่างในคราวเดียว

เสี่ยวเฉียวรู้สึกได้ว่าใต้หน้าอกและท้องของตนแข็งโป๊ก ดูท่าจะหนุนอยู่บนสองเข่าของเขา นางสะดุ้งโหยงรีบใช้สองมือยันเตียงหมายคลานออกไป ไม่คาดว่าท่ามกลางความมืดมิดที่มองเห็นได้ไม่ชัดเจนนั้น มือข้างหนึ่งจะกดลงไปบนต้นขาของเขาเสียได้ ยังไม่ทันหดมือกลับ นางก็รู้สึกได้ว่าเขาลุกพรวดขึ้นมานั่งแล้ว เงาดำไหววูบขึ้นตรงหน้า ร่างท่อนบนของเขาพลันโน้มลงมาหานาง

“เมื่อครู่น่าขันนัก…ใช่หรือไม่” เว่ยเซ่ากล่าวพร้อมกับที่กลิ่นสุราโชยมาปะทะจมูกเสี่ยวเฉียว นางได้ยินเสียงอันเย็นยะเยียบของเขาดังขึ้นที่ข้างหู

เสี่ยวเฉียวตระหนกวูบ โคนหูกับผิวกายบนลำคอถูกลมหายใจร้อนผ่าวเป่ารดทำให้ขนทุกเส้นลุกชันขึ้นทันที สาวน้อยรีบหงายตัวไปด้านหลัง พยายามหลบเลี่ยงร่างที่ทาบทับลงมา

“ท่านพี่เป็นอะไรไปหรือ ข้าไม่เข้าใจที่ท่านพูด”

นางขานตอบ แท้จริงก็รู้สึกร้อนตัวอยู่บ้าง น้ำเสียงจึงฟังดูลอยๆ ไม่มีความหนักแน่นสักเท่าใดนัก

ดวงตาของนางค่อยๆ ปรับตัวกับความมืดได้มากขึ้น แม้จะยังมองเห็นไม่ชัดเจนนัก แต่ก็สามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าเขากำลังจับจ้องนางอยู่

ชั่วครู่ให้หลัง ในที่สุดเว่ยเซ่าก็ค่อยๆ นั่งยืดกายตรง ดึงระยะห่างระหว่างทั้งสองออกไป

เสี่ยวเฉียวระบายลมหายใจอย่างโล่งอก ตอนนี้ถึงพบว่ามือยังคงกดอยู่บนต้นขาข้างหนึ่งของเขา

กล้ามเนื้อต้นขาบริเวณนี้แน่นกระชับ ให้ความรู้สึกแข็งเช่นกล้ามเนื้อที่ไร้ไขมันส่วนเกิน เมื่อกางกั้นด้วยเนื้อผ้าบางเบาเพียงชั้นเดียวนี้ ไม่รู้เป็นฝ่ามือของตนหรือผิวกายของเขากันแน่ที่ร้อนผ่าวอยู่ตลอด สาวน้อยรีบหดมือกลับ ใช้ทั้งมือและเท้าคลานเข้าสู่ด้านใน ทว่าเพิ่งคลานพ้นขาของเขานางกลับขยับต่อไม่ได้เสียแล้ว ไม่รู้ไปทำอย่างไรเข้า ชายเสื้อมุมหนึ่งถึงถูกเท้าของเขาทับไว้ข้างใต้ได้

เสี่ยวเฉียวจึงลองกระตุกดู

ไม่รู้เป็นเพราะเขาจงใจหรือขาหนักจริงๆ ชายเสื้อของนางจึงไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย

เสี่ยวเฉียวกระตุกซ้ำอีกหน

“ท่านพี่ ท่านทับชายเสื้อของข้าอยู่” นางเอ่ยเตือนเสียงเบา

เว่ยเซ่าพ่นลมออกจมูกดังฮึอย่างเย็นชา ค่อยยกขาขึ้นนิดๆ เสี่ยวเฉียวราวกับได้รับการปลดปล่อย นางรีบคลานเข้าไปเอนตัวลงนอนที่ด้านในสุดของเตียง อดไม่ได้ที่จะแอบบ่นอุบอยู่ในใจ

เนื่องจากแนวคิดที่ยกย่องชายเหนือหญิง โดยทั่วไปหนึ่งในคำสอนที่สตรีจะได้รับก่อนออกเรือนก็คือวันหน้าเมื่อสามีภรรยานอนร่วมเตียง ต้องยึดลำดับชายนอนด้านในหญิงนอนด้านนอก ส่วนบุรุษผู้นี้คงเพราะความเคยชิน นับแต่คืนแรกที่ทั้งสองอยู่ร่วมห้อง เขาก็นอนด้านนอกไม่ยอมขยับเข้าไปด้านใน ย่อมไม่เหมาะที่เสี่ยวเฉียวจะออกปากไล่ที่เขา ตนเองจึงต้องเข้าไปนอนด้านในแทน

นิสัยแย่ๆ ของเว่ยเซ่าช่างมีเยอะยิ่งนัก

นางชอบนอนด้านนอกมากกว่าจริงๆ ทั้งพื้นที่กว้างขวาง ขึ้นลงก็สะดวก

Comments

comments

Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com