บทที่ 330
องครักษ์จินหลินสกัดคนอื่นๆ ที่คิดจะขึ้นเขาไว้หมดทันที
“บุตรสาวข้ายังอยู่บนนั้น เพราะอะไรถึงจะขึ้นไปไม่ได้” เหอซื่อสืบเท้าไปข้างหน้าก้าวหนึ่งพลางยืดอกเอ่ย
“ยกเว้นองครักษ์จินหลิน ไม่ว่าเป็นผู้ใดล้วนขึ้นเขาไปไม่ได้” เจียงสืออีกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“เจ้าคนผู้นี้ยังมีเหตุผลหรือไม่” เหอซื่อยกมือเท้าเอวถามไล่เลียงอย่างมีน้ำโห
เจียงสืออีโบกมือไปมาด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก “ขึ้นเขา”
พวกเขาองครักษ์จินหลินอาศัยความมีเหตุผลปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่เมื่อไร สตรีออกเรือนแล้วนางนี้พูดจาไม่รู้เรื่องเอาเสียเลย
“ท่านพี่ ท่านดูคนพวกนี้…” เหอซื่อโกรธจนทนไม่ไหวพลางกระตุกแขนเสื้อหลีกวงเหวิน
เจียงหย่วนเฉาก้าวเท้าเข้ามา “หลีฮูหยินมิต้องใจร้อน พวกข้าทำงานตามคำสั่งเบื้องบนเช่นกัน ข้าขอรับรองต่อท่านว่าจะพาคุณหนูหลีไปส่งถึงข้างกายท่านอย่างปลอดภัยแน่นอนขอรับ”
“ขอบคุณ” หลีกวงเหวินกล่าวขอบคุณอย่างขอไปที เขาดึงเหอซื่อมาบอกว่า “พวกเราไปรอที่เพิงบังแดดทางโน้นเถอะ”
อีกฟากหนึ่งของถนนมีเพิงบังแดดหลังใหม่ที่ทั้งใหญ่ทั้งนั่งสบายกว่าเดิม เหอซื่อเป็นคนควักถุงเงินสร้างขึ้นเอง ทุกวันพอสองสามีภรรยาลืมตาตื่นก็จะมาประจำอยู่ที่นี่ตรงตามเวลา
ฉือชั่นยืนนิ่งอยู่ริมถนน ฝ่ายหยางโฮ่วเฉิงโอบไหล่เขา “สือซี พวกเราไปรอในเพิงบังแดดเถอะ ยืนตรงนี้ประเดี๋ยวจะเป็นลมแดดเอาได้”
“เจ้าว่าเสียงระฆังที่ดังมาจากวัดบนภูเขาในคืนนั้น เกิดเรื่องอะไรขึ้น”
หยางโฮ่วเฉิงเกาท้ายทอย “ไม่รู้สิ ตอนหลังถามเซ่าจือดู เขาไม่ได้พูดอะไรมิใช่หรือ”
ดวงตาที่มองไปทางวัดต้าฝูของฉือชั่นทอประกายเข้มขึ้น “ก็เพราะไม่พูดอะไรทั้งนั้นถึงมีปัญหา”
มาตรว่าตัวเขามีบารมีพอจะทำตามอำเภอใจได้ แต่เขายังรู้จักตนเองดีด้วย ดังเช่นวันนี้องครักษ์จินหลินไม่อนุญาตให้ผู้ใดขึ้นเขา บ่งบอกชัดเจนแล้วว่าบนนั้นต้องเกิดเรื่องใหญ่มากขึ้น ถึงเขาอยากพบหน้าหลีซานทันทีใจจะขาด แต่ไม่มีทางก่อความวุ่นวายในเวลานี้
จูเยี่ยนกล่าวได้ถูกต้อง เขาหมายจะไขว่คว้าสิ่งที่ตนเองปรารถนาก็ต้องควบคุมอารมณ์ให้ได้เสียก่อน ทำตัวเป็นผู้ใหญ่มากพอที่จะกำหนดชะตาชีวิตของตนได้
หลีซาน เจ้าต้องรอข้านะ
“หัวหน้า พวกเราไม่ขึ้นเขาจริงๆ หรือขอรับ” องครักษ์หลายคนรุมถามอยู่รอบตัวเซ่าจือ
เซ่าจือหมุนกายสาวเท้าไปที่ริมถนน เขาเดินไปพูดไป “ไม่ได้ยินที่องครักษ์จินหลินบอกหรือ เบื้องบนสั่งกำชับไว้ อนุญาตให้คนของกององครักษ์จินหลินขึ้นเขาไปเท่านั้น”
“ถือสิทธิ์อันใด ข่าวจากในภูเขาล้วนเป็นท่านแม่ทัพของเราส่งออกมา ตอนนี้ถนนเปิดแล้ว พวกเรายังขึ้นเขาไปรับท่านแม่ทัพลงมาไม่ได้อีก” มีคนเอ่ยขึ้นอย่างไม่ยอมจำนน
เซ่าจือเงื้อมือฟาดคนผู้นั้นทีหนึ่ง “อย่าพูดจาส่งเดช อยากนำภัยมาให้ท่านแม่ทัพของเราหรือไร”
พวกองครักษ์จินหลินเป็นคนสนิทของฮ่องเต้ ยิ่งในเวลาเช่นนี้ท่านแม่ทัพยิ่งสมควรวางตัวสงบเสงี่ยม พวกเขาชิงความโดดเด่นให้ผู้เป็นนายชั่วครู่ชั่วยาม ภายหลังจะเป็นต้นเหตุให้ท่านแม่ทัพโดนฮ่องเต้ขึ้นบัญชีหมายหัวไว้ นั่นต่างหากจะได้ไม่คุ้มเสีย
“ไปรอทางโน้น อีกไม่นานท่านแม่ทัพก็ลงมาได้แล้ว”
องครักษ์จินหลินเกือบร้อยคนมาถึงวัดต้าฝูภายใต้การนำของเจียงหย่วนเฉาและเจียงสืออี
ข่าวคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในอารามซูอิ่งกับวัดต้าฝูถูกส่งออกไปทางนกพิราบสื่อสาร เจียงหย่วนเฉาได้รับคำสั่งให้มาสืบคดีให้กระจ่างชัด ขณะที่เจียงสืออีรับหน้าที่อารักขาอู๋เหมยซือไท่ลงเขา
“คุณหนูหลี ไปกันเถอะ” เจียงสืออีเตรียมการให้อู๋เหมยซือไท่เรียบร้อยแล้วจึงเดินมาตรงหน้าเฉียวเจา
นางย่อกายคำนับเซ่าหมิงยวน “แม่ทัพเซ่า ข้าจะลงเขาก่อนแล้ว ด้านเฉินกวงยังไม่เหมาะจะขึ้นลงภูเขาในเวลานี้ ก็ให้เขาพักฟื้นอยู่ในวัดชั่วคราวเถอะเจ้าค่ะ”
นางติดอยู่กลางเขามานานเพียงนี้ ต้องทำให้บิดามารดาและญาติพี่น้องในสกุลหลีเป็นห่วงแล้ว
“คุณหนูหลีค่อยๆ เดิน” เซ่าหมิงยวนมองตามแผ่นหลังที่ห่างออกไปทุกทีๆ ของเด็กสาว ในใจบังเกิดความอิจฉาอยู่หลายส่วน
มีคนห่วงหาอาทร ช่างดีเหลือเกินจริงๆ