ระหว่างทางปิงลวี่เอามือเท้าคางถอนใจเฮือก “คุณหนู ท่านได้ถามแม่ทัพเซ่าหรือไม่ว่าเฉินกวงจะหายดีเมื่อไรเจ้าคะ”
อาการบาดเจ็บของเฉินกวงสาหัสเอาการ หลังลงจากเขาก็พักฟื้นอยู่ในจวนกวนจวินโหว
“ถามแล้ว น่าจะยังต้องอีกครึ่งเดือนกระมัง”
“ยังต้องอีกครึ่งเดือนเลยหรือ…” ปิงลวี่ขมวดคิ้ว นางจงใจพูดเสียงดังขึ้น “แต่ฝีมือของสารถีตอนนี้อ่อนหัดเหลือเกิน ขับรถม้าได้ไม่เร็วและไม่นิ่งเรียบเท่าเฉินกวง ซ้ำยังร้องเพลงไม่เป็นอีก ไม่เหมือนเฉินกวงเลยเจ้าค่ะ…”
สารถีที่ถือแส้ม้าอยู่ด้านนอกคิดในใจ เกินไปแล้วจริงๆ พูดอย่างอื่นยังพอทำเนา เจ้าหนุ่มเฉินกวงนั่นร้องเพลงก็เป็นข้อดีตั้งแต่เมื่อไรกัน สุดจะทนแล้วนะ!
“ย่าห์…” สารถีหวดแส้ม้าเต็มแรง
ปิงลวี่นั่งอยู่ในรถม้าตัวโคลงเคลงไปมา นางพูดบ่นขึ้นว่า “คุณหนู เห็นหรือไม่เจ้าคะ ฝีมือขับรถม้าของสารถีคนใหม่ใช้ไม่ได้เลย”
เฉียวเจาส่งเสียงหัวร่อเบาๆ แล้วกล่าวปลอบ “วางใจเถอะ รอเฉินกวงหายดีก็ให้เขามารายงานตัวทันที”
เห็นทีดอกรักจะบานในหัวใจสาวใช้น้อยของนางแล้วจริงๆ
พริบตาเดียวผ่านไปอีกเจ็ดแปดวัน เรื่องที่เฉียวเจาศึกษาอยู่ตลอดช่วงนี้ได้ผลลัพธ์ในที่สุด
“ปิงลวี่ ตามข้าไปจวนท่านแม่ทัพ”
“วันนี้คุณหนูไปมาแล้วไม่ใช่หรือเจ้าคะ” ปิงลวี่แปลกใจอยู่บ้าง
เฉียวเจาไม่อธิบายอะไรมาก “มีธุระ”
“เจ้าค่ะ” ปิงลวี่ไม่ถามต่ออีก หยิบเสื้อกับกระโปรงสำหรับสวมออกนอกเรือนมาปรนนิบัติเฉียวเจาผลัดชุด จากนั้นสองนายบ่าวก็มุ่งหน้าไปจวนกวนจวินโหวอย่างเร่งรีบ
เพลานี้เซ่าหมิงยวนเดินหมากอยู่กับเฉียวโม่
เฉียวโม่ยกยิ้มกล่าวขึ้น “ไม่คิดว่าท่านโหวมีทักษะในเชิงหมากเข้าขั้นสูง”
“พี่เฉียวโม่อย่ากระเซ้าข้าเลย ระดับฝีมืออย่างข้าแค่เดินหมากเป็นเพื่อนท่านฆ่าเวลาเท่านั้น”
“ฝีมือเดินหมากของเจาเจาเหนือกว่าข้า” เฉียวโม่โพล่งขึ้นคำหนึ่ง
เซ่าหมิงยวนชะงักนิ่ง ไม่รู้ว่าเฉียวโม่พูดถึง ‘เจาเจา’ คนใด
เฉียวโม่หลุบตาวางหมากตัวหนึ่ง เขากล่าวด้วยท่าทางคล้ายไม่เอาใจใส่ “ล้วนเหนือกว่าข้า”
เซ่าหมิงยวนนิ่งเงียบไม่พูดตอบ
เขาเอ่ยถึงคุณหนูหลีไม่เหมาะสม แต่จะเอ่ยถึงเฉียวเจาสะกิดแผลในใจอีกฝ่ายไปไย
ราวกับเฉียวโม่ไม่สังเกตเห็นว่าเซ่าหมิงยวนนิ่งเงียบไป เขาพูดเอื่อยๆ ตามสบาย “อันที่จริงคุณหนูหลีกับน้องเจาคล้ายกันมาก ถ้าท่านโหวเคยอยู่ร่วมกับน้องเจาก็จะรู้เอง”
เรียวปากบางของเซ่าหมิงยวนเม้มแน่น ข้อกระดูกตามนิ้วมือเรียวยาวที่กำเม็ดหมากไว้ขาวซีดจางๆ
พี่เฉียวโม่พูดเรื่องพวกนี้มีจุดประสงค์ใดกัน
“ท่านแม่ทัพ คุณหนูหลีมาแล้วขอรับ” องครักษ์วิ่งมารายงาน
เซ่าหมิงยวนมองเฉียวโม่แวบหนึ่งก่อนผงกศีรษะบอกกับองครักษ์ “เชิญคุณหนูหลีมาที่นี่”
ไม่นานนักเฉียวเจาก็มาถึง เพราะเรื่องที่ศึกษามานานหลายวันสำเร็จลุล่วงในที่สุด จึงพาให้สีหน้าแววตาของนางแต่งแต้มด้วยรอยยิ้ม กระทั่งเสียงทักทายยังแฝงรอยเบิกบานใจ
“แม่ทัพเซ่า พี่ใหญ่”
เซ่าหมิงยวนลุกขึ้น “คุณหนูหลีมาหาพี่เฉียวโม่กระมัง ข้ายังมีงานต้องสะสางพอดี ขอตัวไปห้องหนังสือก่อน”
“ไม่ใช่เจ้าค่ะ ข้ามาหาแม่ทัพเซ่า” แม่นางเฉียวมุ่นคิ้ว
คนผู้นี้ฉลาดมากมิใช่หรือ ไฉนวันนี้หัวทื่อนัก นางไปแล้วกลับมา แน่นอนว่าเพราะได้ผลลัพธ์เรื่องฟันพิษแล้ว
“คุณหนูหลีมีเรื่องใดหรือ” เพราะเฉียวโม่กล่าวถ้อยคำแปลกๆ พวกนั้น ทำให้เซ่าหมิงยวนว้าวุ่นใจไปชั่วขณะ
เฉียวเจาเม้มปาก นางแน่ใจว่าคนผู้นี้หัวทื่อไปแล้วจริงๆ
ใช่ว่าพี่ใหญ่ทำอะไรไว้หรือไม่นะ