ขันทีผู้ถ่ายทอดพระบัญชามาถึงจวนตะวันตกของสกุลหลีแล้วอ่านพระเสาวนีย์ของไทเฮาจบ ฮูหยินผู้เฒ่าเติ้งตกอกตกใจ ทางหนึ่งส่งคนไปเรียกเฉียวเจา ทางหนึ่งต้อนรับไหลสี่อย่างสุภาพมีมารยาท “กงกง เชิญนั่ง”
“ไม่ต้อง องค์ไทเฮายังทรงรอข้าพาคุณหนูหลีซานกลับไปโดยไวอยู่”
“กงกงดื่มน้ำชาก่อน หลานสาวข้าผู้นั้นประเดี๋ยวก็มาแล้ว”
ไหลสี่รับถ้วยน้ำชาที่สาวใช้อาวุโสชิงอวิ๋นยื่นส่งให้มาดมดูทีหนึ่งแล้ววางลง กล่าวด้วยท่าทีคลุมเครือ “คุณหนูสามของจวนท่านบุญพาวาสนาส่งยิ่งนัก ทำให้องค์ไทเฮาทรงเรียกตัวเข้าเฝ้าเอง”
“กงกงพูดถูก ได้ถวายพระพรไทเฮาเป็นบุญวาสนาของเด็กผู้นั้น ไม่รู้ว่าองค์ไทเฮามีพระดำริถึงหลานสาวไม่เอาไหนผู้นั้นของข้าได้อย่างไรกัน”
“เรื่องนี้ข้าก็ไม่อาจรู้ได้”
ฮูหยินผู้เฒ่าเติ้งส่งสายตาไปทางชิงอวิ๋น
ชิงอวิ๋นหยิบถุงผ้าปักสีพื้นใบหนึ่งยื่นส่งให้ไหลสี่
เขาตวัดสายตามองถุงผ้าปักแล้วขมวดคิ้ว “นี่จะทำอะไรรึ”
เหอซื่อเดินทะเล่อทะล่าเข้ามาในเวลานี้เอง “ฮูหยินผู้เฒ่า ข้าได้ยินว่าวังหลวงส่งคนมาเรียกตัวเจาเจาเข้าวังหรือเจ้าคะ”
มุมปากของหญิงชรากระตุกริก หลานเจายังไม่มา ไฉนมารดาเจ้าปัญหาของนางกลับมาถึงก่อน
เหอซื่อไม่แยแสว่าฮูหยินผู้เฒ่าเติ้งจะคิดเช่นไร ดวงตาเรียวสวยมองกวาดไปเห็นคนผู้หนึ่งท่าทางเหมือนขันทีบ่ายเบี่ยงไม่รับของที่ชิงอวิ๋นยัดเยียดให้เป็นพัลวัน นางย่นหัวคิ้วเข้าหากันทันใด รำพึงในใจ
ฮูหยินผู้เฒ่าคงอยากให้สินน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ แก่ขันทีผู้นี้เพื่อให้เขาช่วยดูแลเจาเจากระมัง จุๆ ถุงเงินเล็กแค่นี้จะได้อย่างไร โชคดีที่ข้าเตรียมไว้ล่วงหน้า!
เหอซื่อเดินฉับๆ มาตรงหน้าไหลสี่ เบียดชิงอวิ๋นไปด้านข้างแล้วเอ่ยยิ้มๆ “ท่านคือกงกงที่มาเรียกตัวบุตรสาวข้าเข้าวังกระมัง”
ไหลสี่มองเหอซื่ออย่างไม่พึงใจ ลอบคิดคำนึงว่าแม้ฮูหยินผู้นี้จะโฉมงาม จนใจที่ไม่รู้ธรรมเนียมสักนิด ถึงถุงเงินจะเล็กแต่ก็เป็นเงิน อย่างไรจะให้เขามาเสียเที่ยวเปล่าไม่ได้ เขากำลังจะรับไว้อยู่แล้วเชียว สตรีเบาปัญญาไม่ดูตาม้าตาเรือผู้นี้ก็เข้ามาก่อกวนให้เสียเรื่อง จากจุดนี้เห็นได้ว่าคุณหนูหลีซานผู้นั้นคงเป็นคนเบาปัญญาเหมือนกัน มิน่าถึงได้ล่วงเกินคุณหนูเจียงจนพลอยล่วงเกินพวกผู้สูงศักดิ์ในวังไปด้วย
“อื้อ” ไหลสี่เชิดคางขึ้นแทบชี้ฟ้าพร้อมทำเสียงตอบในลำคอ
เหอซื่อเอาห่อผ้าเล็กๆ ที่คล้องอยู่บนแขนยัดใส่มือไหลสี่ “เช่นนั้นกงกงโปรดดูแลช่วยเหลือด้วยเจ้าค่ะ”
น้ำหนักของห่อผ้าทิ้งลงมาบนมือของไหลสี่ซึ่งไม่ทันได้เตรียมเนื้อเตรียมตัว ส่งผลให้มันร่วงหล่นลงทันที
เหอซื่อมือไวตาไวคว้าขึ้นมาวางกลับไปในอ้อมแขนเขา “กงกงถือไว้ดีๆ สิเจ้าคะ”
พอเป็นเช่นนี้ ห่อผ้าใบเล็กก็แบะออกเป็นช่องเล็กๆ ไหลสี่เห็นก้อนเงินหยวนเป่าสีขาววาววับในนั้นแล้วตาค้างไป
เขานึกว่าตนตาลายจึงยกมือขยี้ตา ครั้นยังมองเห็นก้อนเงินโผล่ออกมาทางรอยแยกดังเก่า ก็ยื่นมือไปแหวกช่องบนห่อผ้าให้กว้างขึ้น
ถึงจะประสบพบเห็นเหตุการณ์สำคัญมาสารพัดจนคุ้นเคย กระนั้นขันทีที่รับใช้อยู่ข้างพระวรกายไทเฮาผู้นี้ถึงกับตะลึงลานไป
ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเห็นเงินมากถึงเพียงนี้ แต่ที่ผ่านมาเขาไปถ่ายทอดพระบัญชาไม่เคยเจอะเจอว่าเรือนใดมอบสินน้ำใจให้ทั้งห่อผ้า ไม่ใช่แค่ถุงผ้าปัก!
ไหลสี่มองเหอซื่อด้วยแววตาที่ยากจะพรรณนาในคำเดียวได้
ข้าผิดไปแล้ว ฮูหยินผู้นี้มิได้เบาปัญญาแต่อย่างใด นางทั้งโฉมงามทั้งฉลาดชัดๆ!
“กงกง ข้าเพียงขอให้ท่านช่วยชี้แนะด้วยนะเจ้าคะ” เหอซื่อกล่าวพร้อมรอยยิ้มละไม
บิดานางเคยกล่าวไว้ว่าไม่ยื่นมือตีคนที่ยิ้มแย้มมอบเงินให้ คนในวังหลวงนี้น่าจะมิใช่ข้อยกเว้นกระมัง
ไหลสี่เอาห่อผ้าใบเล็กคล้องไว้ที่แขนด้วยสีหน้าเป็นปกติ เขาพยักหน้าอย่างไว้ท่า
“คุณหนูสามมาแล้วเจ้าค่ะ”
ไหลสี่รีบมองไปทางหน้าประตู เห็นเด็กสาวในชุดสีเรียบๆ นางหนึ่งเยื้องย่างเข้ามาอย่างแช่มช้อย
เขาปรนนิบัติไทเฮามานานหลายปี พานพบเหล่าผู้สูงศักดิ์ในอิริยาบถงามสง่าเหลือแสนมาจนชินตา ขณะเห็นท่วงท่าการเดินของเด็กสาว แววประหลาดใจผุดขึ้นในดวงตาเขา
กิริยามารยาทของคุณหนูหลีซานผู้นี้ไม่คล้ายผู้ที่ตระกูลอาลักษณ์ของสำนักราชบัณฑิตจะบ่มเพาะออกมาได้