บทที่ 345
เฉียวเจาแสดงคำนับ เหอซื่อเอาตัวบังอยู่หน้าบุตรสาวกล่าวว่า “กงกง จะอะลุ้มอล่วยให้ข้ากล่าววาจากับบุตรสาวได้หรือไม่เจ้าคะ”
ไหลสี่รู้สึกถึงน้ำหนักของห่อผ้าบนแขน เขาพยักหน้าแล้วเอ่ย “รีบๆ เถอะ”
เหอซื่อจูงเฉียวเจาตรงไปที่ห้องด้านใน
ไหลสี่เลิกคิ้วขึ้นทว่าไม่ปริปากว่าอะไร
ฮูหยินผู้เฒ่าเติ้งลอบถอนใจ บางครั้งลูกสะใภ้หัวทื่อผู้นี้ก็มีประโยชน์ในเวลาสำคัญ!
“เจาเจา เพราะอะไรจู่ๆ ไทเฮาถึงเรียกตัวเจ้าเข้าวัง แม่เป็นห่วงอยู่สักหน่อยจริงๆ”
เหตุใดไทเฮาเรียกตัวนางเข้าวังน่ะหรือ เฉียวเจาตรึกตรองอยู่ตลอดตั้งแต่ได้ข่าว นางคิดไปคิดมาแล้วนึกถึงความเป็นไปได้เพียงประการเดียวคือเกี่ยวข้องกับหมอเทวดาหลี่
“บางทีไทเฮาทรงทราบข่าวท่านปู่หลี่สิ้นบุญ และได้ยินได้ฟังว่าข้าเป็นหลานสาวบุญธรรมของท่าน ฉะนั้นถึงมีพระประสงค์จะพบข้ากระมังเจ้าคะ” เฉียวเจากล่าวตอบเช่นนี้ ทั้งเป็นเหตุผลซึ่งเป็นไปได้มากที่สุดเท่าที่คิดได้และเพื่อทำให้ผู้อาวุโสในเรือนสบายใจ
“หากเป็นอย่างนี้ ข้าก็วางใจแล้ว เจาเจา เจ้าไปเถอะ ไทเฮาตรัสอะไรเจ้าก็รับฟังอย่างว่าง่าย พวกเราไม่วาดหวังเป็นที่ต้องพระเนตรไทเฮา กลับมาอย่างปลอดภัยสำคัญที่สุดนะ”
เฉียวเจากุมมือมารดาเบาๆ “ท่านแม่ ไม่ต้องเป็นห่วงข้า ไม่เกิดเรื่องอันใดกับข้าหรอกเจ้าค่ะ”
เหอซื่อพยักหน้าหงึกหงัก “ใช่ เจาเจาของข้ารู้ความแล้ว ทั้งยังเก่งกว่าแม่มากนัก ไปเถอะ รีบไปรีบกลับ”
แม่ลูกสองคนย้อนกลับไปที่โถงรับรอง
ไหลสี่เชิดคางขึ้น “คุณหนูหลีซาน เชิญเถอะ”
“รบกวนกงกงด้วยเจ้าค่ะ” เฉียวเจายอบกายคำนับ
เกี้ยวราชสำนักแบบเรียบง่ายหากยังแฝงความประณีตวิจิตรไว้หลังหนึ่งจอดอยู่นอกประตู ขณะที่เฉียวเจาก้มตัวจะเข้าไป ไหลสี่ลดสุ้มเสียงลงถามคำหนึ่ง “คุณหนูสามเคยให้ยาอะไรแก่คุณหนูเจียงใช่หรือไม่”
เฉียวเจาชะงักเล็กน้อย นางหันไปมองเขา
ไหลสี่กลับยืนตัวตรงมองไปข้างหน้า ทำท่าทำทางไม่รู้ไม่ชี้
แม้ว่านางเริ่มครุ่นคิดอยู่ในใจ แต่สีหน้ายังคงนิ่งสนิท นางค้อมศีรษะให้เขาเป็นเชิงขอบคุณก่อนก้มศีรษะเข้าไปในเกี้ยว
ไหลสี่ตบๆ ห่อผ้า นึกในใจว่า ข้ากล่าวคำนี้แล้วถือว่าไม่ได้รับเงินห่อนี้มาเปล่าๆ นะ
เกี้ยวถูกยกขึ้น เฉียวเจานั่งอยู่ด้านในยกมือนวดๆ หว่างคิ้ว
ถ้อยคำนี้ของขันทีผู้ถ่ายทอดพระบัญชาจะบอกเป็นนัยๆ ว่าที่ไทเฮาเรียกตัวนางเข้าวังเกี่ยวข้องกับคุณหนูเจียงหรือ แต่จับจากน้ำเสียงนี้เกรงว่าจะมิใช่เรื่องดี
เจียงซือหร่านเคยมาขอยาลบรอยแผลที่ท่านปู่หลี่ปรุงขึ้นไปแค่ขวดเดียว หรือว่ายานี้เกิดปัญหาอะไรขึ้น
อย่างนั้นก็ไม่ถูกต้อง ถ้าเจียงซือหร่านใช้ยาลบรอยแผลแล้วเกิดปัญหา ไฉนรู้ไปถึงไทเฮาได้ เจียงถังจะเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้ปานใด แต่เจียงซือหร่านเป็นแค่บุตรสาวของขุนนาง ไม่ว่าอย่างไรไทเฮาก็ไม่น่าจะออกหน้าในครานี้…
เมื่อตรึกตรองถึงตรงนี้ ความคิดหนึ่งจุดวาบขึ้นในหัวของเฉียวเจา นางนึกไปถึงคนผู้หนึ่งโดยพลัน
หรือว่าเจียงซือหร่านขอยานั่นไปให้องค์หญิงเจินเจิน
เฉียวเจายิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่าเป็นไปได้มาก
ตอนนางพูดคุยกับเซ่าหมิงยวนในภูเขา เคยถามถึงสถานการณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากภายนอก ถึงรู้ว่าองค์หญิงเจินเจินยังไม่เสียชีวิตและถูกช่วยออกไปแล้ว แต่ในเมืองหลวงกลับไม่มีเสียงลือเกี่ยวกับองค์หญิงเจินเจิน ดูทีว่าวังหลวงปกปิดเรื่องที่องค์หญิงประสบเหตุดินถล่มไว้
บางทีองค์หญิงเจินเจินอาจจะมีแผลเป็นจากการบาดเจ็บภายนอกตอนเหตุดินถล่ม เจียงซือหร่านถึงมาขอยาลบรอยแผลของหมอเทวดาหลี่กับนาง
กระนั้นมีจุดหนึ่งที่เฉียวเจาคิดไม่ตก ถ้าเพื่อลบรอยแผล ต่อให้ยาขวดหนึ่งไม่สามารถลบเลือนรอยแผลทั้งหมดได้ นั่นคงไม่ถึงกับต้องไล่เลียงเอาผิดกันกระมัง
ช่างเถิด ไม่คิดแล้ว เข้าเฝ้าไทเฮาแล้วก็รู้เอง