บทที่ 581
ถุงใส่?
เฉียวเจาหุบยิ้มตรงมุมปากทันที
คนผู้นี้ตาบอดใช่หรือไม่ ถึงแม้ฝีมือข้าจะไม่ดี แต่นี่มันถุงผ้าปักชัดๆ!
เซ่าหมิงยวนอมยิ้มมุมปาก เมื่อเปิดถุงผ้าปักออกพบว่าข้างในว่างเปล่าก็ล้วงหาอย่างงุนงง ครั้นสายตาปะทะเข้ากับสีหน้านิ่งขรึมของแม่นางเฉียว เขาก็กระจ่างแจ้งในบัดดล
“เอ่อ…ถุงผ้าปักใบนี้ไม่เลวจริงๆ แบบเรียบง่ายภูมิฐาน ถูกใจข้าเป็นอย่างมาก”
พลาดไปแล้ว!
ถุงผ้าปักใบก่อนๆ ของเขาล้วนเป็นองครักษ์ซื้อหามาให้ เขาก็ไม่เคยสังเกตอย่างละเอียด เพียงจำได้ว่าฝีมือประณีตทุกใบและใส่มาในถุงใบเล็กๆ อีกชั้นหนึ่ง
เห็นถุงผ้าปักที่ว่าที่ภรรยาเย็บให้กับมือเป็นถุงใส่ของ เขาใกล้จบเห่แล้ว!
“ถูกใจท่านเป็นอย่างมากหรือ” เฉียวเจาเลิกคิ้วขึ้นเอ่ย
เซ่าหมิงยวนยิ้มฝืดๆ ขณะเหน็บถุงผ้าปักไว้ที่ข้างเอว “แน่นอนสิ ข้าชอบแบบเรียบๆ อย่างนี้เลย พวกที่ปักลายฉูดฉาดเป็นแบบที่บุรุษใช้ที่ใดกัน”
น่าแปลก ถุงผ้าปักที่เจาเจาพกติดตัวตลอดไม่ใช่เช่นนี้นี่นา ลายลูกเป็ดที่ปักอยู่บนนั้นก็น่ารักเป็นที่สุด…
เฉียวเจายื่นมือแย่งถุงผ้าปักไป นางพูดเอ็ด “อย่าเหน็บถุงใส่ของไว้บนตัวท่านให้ผู้อื่นหัวเราะเยาะเอาได้…”
เซ่าหมิงยวนกอดนางไว้หมับ รีบพูดขอโทษขอโพย “เจาเจา ข้าผิดไปแล้ว ใครเล่าที่ไม่เคยตาต่ำ…”
“เซ่าหมิงยวน หุบปากเสีย!”
คนบางคนกะพริบตาปริบๆ
แย่แล้ว ดูเหมือนยิ่งพูดยิ่งผิด
“เจาเจา อยากรู้หรือไม่ว่าเจินเหนียงกับน้องสาวเป็นอย่างไรแล้วบ้าง” เซ่าหมิงยวนเบี่ยงเบนหัวข้อสนทนาอย่างหัวไว
เฉียวเจาลืมไล่เลียงเรื่องถุงผ้าปักโดยพลัน นางเริ่มซักถามสถานการณ์ของทั้งสองพี่น้องทันที
นับแต่คดีของสิงอู่หยางสิ้นสุดลง ผู้ตรวจการสิงก็ได้เลื่อนตำแหน่งจากผู้ตรวจการกระโดดข้ามขั้นไปเป็นข้าหลวงตรวจการประจำนครหลวงจนเป็นที่จับตามองของขุนนางทั่วทั้งราชสำนัก ขณะที่บุตรสาวสองคนของเขาถูกส่งกลับไปอาศัยอยู่กับชาวสกุลสิง
ด้วยก่อนหน้านี้เกิดเรื่องผู้ตรวจการสิงบีบให้บุตรสาวฆ่าตัวตาย ส่งผลให้เฉียวเจากังวลใจอยู่มากว่าพวกนางจะตกอยู่ในสภาพใดหลังจากนั้น
“เจินเหนียงกับน้องสาวกลับไปยังสกุลสิง ประมุขตระกูลกับคนอื่นๆ ยกเหตุผลว่าพวกนางไม่บริสุทธิ์จะส่งตัวไปที่ศาลบรรพชน แต่เจินเหนียงถือคทาหรูอี้ที่ได้รับพระราชทานจากฮ่องเต้ไว้เลยทำให้พวกเขาล้มเลิกความคิด ยามนี้พวกนางมีเรือนพำนักแยกต่างหาก ท่องตำราดีดพิณ ใช้ชีวิตอยู่อย่างเป็นอิสรเสรีดี”
เฉียวเจาเผยรอยยิ้มจากใจจริง “ได้อย่างนั้นก็ดี แต่ข้อสำคัญคือพวกนางยินยอมลุกขึ้นสู้เอง”
ถ้าตนเองยอมรับชะตากรรมก่อน เห็นว่าเสียความบริสุทธิ์ไปแล้วก็สมควรเข้าไปอยู่ในศาลบรรพชน เช่นนั้นคทาหรูอี้สักกี่เล่มก็ช่วยพวกนางไม่ได้
เรื่องที่เฉียวเจาเป็นห่วงคือเจินเหนียงกับน้องสาวจะคร่ำครึหัวโบราณตามอย่างผู้เป็นบิดา คิดไม่ถึงว่าเจินเหนียงจะทำให้นางประทับใจได้
พอเห็นเฉียวเจาคลี่ยิ้มแล้ว เซ่าหมิงยวนก็จับมือนางยกขึ้นมา
นิ้วมือทั้งสิบของเด็กสาวเรียวเล็ก แต่ตามปลายนิ้วกลับมีรอยโดนเข็มตำไม่น้อย
นัยน์ตาของชายหนุ่มนิ่งขึงไป เขาก้มหน้าลงจูบปลายนิ้วนางแล้วกล่าวอย่างสงสาร “ข้าไม่ดีเอง ไม่รู้ว่าเจ้าเย็บผ้าไม่เป็น”
เฉียวเจากำนิ้วเข้าหากัน นางกล่าวเสียงเรียบ “ไม่เป็นก็หัดได้”
ใครบอกว่าข้าทำไม่เป็น ถุงใส่ของใบนี้…เอ๊ย ไม่ใช่ ถุงผ้าปักใบนี้ก็เป็นฝีมือของข้าไม่ใช่หรือ เจ้าคนทึ่มผู้นี้พูดเอาใจสตรีไม่เป็นเอาเสียเลย!