“ทำหน้าตะลึงแบบนั้น คงเริ่มจำอะไรได้บ้างแล้วล่ะสิ” นภาล้อหลานชายตัวดีที่เหมือนจะระลึกชาติขึ้นมาได้บ้าง
“จำไม่ได้!” เอ็มมานูเอลยังปฏิเสธ ทั้งที่ความจริงเขาเริ่มจะจำบางอย่างขึ้นมาได้บ้างแล้ว แต่ก็แค่รางๆ เท่านั้น อีกอย่างต่อให้จำได้หมดทุกรายละเอียดแล้วอย่างไรเล่า! ตอนเด็กก็คือตอนเด็ก มันเป็นอดีต เอามาปนกับปัจจุบันได้ที่ไหนกัน!
“จำไม่ได้ก็ไม่ได้ แต่ฉันอยากให้พวกแกได้เจอกันก่อนนะ คุยกันสักคำสองคำก็ยังดี” เจ้าของบ้านกฤติกรเอ่ยแบบไม่สนใจว่าหลานชายจะว่าอย่างไร
“ผมไม่อยากสนิทกับเด็กคนนั้น!”
“เสียใจด้วยหลานรัก ฉันเชิญยายเต็มกับพ่อแม่เขามากินข้าวที่บ้านเราพรุ่งนี้แล้ว” กันต์กล่าวต่อไปอย่างสบายใจ พลางตักกับข้าวบนโต๊ะมาใส่จานของภรรยาสุดที่รัก ไม่สนใจว่าหลานชายตัวดีจะโวยวายแค่ไหน
“ตา! ผมเป็นหลานตานะ!”
“ก็เพราะแกเป็นหลานฉัน ฉันเลยอยากแนะนำผู้หญิงดีๆ ให้”
“นั่นมันเด็กผู้หญิงต่างหาก! ตาจะให้ผมติดคุกหรือไง!”
“นี่ตาเอ็ม อีกไม่กี่เดือนน้องก็จะยี่สิบเต็มแล้ว ไม่เด็กแล้วจ้ะ” นภาแก้อย่างเหลืออดที่เอ็มมานูเอลดูจะย้ำแล้วย้ำอีกกับอายุที่ไม่ได้ไปกับหน้าตาของเต็มเดือนเสียเหลือเกิน
“ผมไม่กินแล้ว!” เมื่อพูดอะไรไปก็ไม่มีใครสนใจ ชายหนุ่มเลยเลือกจะทิ้งช้อนส้อม ลุกขึ้นเดินกระแทกเท้าปึงปังออกจากห้องทานอาหารเพื่อจะกลับไปห้องนอนของตัวเอง กิริยาการก้าวเดินนั้นลงน้ำหนักอย่างแรงในทุกๆ ก้าว บ่งบอกว่าเจ้าตัวโมโหและหงุดหงิดขนาดไหน
คนเป็นยายได้แต่ถอนใจหลังเสียงปิดประตูกระแทกดังลั่นเรือน หญิงสูงวัยตักน้ำพริกกุ้งสดใส่จานให้สามีอย่างที่เคยทำให้กันเสมอมา “ความจริงตาเอ็มก็พูดถูกนะคะคุณพี่ ยายเต็มยังเรียนไม่จบด้วยซ้ำ จะให้แกรีบแต่งไปทำไม”
“ฉันก็ไม่อยากให้มันแต่งวันนี้พรุ่งนี้เสียหน่อยแม่ฟ้า ฉันอยากจับคู่ให้พวกมันเท่านั้นเอง ให้มันชอบกันหรือหมั้นกันไว้ก่อนได้ก็ยิ่งดี”
“แต่หัวดื้ออย่างตาเอ็มคงไม่ยอมหรอกค่ะ เคยบังคับกันได้ที่ไหน นิสัยเหมือนลูกสาวเราไม่มีผิด” หญิงชราว่าก่อนจะพูดดักทางสามี “อย่านึกว่าน้องไม่รู้นะคะว่าคุณพี่ไม่อยากให้หลานชายคนเดียวของคุณพี่แต่งงานกับแหม่มที่นู่น คุณพี่อยากให้หลานชายแต่งกับคนไทยเพื่อจะได้มาอยู่ใกล้ๆ เรามากขึ้นก็บอกมาเถอะค่ะ”
“อย่ามาจี้ใจดำฉันน่าแม่ฟ้า ฉันยังแค้นไอ้ฝรั่งนั่นไม่หายที่มาขโมยลูกสาวฉันไป อีกอย่างตอนเด็กไอ้เอ็มกับยายเต็มก็ตัวติดกันจะตาย ลองดูไปก่อนเถอะแม่ฟ้า ถ้าครั้งนี้ไม่รอดฉันก็จะลืมสัญญาของฉันกับสง่าเสียที”
“คุณพี่ ตอนเด็กกับตอนโตเอามาปนกันได้ที่ไหนคะ ตอนนั้นตาเอ็มก็เจอน้องแค่ช่วงสั้นๆ เอง จากนั้นก็ไม่ได้เจอกันอีกเป็นสิบปี คุณพี่ก็รับซื้อที่ดินจากยายเต็มไปเถอะค่ะ น้องก็ไม่ใช่ไม่อยากได้ยายเต็มเป็นหลานสะใภ้หรอกนะ แต่ของแบบนี้บังคับกันไปก็ยุ่งยากเสียเปล่าๆ” นภาบ่นกระปอดกระแปด นึกสงสารเด็กสองคนที่ต้องมาวุ่นวายเพราะผู้ใหญ่แท้ๆ
“เอาน่าแม่ฟ้า ให้ฉันลองจนถึงที่สุดเถอะ ฉันรับปากสง่าเอาไว้แล้วว่าจะให้เราเป็นดองกันให้ได้”
“แต่พี่หง่าก็จากไปแล้วนะคะ”
“แต่ก่อนมันไป มันยังพูดถึงเรื่องสัญญาดองกันกับฉันอยู่เลยนะ ว่าถ้าไม่ซื้อที่คืนไปก็ให้ยายเต็มแต่งเข้าบ้านเราซะ มันจับมือฉันเสียแน่น เล่นเอาฉันหลอนจนนอนไม่หลับ” กันต์ทำท่าหวาดหวั่นนิดหน่อยเมื่อนึกถึงเพื่อนรักที่จากไป “ไม่รู้ล่ะ! ถ้าจนปัญญาจริงๆ ฉันจะรับซื้อที่ดินตามที่ยายเต็มและสง่าต้องการก็แล้วกัน”
“พี่หง่านี่ก็จริงๆ เลย คุณพี่ขายที่แพงขนาดนั้นให้ถูกๆ แล้วยังไม่รู้จักเอาไปทำกำไรอีก เก็บไว้จนป่านนี้ ไม่รู้ราคาขึ้นไปถึงไหนแล้ว” นภาบ่นอุบ
สง่าและกันต์นี่ก็แปลก เป็นเพื่อนสนิทกันแต่ชอบเกรงใจกันเสียเหลือเกิน
“สง่ามันเจียมตัว มันไม่กล้าใช้อะไรของฉันหรอก”
“เอ๊ะ! คุณพี่คะ แล้วอัลบั้มรูปไปไหนเสียแล้วล่ะ” นภาถามอย่างตกใจ เมื่อไม่เห็นอัลบั้มสีหวานนั่นเสียแล้ว
“หึ! หลานรักของเธอถือติดมือเอาเข้าห้องไปโน่นแล้ว”
นภาตาโตก่อนจะหันตัวไปทางประตูติดกระจกที่หลานชายเพิ่งเดินออกไปเมื่อครู่นี้
ชายชรายิ้มกริ่มอย่างมีหวังเล็กๆ ว่าอาจจะทำตามความปรารถนาของเพื่อนผู้ล่วงลับได้สำเร็จ