ฟองจันทร์มองกลุ่มบุรุษยืนคุยกันก่อนจะเลื่อนสายตากลับไปมองป้ายชื่อร้านอย่างสนใจ โดยปกติถ้าชื่อของเชฟไม่ดึงดูดก็คงไม่มีใครเอามาห้อยท้ายชื่อร้านอาหารแบบนี้ เธอเองเดาไว้แต่แรกแล้วว่าปาลน่าจะไม่ธรรมดานัก แต่ไม่แน่เขาอาจจะดังกว่าที่เธอคิดไว้ก็ได้
อุปกรณ์ครัวของปาลอลังการกว่าที่ฟองจันทร์คิดเอาไว้มาก เธอยืนดูพนักงานขนเครื่องไม้เครื่องมือที่มองปราดก็รู้ว่าเป็นของมืออาชีพมีราคาแพงเข้ามาในครัวด้วยความตื่นตาตื่นใจ เพียงไม่นานพื้นที่ในห้องครัวก็คับแคบไปถนัดตา เหลือแค่ทางเดินแคบๆ พอให้เดินเบี่ยงตัวสวนกันได้เท่านั้น เห็นได้ชัดว่าแม้พื้นที่จะเล็กจิ๋วแต่เขาก็ตั้งใจจะทำที่นี่ให้เป็นร้านอาหารระดับภัตตาคารจริงๆ
หญิงสาวดูอยู่ห่างๆ ไม่เข้าไปวุ่นวายเพราะเกรงจะทำอะไรเสียหายและไม่อยากเกะกะพนักงานซึ่งยกพลกันมาไกลจากกรุงเทพฯ ปาลกลัวเธอจะเบื่อเลยถามว่าเธออยากกลับก่อนไหม เนื่องจากถึงอุปกรณ์ส่วนใหญ่จะเป็นแบบลอยตัวแต่ก็คงต้องใช้เวลาทั้งวันเพื่อทดลองทุกอย่างให้เรียบร้อยสมบูรณ์ แต่เธอก็ยืนยันว่าจะอยู่ ซึ่งก็เป็นเพราะความอยากรู้อยากเห็นล้วนๆ
ใช่ว่าคนเราจะได้เห็นเครื่องครัวระดับนี้ทุกวัน ไม่นับที่ไปเดินดูตามโชว์รูมหรือในรายการโทรทัศน์เกี่ยวกับการทำอาหาร
“คุณหิวหรือยัง”
ปาลเดินย้อนกลับไปยังส่วนห้องอาหารเมื่อสังเกตเห็นนาฬิกาบอกว่าเวลาล่วงเลยเที่ยงวันมาเกินครึ่งชั่วโมงแล้ว ฟองจันทร์นั่งอยู่บนพื้นโดยมีลังกระดาษที่ขอมาจากพนักงานติดตั้งอุปกรณ์ครัวปูรองต่างเสื่อ และเธอก็กำลังสนอกสนใจกล่องเครื่องครัวขนาดเล็กที่ยังไม่ถูกแกะเนื่องจากต้องรอติดตั้งอุปกรณ์ชิ้นใหญ่ให้เสร็จก่อน
“ยังค่ะ ก็เพิ่งกินขนมไป” หญิงสาวหันไปคุยกับคนที่ทรุดตัวลงนั่งยอง
เมื่อช่วงสายขณะที่ทุกคนกำลังวุ่นวายกันเธอก็ขอกุญแจรถจากเขาเพื่อไปซื้อน้ำ นอกจากมีเครื่องดื่มมาแจกทุกคนแล้วเธอก็หิ้วเค้กมะพร้าวอ่อนเข้ามาด้วย
“อีกไม่นานพวกเขาก็น่าจะไปพักกันแล้วล่ะ” ชายหนุ่มเอ่ยถึงพวกพนักงานที่ยังง่วนอยู่ในครัว “คุณคิดไว้หรือยังว่ามื้อเที่ยงอยากกินอะไร”
“ยัง ฉันว่าจะให้คุณเลือกบ้าง เมื่อวานคุณให้ฉันเลือกแล้วไง”
“คุณเลือกเถอะ คุณมีลิสต์ของที่อยากกินตั้งเยอะนี่ ผมเดาว่าตอนนี้คุณก็น่าจะยังกินได้ไม่ครบนะ” ปาลพาดพิงถึงรายชื่อที่เธอนั่งท่องตอนเครื่องบินฝ่าพายุ
“แหม” ฟองจันทร์เกือบตวัดสายตาค้อน “งั้นไปกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นกันไหม ฉันได้ยินว่าร้านก๋วยเตี๋ยวใกล้ๆ นี้มีเมนูข้าวน่องวัวตุ๋นด้วย ฉันอยากรู้ว่ามันเป็นยังไง”
“คุณก็รู้แล้วนี่นาว่ามื้อเที่ยงอยากกินอะไร” เขายิ้มกระเซ้า “งั้นรอผมอีกสักพักนะ เดี๋ยวเราไปกินกัน”
หญิงสาวพยักหน้าหงึกหงัก…คิดถูกที่เมื่อคืนลองหาข้อมูลก่อนจริงๆ ว่าแถวนี้มีร้านอาหารอะไรน่าไปลองบ้าง
“คุณเมื่อยแขนไหม”
อยู่ดีๆ ปาลก็ถามขึ้นมาทำเอาเธองง
“เมื่อย? วันนี้ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนะ จะเมื่อยได้ไง”
“วันนี้ไม่ได้ทำแต่เมื่อวานคุณทำ คุณไปช่วยผมกวนไส้ทำขนมไง ถ้าปวดเมื่อยก็น่าจะออกอาการวันนี้”
“อ๋อ…นิดหน่อยค่ะ แต่สบายมาก” ฟองจันทร์ฉีกยิ้มส่งไปพร้อมคำตอบ เธอนึกไม่ถึงว่าเขาจะใส่ใจถามเรื่องนี้