ทดลองอ่าน ขอชิมสักคำ… ได้ไหมคนดี ชุด ขอได้ไหม บทที่ 5 – หน้า 8 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

LOVE

ทดลองอ่าน ขอชิมสักคำ… ได้ไหมคนดี ชุด ขอได้ไหม บทที่ 5

8 of 8หน้าถัดไป

“แหม ฉันสิคะที่ต้องพูดประโยคนั้น ฉันจะได้เป็นลูกค้าคนแรกของร้านเลยนะ…เอ๊ะ แต่จะใช้คำนี้ได้หรือเปล่า ถ้าเป็นลูกค้าก็ต้องจ่ายเงินสิ”

“คุณเป็นแขกของเจ้าของร้าน ได้รับสิทธิ์เป็นลูกค้ากินฟรีไง”

“โอเคค่ะ จะเป็นลูกค้าหรือไม่เป็นก็ขึ้นอยู่กับเจ้าของร้านเนาะ ถ้าเจ้าของร้านบอกว่าเป็นก็คือเป็น” เธอทุบกำปั้นลงบนฝ่ามืออีกข้างตัวเอง ดวงตาทอประกายสดใสอีกครั้ง

สองหนุ่มสาวเดินมาถึงร้านอาหารอีกครั้ง เขาปล่อยให้เธอก้าวขึ้นบันไดไปก่อน แต่พอเธอถึงบันไดขั้นบนสุดเขาก็ส่งเสียงถาม

“เรารอดูพระอาทิตย์ตกกันได้ไหม”

ฟองจันทร์หันกลับไปมองร่างสูง ก่อนจะเหลือบมองออกไปยังทะเล ยามนี้แผ่นฟ้าถูกย้อมด้วยสีชมพูส้ม ฉาบด้วยปุยเมฆเป็นหย่อม พิจารณาจากความสูงของดวงอาทิตย์แล้วน่าจะอีกพักใหญ่กว่ามันจะคล้อยต่ำลงไปทักทายผืนน้ำ ซึ่งนั่นแปลว่าต้องรอ…แต่เธอก็ยังพยักหน้ารับ

“ก็ได้ค่ะ ฉันไม่ได้รีบไปไหนอยู่แล้ว”

ปาลยิ้ม ก่อนที่เขาจะเหลือบไปเห็นการเคลื่อนไหวของพนักงานภายในร้านอาหารผ่านทางผนังกระจก

“งั้นเดี๋ยวผมเข้าไปดูข้างในแป๊บนึงนะ ท่าทางคงเสร็จกันแล้ว”

หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งตรงบันไดขั้นสุดท้าย ปล่อยให้ร่างสูงเดินกลับเข้าไปภายในอาคาร เธอนั่งเท้าคางมองสีสันอันงดงามของผืนฟ้า ขณะเดียวกันก็ครุ่นคิดถึงคำที่เขาเลือกใช้ในประโยคคำถามเมื่อครู่…เขาถามว่า ‘ได้ไหม’ ไม่ใช่ ‘ดีไหม’ มันเหมือนเขากำลังขออนุญาตเธอมากกว่าเชิญชวน

สำหรับคนที่หาเลี้ยงชีพด้วยการเรียบเรียงถ้อยคำอย่างเธอ มันช่วยไม่ได้จริงๆ ที่จะสะดุดหู…ก็ลองเปลี่ยนประโยคสักนิด แล้วเปรียบเทียบระหว่าง ‘อยู่กับผมต่อได้ไหม’ กับ ‘อยู่กับผมต่อดีไหม’ ดูสิ ให้ความรู้สึกต่างกันเห็นๆ

แต่เราอาจจะคิดมากไปก็ได้ ฟองจันทร์ยกมือขึ้นใช้ปลายนิ้วคลึงขมับทั้งสองข้างเพื่อไล่ความคิดเพ้อเจ้อทิ้งไป

“คุณปวดหัวเหรอ”

เสียงถามลอยมาก่อน แล้ววินาทีถัดมาร่างสูงก็ทรุดตัวลงนั่งข้างเธอ

“เปล่าค่ะ แค่ทำพิธีไล่ความคิดที่ไม่จำเป็นทิ้งไป”

“ด้วยการทำท่าแบบอิกคิวซังเนี่ยเหรอ” เขาเลิกคิ้วถามขันๆ

“มีท่าประกอบมันรู้สึกเหมือนฉันลงมือไล่มันไปจริงๆ ไงคะ” เธออธิบายกลั้วหัวเราะ “พวกพนักงานกลับไปแล้วเหรอคะ”

“อืม งานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว”

หญิงสาวพยักหน้าหงึกหงักเป็นเชิงรับรู้จากนั้นก็นิ่งไป ปาลเองก็ไม่ได้พูดอะไรอีกสองหนุ่มสาวนั่งฟังเสียงคลื่นมองพระอาทิตย์ค่อยๆ เคลื่อนตัวลงไปหาผืนน้ำกันเงียบๆ พักหนึ่ง จนกระทั่งชายหนุ่มเป็นฝ่ายทำลายความเงียบลง

“ผมพยายามนั่งนึกว่าครั้งสุดท้ายที่ได้นั่งดูพระอาทิตย์ตกดินแบบนี้คือเมื่อไหร่ นึกไม่ออกเลย มันนานมากแล้วจริงๆ”

“ของฉันน่าจะเป็นทริปเที่ยวครั้งที่แล้ว น่าจะสักครึ่งปีก่อน” ฟองจันทร์ทำท่านึก “แปลกเนาะ ตอนอยู่บ้านไม่ได้ดูพระอาทิตย์ตกกัน ต้องมาดูไกลบ้าน”

พูดยังไม่ทันขาดคำ น้ำหยดหนึ่งก็ตกลงบนกลางหน้าผากของหญิงสาว ตามด้วยน้ำหยดอื่นๆ

“ฝนตกนี่นา”

พอสิ้นเสียงร่างสูงก็ผุดลุกขึ้น มือใหญ่ดึงเธอให้ยืนด้วย แล้วเขาก็กึ่งจูงกึ่งลากฟองจันทร์ให้เข้าไปอยู่ใต้ชายคาเฉลียงเต็มตัว…ฝนโปรยลงมาเป็นสายอย่างรวดเร็วแม้ไม่หนาเม็ด ขณะเดียวกันท้องฟ้าก็ยังเป็นสีสดสว่าง

“แหม จะดูพระอาทิตย์ตกเสียหน่อย อยู่ดีๆ ฝนก็ตกซะงั้น” เธอบ่นงึมงำ

“คงไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับแถวนี้” ปาลออกความเห็น “ไม่รู้ฝนจะตกหนักขึ้นหรือเปล่า ยังไงผมไปส่งคุณกลับบ้านก่อนดีกว่า แล้วเราค่อยมาดูพระอาทิตย์ตกด้วยกันใหม่”

ประโยคสุดท้ายทำให้หญิงสาวต้องเหลือบมองร่างสูง แต่เธอก็ตัดสินใจจะไม่ออกความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วเดินนำไปเปิดประตูเข้าสู่ร้านอาหารเพื่อทะลุออกไปสู่ทางเดินของโรงแรม ก่อนที่เธอจะนึกขึ้นได้

“เอ๊า ฉันทิ้งร่มเอาไว้ในรถคุณซะงั้นเลย”

เมื่อเช้าตอนเขาไปรับที่บ้านของฐิตานันท์ เธอกำลังเก็บร่มพับซึ่งเพื่อนเอาไปใช้ตอนเดินข้ามไปยังบ้านแม่ของพิทักษ์และกางตากเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืน ครั้นขึ้นรถเธอก็สอดมันไว้ตรงซอกระหว่างเบาะแถวตัวล็อกเข็มขัดนิรภัย ไม่ได้เอาใส่กระเป๋าสะพาย แล้วก็ลืมไปเลย

“อยู่ตรงข้างเบาะของคุณใช่ไหม คุณรอนี่นะ เดี๋ยวผมไปเอาร่มมาให้”

“เดี๋ยวค่ะ แบบนั้นคุณก็เปียกสิ…ไม่ต้องหรอก ฉันไปพร้อมกับคุณแหละ ฝนปรอยๆ เอง” ฟองจันทร์เผลอคว้าท่อนแขนแข็งแรงหมับ

“ผมชวนคุณมา ถ้าผมดูแลคุณได้ไม่ดีแล้วผมจะกล้าชวนคุณมาอีกได้ไง” ปาลหันไปยิ้มให้เธอ จากนั้นเขาก็เปิดประตูแล้ววิ่งฝ่าสายฝนออกไปยังรถที่จอดไว้ในลานด้านหน้า

หญิงสาวได้แต่ยืนมองเขาเคลื่อนห่างออกไป ผ่านไปพักหนึ่งเขาก็เดินกลับมาพร้อมกับร่มของเธอ…ร่มคันไม่ใหญ่ เธอเลยขยับไปเดินตัวชิดติดกับร่างสูง เธอพึมพำขอบคุณพร้อมกับลอบสังเกตเขาไปด้วย แม้ฝนจะไม่ได้หนาเม็ดมากแต่เนื้อตัวของเขาก็เปียกพอสมควร หัวใจเต้นตึกตักอย่างช่วยไม่ได้

ผู้ชายอะไร…ทำไมเป็นสุภาพบุรุษได้ขนาดนี้ก็ไม่รู้

 

ติดตามต่อไปในเล่ม…

8 of 8หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in LOVE

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com