เย็นวันนี้
พอถูกไล่ออกกีรณาก็ไม่ลังเลที่จะเก็บข้าวของออกจากที่ทำงานทันที ส่วนเรื่องเงินชดเชยค่อยกลับไปดำเนินการทีหลังซึ่งเธอมั่นใจว่าตัวเองจะต้องได้เพราะอดีตเจ้านายรู้จักเธอดีว่าหากเขาไม่ยอมจ่าย เธอจะสู้จนถึงที่สุด และอย่างน้อยๆ เขาจะถูกประจานในโลกโซเชียลจนต้องอับอาย
ในความซวยก็ยังมีความโชคดีอยู่บ้างที่เพื่อนร่วมงานต่างเข้าใจและไม่เชื่อว่าหญิงสาวจะเป็นเมียน้อยใครอย่างที่ถูกกล่าวหา…ทุกคนต่างเสียดายที่ต้องเสียเพื่อนร่วมงานอย่างเธอไป ถึงกระนั้นกีรณาก็ยังเซ็งอยู่ดี เพราะอยู่ดีๆ เธอก็กลายเป็นคนดวงซวยที่ตกงานอย่างกะทันหัน
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะหางานใหม่ได้
หญิงสาวคิดด้วยความเซ็งสุดขีดขณะเปิดประตูรั้วเข้าไปในบ้าน แม้ว่าเธอจะเรียนจบมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของประเทศ อีกทั้งยังมีผลการเรียนในระดับที่ดี แต่ด้วยพิษเศรษฐกิจในปัจจุบันก็ทำให้การหางานดีๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย ใจหนึ่งเธอก็เสียดายงานที่บริษัทเดิม แต่อีกใจก็รู้สึกโล่งอกที่ออกจากที่นั่นมาก่อนจะถูกลวนลามไปมากกว่านี้ ยังดีที่อดีตเจ้านายวางแผนลวนลามเธอได้ไม่แนบเนียนเธอถึงรอดมาได้
‘นั่นไง มาพอดี!’
เสียงที่ดังทักทายมาจากโต๊ะหินอ่อนหน้าบ้านทำให้กีรณาชะงักฝีเท้าแล้วขมวดคิ้วมองผู้ชายสองคนที่กำลังเดินเข้ามาหาเธอ หญิงสาวจำได้ดีว่าพวกเขาเป็นคนของ ‘เถ้าแก่หวง’ ซึ่งบิดาเธอเคยเอาบ้านไปจำนองไว้ และตกลงกันไว้ว่าเธอจะต้องทยอยจ่ายทั้งเงินต้นทั้งเงินดอกทุกเดือน และเธอเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเดือนนี้เลยกำหนดจ่ายมาสามวันแล้ว แต่…อีกฝ่ายถึงขั้นสะเดาะกุญแจรั้วหน้าบ้านเข้ามานั่งรอในบริเวณบ้านเลยหรือ นี่ยังดีนะที่ไม่ไร้มารยาทจนถึงขั้นสะเดาะกุญแจประตูบ้านแล้วเข้าไปนั่งรอข้างในบ้าน
‘น้องกี้…เลยกำหนดจ่ายมาสามวันแล้วนะจ๊ะ เถ้าแก่เขาให้มาทวง’
ผู้ชายคนหนึ่งที่เธอคุ้นหน้าคุ้นตาดีบอกพลางแบมือมาหาแล้วทำหน้ากวนๆ ใส่กีรณา เธอรู้ว่าเขาถูกใจเธอ แต่ที่ไม่กล้าแสดงออกมากกว่าพูดแซวเพราะรู้ว่าเธอมันแสบแค่ไหน…เรื่องที่เธอใจกล้าจนพาตำรวจไปจับลูกน้องของฤกษ์ตอนส่งยายังตราตรึงและเล่ากันไปทั้งซอยจนถึงปัจจุบัน
‘ฉันลืมน่ะจ้ะ พอดีช่วงนี้มีเรื่องยุ่งๆ’
กีรณาแกล้งฉีกยิ้ม แม้จะไม่ชอบเวลาที่อีกฝ่ายมองด้วยสายตากะลิ้มกะเหลี่ย แต่อย่างน้อยเวลาที่เธอจ่ายเงินช้าก็ได้เขาคอยพูดกับเถ้าแก่หวงจนเธอไม่ต้องจ่ายค่าปรับที่จ่ายเลยกำหนด
‘อย่าช้าบ่อยๆ นะจ๊ะเพราะช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี คนจ่ายช้ากันเยอะ เถ้าแก่เขาก็เลยคุมเข้ม ถ้าเป็นคนอื่นต้องเสียดอกเพิ่มทุกวันที่จ่ายช้านะ แต่เพราะเป็นน้องกี้พี่ก็เลยขอเถ้าแก่ให้’
‘ขอบคุณมากนะจ๊ะ’
กีรณาว่าพลางส่งเงินที่เพิ่งกดมาจากตู้เอทีเอ็มเป็นค่าใช้จ่ายประจำเดือนนี้ให้กับอีกฝ่าย ทางนั้นรับไปนับอย่างคล่องแคล่ว เมื่อได้เงินครบตามจำนวนก็ยื่นบิลที่เขียนมาล่วงหน้าส่งให้เธอเพื่อเป็นหลักฐานการจ่ายก่อนจะเดินออกไป กีรณาจึงเดินตามไปปิดประตูรั้วและกล่าวขอบคุณซ้ำอีกครั้ง
เงินเกือบหมดกระเป๋าเลย!
หญิงสาวถอนหายใจกับตัวเอง ลับหลังคนทวงหนี้ใบหน้ายิ้มแย้มก็กลับกลายเป็นบึ้งตึงทันที เธอแทบกุมขมับเมื่อพยายามนึกหาวิธีบริหารเงินค่าใช้จ่ายต่างๆ กับจำนวนเงินที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด
…และทั้งหมดคือทุกเหตุการณ์ที่ทำให้ตอนนี้กีรณามานั่งอยู่ในผับ!
ปกติหญิงสาวไม่ใช่ผู้หญิงที่ชอบเที่ยวกลางคืนหรือดื่มเหล้าเข้าผับเลยสักนิด แต่ความเครียดที่สั่งสมบวกกับปัญหามากมายที่รุมเร้าทำให้เธออยากหาทางระบายความเครียดเหล่านั้นบ้าง เห็นใครๆ ก็ว่าสถานที่แบบนี้เป็น ‘สถานเริงรมย์’ บางทีมันอาจจะช่วยให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาบ้างก็ได้
ไม่เห็นจะสนุกเลย
กีรณาถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่ายขณะยกค็อกเทลแก้วที่สามขึ้นดื่มจนหมดด้วยความเสียดาย เธอตั้งใจว่าจะกลับบ้านแล้วเพราะนั่งต่อไปก็ไม่หายเครียดหรือผ่อนคลายสักนิด ในหัวเธอยังมีแต่เรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ต้องไปจัดการ แถมเสียงเพลงแดนซ์ที่ดังจากลำโพงรอบทิศทางก็สร้างความรำคาญให้เธออย่างมาก นี่ยังไม่รวมถึงสายตาผู้ชายหลายคนที่มองเธอด้วยความสนใจอีกต่างหาก
น่ารำคาญ…
ร่างบางบ่นกับตัวเองก่อนจะคว้ากระเป๋าคลัตช์ที่วางอยู่ข้างๆ แล้วลุกจากเก้าอี้ทรงสูงหน้าเคาน์เตอร์บาร์เพื่อออกจากร้าน ทว่าในตอนนั้นก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินมาขวางทางเธอไว้ราวกับรอจังหวะนี้มานาน วินาทีนั้นกีรณารับรู้ได้โดยสัญชาตญาณว่าอาจเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เธอยุ่งยากใจอีกแล้ว
เอาเข้าไป! อะไรมันจะซวยซ้ำซวยซ้อนขนาดนี้ ดวงฉันตกนรกภูมิหรือไง!