“ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม ถ้าตัดสินใจว่าจะทำแล้วผมก็จะจริงจังให้ถึงที่สุดนั่นแหละ ท่าทางชิลๆ เหมือนไม่เรื่องมากของผมเป็นแค่ภาพลวงตาเท่านั้น นานๆ ไปคุณก็จะรู้จักตัวตนของผมดีขึ้นเอง”
เธอเกือบเถียงกลับไปทันควันว่าทำไมเธอจะต้องไปรู้จักตัวตนของเขาดีขึ้นด้วย… แต่ว่ายั้งตัวเองไว้ได้ทัน แล้วจึงเลือกที่จะพยักหน้ารับรู้ด้วยรอยยิ้มครึ่งๆ กลางๆ ก่อนจะตัดบท “ฉันต้องทำงานต่อแล้ว คุณมีอะไรจะคุยอีกไหม เรื่องงานของคุณ”
“คุณรับออกแบบโลโก้ด้วยเหรอ” เขาถามพร้อมกับเดินไปที่บอร์ดติดรูปตรงผนังห้องด้านหนึ่งด้วยท่าทางสนอกสนใจ “ทั้งหมดนี่คือโลโก้ที่คุณเป็นคนทำใช่ไหม”
“อื้อ” แพรภัทรตอบแล้วเดินไปยังโต๊ะทำงานตัวเอง แต่ยังคอยชำเลืองไปทางเขาตลอด
“ออกแบบโลโก้ให้ผมด้วยสิ ผมก็อยากมีโลโก้เป็นของตัวเองเหมือนกัน”
“เอาไว้ทำเสื้อแจกแฟนคลับเหรอ”
“ก็ทำนองนั้น คุณจะคิดราคายังไงก็ลองเสนอมาละกัน งั้นก็รับงานนี้ไว้ด้วยเลยนะ” เขาสรุปเอาเองดื้อๆ อย่างง่ายดาย
“แล้วมีอะไรอย่างอื่นอีกไหมคะ ฉันจะทำงานแล้ว” เธอถามย้ำอีกรอบ
“อย่าเพิ่งไล่ได้ไหม จริงๆ แล้ววันนี้ผมไม่รู้จะไปไหนดีก็เลยมานี่ แล้วบ้านคุณก็อยู่ตั้งไกล ไหนๆ มาแล้วก็ขออยู่นานๆ หน่อยไม่ได้เหรอ ถ้าจะสั่งอาหารกลางวันมากินก็เผื่อผมด้วย เพราะของที่ซื้อมากินผมยกให้เพื่อนบ้านคุณไปหมดแล้ว บางทีถ้าผมได้ดูนั่นดูนี่ในสตูฯ คุณไปเรื่อยๆ อาจจะได้ไอเดียเพิ่มหรือนึกอะไรออกอีก จะได้บอกสิ่งที่ต้องการให้คุณฟังจนเรียบร้อยหมดวันนี้เลย”
“งานที่ฉันจะทำให้คุณนี่มันไม่ได้มีรายละเอียดเยอะแยะมากมายอะไรขนาดนั้นซะหน่อย แล้วก็ยังไม่มีเวลาลงมือทำให้เร็วๆ นี้ด้วยนะคะ” เธอเตือนเหมือนคิดว่าเขาน่าจะลืมเรื่องพวกนี้ไป
“ผมทราบ แต่วันนี้ผมไม่มีเพื่อนให้ไปหาเลยจริงๆ เห็นแบบนี้ผมขี้เหงามากนะ จะขับรถไปทะเลคนเดียวตอนนี้ก็ไม่ไหว เพราะพรุ่งนี้มีงานเช้ามาก แล้วตอนนี้คุณก็เป็นเหมือนเพื่อนคนหนึ่งของผมแล้ว ขออยู่คุยด้วยสักวันไม่ได้เหรอ”
แพรภัทรฟังแล้วมีสีหน้าแปลกๆ จะว่าลำบากใจก็ไม่ใช่ รังเกียจก็ไม่เชิง แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่มีท่าทีรับรู้ถึงปฏิกิริยาในแง่ลบของเธอเลย
“คุณเกิดปีเดียวกับผมใช่ไหม เกิดเดือนอะไร”
เธอทำหน้าปั้นยากกับคำถามในเชิงลึกที่เริ่มจะเป็นส่วนตัวมากเกินไปของเขา “ฉันเกิดก่อนคุณสองเดือน”
“นี่รู้วันเกิดผมด้วยเหรอ” ชายหนุ่มหันมามองเธอพร้อมกับเบิกตาโต
“ก่อนไปทำงานกับคุณที่สตูลฉันก็ต้องหาข้อมูลติดสมองไปนิดหนึ่งเพื่อความมั่นใจ ใครจะไปแบบโล่งร้างว่างเปล่า ไม่รู้อะไรเลย”
เขาฟังแล้วยิ้มนิดหนึ่ง “ว่าแต่คุณแก่กว่าผมเหรอเนี่ย นึกว่าเรารุ่นเดียวกัน”
“ก็น่าจะเรียกว่ารุ่นเดียวกันไม่ใช่เหรอ แก่กว่าแค่สองเดือนเนี่ย”
รัญชน์รวิชญ์หัวเราะ “เออ ก็จริง”
“ฉันทำงานนะ”