บทที่ 2
หรูเสี่ยวนันเบิกดวงตากลมโต
เตียวขาวกระหายเลือดตัวนั้นอีกแล้ว! มันจะเอาอย่างไรกันแน่ ทำไมจึงไล่ล่าข้าไม่ยอมปล่อยแบบนี้นะ
เพราะบนขาถูกแถบผ้าไหมพันเอาไว้ หรูเสี่ยวนันอยากหนีก็หนีไม่ได้ ทำได้เพียงมุดเข้าไปใต้ผ้าห่ม
ภายในกระโจมเงียบสนิท ผ่านไปนานก็ยังไม่ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวอะไร
หรูเสี่ยวนันอดใจไม่ไหวยื่นหัวออกมาและมองสำรวจไปโดยรอบ
ทันใดนั้นเอง ปากใหญ่แหลมคมก็ปรากฏตรงหน้านาง นางตกใจจนขนพองทั่วตัว
เตียวขาวฟาดกรงเล็บลงมาและตะปบจนนางมองเห็นดวงดาว
หลังคอรู้สึกเจ็บ จากนั้นร่างของนางก็ถูกลากออกจากผ้าห่ม
เตียวขาวลากหรูเสี่ยวนันกระโดดลงจากเตียง แต่เพราะขาผูกแถบผ้าไหมเอาไว้ เตียวขาวไม่อาจดึงตัวนางออกไปข้างนอกได้ สุดท้ายมันจึงปล่อยตัวหรูเสี่ยวนันแล้วหันไปกัดแถบผ้าไหมแทน
หรูเสี่ยวนันขดตัวอยู่ด้านข้างอย่างเงียบๆ เหมือนหมดแรงจะขัดขืน
ทว่าในตอนที่เตียวขาวกัดแถบผ้าไหมขาดได้อย่างราบรื่น หรูเสี่ยวนันก็กระโดดขึ้นไปบนโต๊ะในทันที
บนโต๊ะมีกาน้ำชาวางอยู่หนึ่งใบ ฝากาเปิดเอาไว้ ขนาดของกานั้นใหญ่กว่าตัวนางเล็กน้อย ปากกาแคบมาก
เดิมทีตัวของนางลอดผ่านปากกาไม่ได้ แต่ในช่วงความเป็นความตาย นางไม่รู้ไปเอาแรงมาจากที่ใด จึงพยายามเบียดตัวเข้าไปข้างในได้สำเร็จ
ตอนที่เตียวขาวกระโจนเข้ามา นางก็เบียดตัวเข้าไปในกาน้ำชาได้ทั้งตัวโดยสมบูรณ์แล้ว
กาน้ำชาถูกเตียวขาวชนจนตกจากโต๊ะ กลิ้งกลุกๆ ไปบนพื้น แต่ไม่ได้แตก
หรูเสี่ยวนันที่อยู่ด้านในลอบดีใจยกใหญ่
เตียวขาวตัวใหญ่กว่านาง กรงเล็บยื่นเข้าไปในกาน้ำชาไม่ได้ มันกระวนกระวายจนข่วนปากกาน้ำชาไม่หยุด
“เจ้าตัวเล็ก เก่งจริงก็เข้ามาสิ” หรูเสี่ยวนันขดตัวอย่างได้ใจอยู่ในกาน้ำชา
เตียวขาวเดินวนไปมารอบกาน้ำชาพลางส่งเสียงขู่ผ่านลำคอ
กาน้ำชาถูกมันปัดหมุนไปมา หรูเสี่ยวนันสัมผัสถึงความรู้สึกคล้ายกำลังเมารถเมาเรือทีละนิด
รีบหยุดเดี๋ยวนี้ จะอ้วกแล้ว…
ในตอนนี้เองมีเสียงทหารลอดเข้ามาจากข้างนอก “มีคนเห็นสัตว์วิเศษที่หนีไปเข้าไปในกระโจมนี้ รบกวนเปิดทางด้วย พวกเรารับคำสั่งมาตรวจค้น”
จากนั้นหรูเสี่ยวนันก็ได้ยินเสียงของเสวียนอวี้ เหมือนเขาคิดจะขวางทหารเหล่านั้น แต่สุดท้ายคนเหล่านั้นยังคงบุกเข้ามา
เตียวขาวทิ้งกาน้ำชาแล้ววิ่งผลุบหายออกไปทันที