แม่นางเหลียนเงยหน้าขึ้นมองแวบหนึ่งก็หน้าแดงระเรื่อ รีบก้มหน้าลงอย่างรวดเร็ว แล้วย่อตัวคารวะพลางเอ่ย “ซื่อจื่อจะมาเหตุใดไม่ส่งคนมาแจ้งก่อนล่ะเจ้าคะ บ่าวจะได้ให้คนจัดเตรียมอะไรสักหน่อย”
ชิงโม่เหยียนไม่ได้มองแม่นางเหลียนเลยแม้แต่น้อย เขาเดินผ่านข้างตัวนางไปทันที
แม่นางเหลียนได้ยินเสียงลมหายใจของเขารัวเร็วก็รู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง ชิงโม่เหยียนอายุเกินยี่สิบแล้ว ทำการใดมีความสุขุมมาตลอด มาปรากฏต่อหน้าคนอื่นด้วยท่าทางรีบร้อนเช่นนี้ถือเป็นครั้งแรกจริงๆ
“เจ้าตัวเล็ก มานี่”
แม่นางเหลียนได้ยินเสียงเรียกของชิงโม่เหยียน
“จี๊ดๆ” แมวป่าตัวนั้นเดินโงนเงนเข้ามา
ท่ามกลางสายตาตกใจของทุกคน ชิงโม่เหยียนโน้มตัวลงอุ้มแมวป่าตัวน้อยที่ทั้งดำทั้งผอมตัวนั้นเข้ามาในอ้อมกอด
สาวใช้หลายคนที่ยืนอยู่ข้างกายแม่นางเหลียนลอบขยับถอยไปข้างหลัง เว้นระยะห่างกับแม่นางเหลียน
แม่นางเหลียนเบิกตาโตอ้าปากค้างอย่างตกใจ “ซื่อ…ซื่อจื่อ เจ้าเดรัจฉานตัวนี้สกปรกมาก เสื้อของท่าน…”
ชั่วขณะที่ชิงโม่เหยียนอุ้มชะมดเช็ดเข้ามาในอ้อมกอด ดวงตะวันค่อยๆ สิ้นแสง ความมืดเข้าครอบงำบริเวณนี้อย่างช้าๆ
หรูเสี่ยวนันรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าทรวงอกของชิงโม่เหยียนกระเพื่อมขึ้นลงอย่างเร็วแรงมากกว่าทุกครา
บนตัวเขายังมีกลิ่นสบู่ที่หอมมากผสมอยู่ด้วย
เอ่อ…เกิดอะไรขึ้น เหตุใดสีหน้าของท่านจึงแย่แบบนี้
อาการเมากัญชาแมวผ่านไปแล้ว นางจึงมีสติคืนมาไม่น้อย ไม่ว่าจะมองอย่างไร สีหน้าของชิงโม่เหยียนในยามนี้ก็เหมือนก้นหม้อดำมากจริงๆ
“เดรัจฉาน?” ชิงโม่เหยียนหันมองไปรอบๆ พร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “พวกเจ้าหมายถึงใคร”
แม่นางเหลียนกำลังคิดจะเอ่ยปากพูด ก็เห็นสาวใช้ที่หลบมุมอยู่หลายคนนั้นขยิบตาให้นาง
“เสวียนอวี้” ชิงโม่เหยียนสั่งการองครักษ์ที่เดินตามด้านข้างทันที “ไปตามพ่อบ้านในจวนมา ปิดสวนนี้เสีย บ่าวทุกคนขายออกไปให้หมด สำหรับหมาตัวนั้น…ฆ่าทิ้งไปเลย”
“ขอรับ” เสวียนอวี้รับคำ
พวกแม่นางเหลียนตกใจจนหน้าถอดสี แม้แต่หมาเฝ้าจวนตัวนั้นยังร้องคร่ำครวญ
“ซื่อจื่อ! ซื่อจื่อไว้ชีวิตด้วย!”
“อาวู้!”
“ซื่อจื่อ! บ่าวมีความผิด ขอซื่อจื่อเมตตาด้วย”
“อาวู้!”
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 18 มิ.ย. 64 เวลา 12.00 น.