ไมตรีของเราเป็นอันขาดกัน!
หรูเสี่ยวนันโกรธหน้าดำในทันที
ไหนไมตรีนายบ่าวที่ตกลงกันไว้เล่า!
เหตุใดทุกคนล้วนคิดว่าข้าต้องกินสิ่งนี้ ชีวิตของข้าทำไมถึงได้รันทดแบบนี้…
เสวียนอวี้จ้องมองชะมดเช็ดที่พองขนอย่างไม่เข้าใจ
“เจ้าคิดว่ามันชอบกินสิ่งนี้หรือ” เสียงของชิงโม่เหยียนเย็นชาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เสวียนอวี้ยกมือข้างหนึ่งเกาหลังหัวด้วยท่าทางใสซื่อ “ข้าคิดว่ามันชอบมาก ท่านดูสิ มันตื่นเต้นเพียงใด”
ตื่นเต้นกับน้องสาวเจ้าสิ ข้ากำลังโกรธอยู่ต่างหาก!
หรูเสี่ยวนันพ่นลมหายใจฮึดฮัด ถ้าเอาของแบบนี้มาให้ข้ากินอีก ข้าจะข่วนหน้าเจ้าเป็นเส้นมันฝรั่งเลย!
นางแยกเขี้ยวขู่เสวียนอวี้ แต่เสียงที่ออกมากลับเบาหวิวอย่างเห็นได้ชัด ไม่มีความน่าเกรงขามแม้แต่น้อย
ทันใดนั้นมือใหญ่ข้างหนึ่งก็มาบังสายตาของนาง
ในช่วงที่หรูเสี่ยวนันตกตะลึง มือข้างนั้นก็ยื่นเข้ามาหาแล้วบีบให้นางอ้าปากขึ้น
นิ้วสากเคลื่อนไปมาในปากของนางอย่างอุกอาจ ทำให้นางต้องรีบหลบหลีก อยากจะคายนิ้วของอีกฝ่ายออกมา
“ยังเป็นฟันน้ำนมอยู่นี่” ชิงโม่เหยียนสำรวจฟันของนาง “เสวียนอวี้ ไปที่ห้องครัวใหญ่ขอนมแพะมาสักหน่อย”
นมแพะหรือ!
หรูเสี่ยวนันดวงตาเปล่งประกาย
แม้จะเหม็นสาบไปบ้าง แต่อย่างไรเสียก็เป็นอาหารของคน นางจึงได้แต่อดทนรอ
ไม่นาน เสวียนอวี้ก็ยกชามเล็กใบหนึ่งเข้ามา
ครั้งนี้ชิงโม่เหยียนไม่ได้ให้เสวียนอวี้วางชามไว้บนพื้น แต่ยื่นมือไปรับมา
“ซื่อจื่อ” เสวียนอวี้ลังเลใจ “ให้ข้าป้อนก็พอ”
ในสายตาของเขา นายของเขาจับพู่กันได้ จับกระบี่ได้ แต่จะให้อีกฝ่ายมาป้อนอาหารชะมดเช็ดได้อย่างไร
ชิงโม่เหยียนถือชามนมแพะอุ่นครึ่งชามไว้ในมือพลางเอ่ย “ไม่ต้องหรอก เจ้าออกไปเถอะ”
หรูเสี่ยวนันไม่สนใจความเรียบร้อยและสำรวมของสตรีที่งดงามก็กระโจนเข้าไปก้มหัวลงในชามทันที
“อึกๆๆๆ…”
ให้ตายเถอะ ชามนี้ทำไมลึกแบบนี้ ข้าจะจมน้ำตายแล้ว