ให้ตายเถอะ! นี่พิษกู่กำเริบอีกแล้วหรือ
หรูเสี่ยวนันยังไม่ทันได้คิดอะไรมาก นางก็กระโดดเข้าไปในอ้อมอกของเขาทันที
เสียงลมหายใจหอบแรงของชิงโม่เหยียนดังขึ้นเหนือหัว หรูเสี่ยวนันตกใจจนเหงื่อผุดท่วมตัว
หลายวันมานี้นางนอนจนมึนงง ดังนั้นจึงจำไม่ได้เลยว่าวันนี้เป็นวันที่พิษกู่ของชิงโม่เหยียนกำเริบ กอปรกับที่ผ่านมาตอนพิษของชิงโม่เหยียนกำเริบเขาก็จะหลบห่างจากผู้คน แม้แต่คนในศาลต้าหลี่เองก็มีไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้
“ใครอนุญาตให้เจ้าอยู่ห่างจากข้าโดยพลการ” เสียงเฉพาะตัวของชิงโม่เหยียนดังขึ้น ในความเย็นชาแฝงความเย่อหยิ่ง
ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าวันนี้เป็นวันที่สิบ หลายวันมานี้ข้านอนตลอด…
หรูเสี่ยวนันอยากร้องไห้แต่ร้องไม่ออก
ชิงโม่เหยียนเห็นนางตื่นตระหนกทำอะไรไม่ถูกก็ลอบดีใจ
แท้จริงแล้วเมื่อครู่เขาจงใจไม่เตือนสตินาง แม้ว่าความเจ็บปวดตอนพิษกู่กำเริบจะทำให้เขาแทบบ้า แต่หากสามารถใช้ความเจ็บปวดนี้แลกผลประโยชน์ยิ่งใหญ่ได้ เขาก็ยินดีจะทดลองดู
หรูเสี่ยวนันเห็นชิงโม่เหยียนมีสีหน้าเย็นชา จึงรีบงัดสิบแปดกระบวนท่าสัตว์เลี้ยงแสนน่ารัก ทำตัวน่ารักประจบเอาใจ ส่งเสียงร้องที่ทำให้หัวใจคนอ่อนไหวได้
ชิงโม่เหยียนกลั้นรอยยิ้มมุมปากที่ใกล้จะออกมาไว้อย่างไม่ง่ายนัก ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “ในเมื่อสำนึกผิดแล้ว ก็ควรจะแสดงความจริงใจเสียบ้างจึงจะถูก”
ความจริงใจ? ความจริงใจของข้ามีมากอยู่แล้ว ไม่เห็นหรือว่าข้าถูไถท่านจนขนแทบหลุด
ชิงโม่เหยียนยื่นแก้มมาพลางพูดเสียงเอื่อยว่า “มานี่ จูบตรงนี้ทีหนึ่ง แล้วข้าจะคิดดูว่าจะอภัยให้เจ้าดีหรือไม่”
จูบทีหนึ่ง?
หรูเสี่ยวนันขนลุกในทันที
รองตุลาการ ท่านร้ายกาจแบบนี้เชียวหรือ ท่าทางอวดดีเช่นนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน เป็นฝ่ายขอให้คนอื่นจูบแท้ๆ ท่านก็ควรจะแสดงความจริงใจสักนิดสิ!
เสียงคำรามดังยาวต่อเนื่อง
ชิงโม่เหยียนมองดูชะมดเช็ดน้อยเบิกดวงตาโง่เซ่อ มุมปากยกยิ้มพลางเอ่ย “ทำไมล่ะ เจ้ายังคิดว่ากินสัตว์เป็นๆ ดีกว่าหรือ”
หรูเสี่ยวนันได้ยินเช่นนั้นก็แทบบ้า อยากจะข่วนหน้าเขาให้เป็นรอยสักรอยจริงๆ
ชิงโม่เหยียนยื่นแก้ม รอนางเดินมาหาอย่างอดทน
หรูเสี่ยวนันนั่งลงบนตักของเขา สายตากวาดมองมือของเขา…บนนั้นเป็นรอยข่วนเล็กๆ แม้ว่าจะไม่มีเลือดซึมออกมา แต่แผลเหล่านั้นแค่ดูก็รู้ว่าถูกตัวอะไรข่วนมา
ข้าเป็นคนทำจริงหรือ
หรูเสี่ยวนันจ้องมือของเขานิ่ง ในสมองว่างเปล่า นางจำไม่ได้ว่าเคยข่วนเขาไปตอนไหน
ชิงโม่เหยียนรู้สึกว่าเจ้าตัวเล็กเงียบลง จึงหันมองไปทางมัน
ลิ้นเล็กสีชมพูอมแดงยื่นออกมา เลียไปบนนิ้วของเขา ความชุ่มชื้นที่แฝงด้วยความอุ่นร้อนชวนให้รู้สึกจั๊กจี้นิดๆ
“ไม่ใช่ตรงนี้” ชิงโม่เหยียนกลั้นหัวเราะ ชี้ไปที่แก้มตนเอง “ต้องจูบตรงนี้”
ความรู้สึกผิดเพียงนิดของหรูเสี่ยวนันที่เพิ่งเกิดขึ้นหายไปในพริบตา
คนผู้นี้คิดจะทำอะไรกันแน่ เหตุใดถึงอยากให้ข้าไปจูบแก้มนะ