หรูเสี่ยวนันกัดเล็บเท้าอย่างกระวนกระวาย ในใจสับสน
ครั้งก่อนนางเลียปากเขาโดยไม่ตั้งใจ แต่นั่นเป็นความไม่ตั้งใจ ไม่นับเป็นเรื่องใหญ่โตอะไร ทว่าครั้งนี้เขากลับเป็นฝ่ายเสนอเอง
“ทำไม ไม่ยินดีหรือ” ชิงโม่เหยียนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ช่างเถอะๆ ใครให้เขาเป็นเจ้านายข้าเล่า ตอนนี้ย่อมจะล่วงเกินเขาไม่ได้จริงๆ
หรูเสี่ยวนันลังเลอยู่สักพักก็ตัดสินใจว่าอย่างไรเสียตอนนี้นางก็เป็นสัตว์อยู่ แม้จะจูบก็ถือเสียว่าจูบเนื้อชิ้นหนึ่งไปแล้วกัน นางจึงปีนขึ้นไปตามแขนของเขา ไต่ขึ้นไปนั่งนิ่งบนบ่าของเขาอย่างคล่องแคล่ว
ชิงโม่เหยียนเอานิ้วชี้จิ้มแก้มตนเอง
หรูเสี่ยวนันขบกรามฟันน้ำนม ขนพองขึ้นทั่วตัว ท่าทางเช่นนั้นทำให้ชิงโม่เหยียนพอใจมากยิ่งขึ้น
ไม่ว่ามันจะยินดีหรือไม่ก็ตาม มันก็นับเป็นสัตว์เลี้ยงของเขา แม้ว่ามันจะเป็นของบรรณาการให้ฮ่องเต้ เขาก็จะไม่ปล่อยมือ…เขาต้องการมัน
ขณะเดียวกันเขาก็หวังว่ามันจะพึ่งพาเขา เชื่อใจเขาได้เช่นกัน
นอกจากเขาแล้ว เขาไม่อยากให้คนอื่นพบเห็นและแตะต้องมัน มันจะกินของที่เขาป้อนให้กินเท่านั้น ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นมันจะปฏิเสธ
เขาจ้องเจ้าตัวเล็กขนฟูที่มานั่งอยู่บนไหล่เขา เห็นมันยื่นปากเล็กด้วยความโมโห สัมผัสบนใบหน้าเขาทำให้รู้สึกจั๊กจี้
มุมปากชิงโม่เหยียนยกโค้งสูงขึ้นในทันใด
“จำไว้ว่าเจ้าเป็นสัตว์เลี้ยงของข้า ไม่ว่าเจ้าจะเปลี่ยนเป็นอย่างไร เจ้าก็เป็นของข้า” ชิงโม่เหยียนบีบปลายหูของมันพลางเอ่ย
รอจนมันเปลี่ยนเป็นหญิงสาว จูบนี้คงน่าตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิมกระมัง
ชะมดเช็ดน้อยร้องจี๊ดๆ อยู่ในมือเขา พยายามจะหลบฝ่ามือมารอุกอาจของเขา
ชิงโม่เหยียนลูบเล่นจนพอแล้ว จึงได้อุ้มหรูเสี่ยวนันออกมาจากห้องหนังสือ และออกจากศาลต้าหลี่เพื่อกลับไปที่จวนโหว
ระหว่างที่อยู่บนหลังม้า ชิงโม่เหยียนยัดชะมดเช็ดน้อยเข้าไปในอกเสื้อ แล้วยื่นมือไปลูบหัวของมันที่โผล่ออกมา
เสวียนอวี้ขี่ม้าอยู่ข้างๆ ลอบมองชิงโม่เหยียน เขาปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้เป็นนายของเขาอารมณ์ดีขึ้นจริงๆ
ในเวลาที่ผ่านมา ยามที่ชิงโม่เหยียนจำเป็นต้องกลับบ้านจะเอาแต่ปั้นหน้าเครียด แต่วันนี้เสวียนอวี้เห็นมุมปากของซื่อจื่อยกโค้งจนมองเห็นได้อย่างชัดเจนทีเดียว
แล้วมองไปยังชะมดเช็ดที่อยู่ในอ้อมอกซื่อจื่อ ดูเหมือนมันจะหงุดหงิด อ้าปากงับมือของซื่อจื่อไม่หยุด ท่าทางเป็นสัตว์เล็กที่ดุร้าย
แต่แม้จะเป็นเช่นนี้ชิงโม่เหยียนกลับไม่โกรธ ดึงเชือกบังคับม้ามือเดียว อีกมือที่ว่างก็ลูบขนบนตัวมันไปมา
“เตรียมของขวัญวันเกิดให้ท่านพ่อเสร็จหรือยัง” เสียงของชิงโม่เหยียนยังคงเย็นชาเหมือนที่ผ่านมา จับอารมณ์ความรู้สึกอะไรไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
เสวียนอวี้เอ่ยตอบ “เตรียมเสร็จนานแล้วขอรับ แต่ครั้งนี้หากยังให้ข้าไปส่งให้แทนท่านอีกคงไม่ค่อยดีกระมัง…ปีที่แล้วกับปีก่อนตอนวันเกิดท่านโหวท่านก็ไม่ไปให้เห็นหน้า…”
ชิงโม่เหยียนนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยตอบ “รู้แล้ว”
หรูเสี่ยวนันงับนิ้วมือของชิงโม่เหยียนพลางตั้งใจฟังบทสนทนาของพวกเขา
นางมองข้ามน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ของชิงโม่เหยียนไป ทั้งสมองของนางคิดเพียงว่างานวันเกิดท่านโหว ถึงตอนนั้นต้องมีของอร่อยไม่น้อยแน่นอน