แม้แต่กลิ่นชะมดเช็ดบนตัวเจ้าตัวเล็กก็ไม่อาจระงับการกำเริบของพิษกู่ได้
นี่อาจเป็นลิขิตสวรรค์ ปล่อยให้เขาสบายมาตั้งนาน แต่สุดท้ายสวรรค์ยังคงจะเอาตัวเขาไปอยู่ดี
ในสายตาของคนอื่น เขาเพียงแค่นอนสงบอยู่ตรงนั้น ไม่มีใครสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่กัดกินถึงกระดูก เขารู้สึกราวกับหัวใจถูกกัดกินทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่เขากลับไม่อาจหยุดยั้งมันได้เลย
เขาไม่อาจขัดขืนได้ ไม่อาจส่งเสียงร้องได้ ทำได้เพียงเป็นเหมือนเนื้อชิ้นหนึ่งที่อยู่บนเขียง ปล่อยให้พิษกู่ทำอะไรกับร่างกายเขาได้ตามอำเภอใจ
ริ้วสีเขียวนูนขึ้นที่ผิวของเขาหลายริ้ว ราวกับมีงูนับไม่ถ้วนซ่อนอยู่ใต้ผิวนั้น
ครั้งนี้…คงไม่ไหวแล้วจริงๆ กระมัง
เขาคิดเช่นนี้ แต่น่าเสียดายที่มีเรื่องบางเรื่องที่เขายังไม่รู้แน่ชัด…มีคำตอบบางอย่างคงต้องถูกกลบฝังไปตลอดกาล
อีกอย่าง…น่าเสียดายที่เขาไม่มีโอกาสเห็นเจ้าตัวเล็กเติบโตด้วยตาตนเอง
ชีวิตของสัตว์นั้นสั้นมาก ก็แค่เวลาสิบกว่าปี เพียงพริบตาเจ้าตัวเล็กก็เติบโตแล้ว น่าเสียดาย…
ในสมองไม่รู้ว่าเหตุใดจู่ๆ จึงปรากฏภาพเด็กหญิงตัวอวบอ้วนผู้หนึ่งขึ้นมา
“เจ้าตัวเล็ก…”
“หุบปาก!” เสียงเด็กเล็กเสียงหนึ่งเหมือนแสงสว่างส่องเข้ามาในโลกมืดมิดของเขา “หลิงเป่าเทียนจุน* ปลอบประโลมกายใจ…จิตวิญญาณแห่งศิษย์ อวัยวะห้าองค์สถิตแดนลึกเร้น…”
ชิงโม่เหยียนรู้สึกว่ามีมือเล็กคู่หนึ่งวางไว้ตรงทรวงอกของเขา เมื่อเสียงเด็กเล็กนั้นดังขึ้น ความเจ็บปวดเหมือนถูกกัดกินกระดูกจางหายไปราวกระแสน้ำซัดผ่าน ทำให้เขาสั่นสะท้านไปทั้งร่าง
“อย่าขยับ” เสียงเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมพูดครวญ “กว่าจะสะกดมันลงไปได้ไม่ง่ายเลย ถ้าท่านขยับส่งเดชอาจจะตายได้”
ชิงโม่เหยียนไม่กล้าขยับตัวอีก เขาพยายามจะลืมตาขึ้น แต่หนังตาหนักราวกับถูกภูเขาลูกใหญ่กดทับเอาไว้
แม้จะเป็นเช่นนี้ เขายังคงพยายามจะลืมตาขึ้น
“เป็นอย่างไรบ้าง ไม่เจ็บแล้วสินะ” เสียงเด็กหญิงแฝงไปด้วยความภาคภูมิใจ
ภาพตรงหน้าชิงโม่เหยียนเลือนรางไม่ชัดเจน แต่ทุกอย่างกำลังค่อยๆ ดีขึ้น เขารับรู้ได้ว่าพิษกู่ในร่างถูกสะกดลงไปแล้ว แม้เขาจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายใช้วิธีอะไรก็ตาม
เด็กหญิงอายุสี่ห้าขวบผู้หนึ่งนั่งอยู่ข้างกายเขา ผมดำขลับยาวลากถึงพื้น สิ่งที่พิเศษที่สุดก็คือนางมีดวงตาสีเขียวคู่หนึ่งราวกับหยกชั้นเลิศ แฝงประกายวาววับดึงดูดใจคน
พอเด็กหญิงเห็นเขาลืมตาขึ้นก็หดไหล่ ท่าทางหวาดกลัว
ชิงโม่เหยียนคิดว่านางจะแอบหนีไป ทว่าเขาเดาผิด นางเพียงแค่ก้มหน้าลง และซ่อนใบหน้าเข้าไปในผมยาวของตนเอง
“เจ้าตัวเล็ก…เป็นเจ้าหรือ” ดวงตาชิงโม่เหยียนยกโค้งขึ้น แม้เขาจะขยับไม่ได้ แต่เขายังได้กลิ่นหอมจากตัวนางได้ นั่นเป็นกลิ่นชะมดเช็ดจางๆ เหมือนกับตอนที่นางยังเป็นชะมดเช็ดน้อยอยู่ กลิ่นหอมนี้ไม่ได้จางหายไปเพราะนางกลายร่างเป็นคน
สิ่งที่ทำให้เขาเสียใจก็คือไม่มีใครตอบคำถามของเขา
รอจนร่างกายของเขาผ่อนคลายขึ้น สามารถลุกขึ้นนั่งได้แล้ว เด็กหญิงข้างกายก็หายตัวไป สิ่งที่มาแทนที่ก็คือเจ้าก้อนขนสีดำนั้น ขดตัวนอนหลับสนิทอยู่บนตัวเขา
ชิงโม่เหยียนจ้องเจ้าก้อนขน รอยยิ้มในดวงตาของเขาราวกับส่องสว่างไปทั่วทั้งห้อง