แม้สายลมยามค่ำคืนในฤดูใบไม้ผลิจะเย็น แต่ก็ไม่เย็นจนถึงขั้นทิ่มแทงกระดูก มีไอน้ำจากความชื้นในตอนกลางวันอยู่บ้าง ทว่าก็ทำให้เหนียวตัวอย่างยิ่ง
เหลียงเว่ยผิงมองดูใบหน้าขาวๆ ตรงหน้าเขา ก่อนหายใจเข้าลึกๆ เพื่อทำให้ตนเองไม่เป็นลมไปเสียก่อน แม้แต่เสียงที่ถามคำถามก็ยังอดสั่นเทาเล็กน้อยไม่ได้ “จะ…เจ้าพูดอะไรของเจ้า”
หมัดที่ซ่อนอยู่ใต้แขนเสื้อกว้างของหลินหวั่นชิงกำแน่น ตอบเหมือนกำลังต่อสู้ด้วยอารมณ์กับใครบางคนอยู่ “ข้าบอกว่าข้าจะไปสอบปากคำหวังหู่”
ทันทีที่พูดจบแขนเสื้อของเขาก็ถูกเหลียงเว่ยผิงจับไว้แน่น
“น้องชาย…น้องรัก ถือว่าพี่เหลียงขอร้องเจ้า อย่ารนหาที่ตายอีกเลย…”
หลินหวั่นชิงเหลือบมองท่าทางที่มีทั้งเสียงและน้ำตาพรั่งพรูออกมาของเหลียงเว่ยผิง แต่กลับดูเหมือนจะไม่ได้ยินคำพูดของเขา ดึงแขนเสื้อของตนเองกลับแล้วเดินอย่างรวดเร็วไปทางที่ว่าการเมืองหลวง
“หลิน!…หลินหวั่นชิง! หลินหวั่นชิง หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เหลียงเว่ยผิงไล่ตามอยู่ด้านหลัง เดือดดาลเป็นอย่างยิ่ง แต่หลินหวั่นชิงไม่ยอมหันกลับมาเลย แม้แต่ฝีเท้าก็ไม่ลังเลแม้แต่น้อย
เหลียงเว่ยผิงรู้สึกถึงเส้นเลือดดำที่ขมับเต้นตุบๆ “เจ้ารู้หรือไม่ว่าการบุกรุกห้องขังนักโทษประหารที่ว่าการเมืองหลวงมีโทษสถานใด”
“เดิมทีข้าก็เป็นคนของที่ว่าการเมืองหลวง จะเรียกว่าบุกรุกได้อย่างไร” หลินหวั่นชิงย้อนถามอย่างมีเหตุมีผล
“แต่เจ้าถูกสั่งพักงานแล้ว”
“เจ้าเมืองหลี่ให้ข้าพักงานพรุ่งนี้ ซึ่งก็หมายความว่าก่อนยามจื่อ คืนนี้ข้ายังคงเป็นคนของที่ว่าการเมืองหลวงอยู่”
“…” เหลียงเว่ยผิงชะงัก ราวกับว่าในเรื่องการชี้แจงเหตุผลเขาไม่มีวันเถียงสู้หลินหวั่นชิงได้
“เจ้าจะต้องไปให้ได้เช่นนั้นหรือ” เหลียงเว่ยผิงหายใจแผ่วเบาแล้วเอ่ยถามคล้ายกับหมดหวัง
“อื้ม” คำพูดที่หนักแน่นเพียงคำเดียวในยามค่ำคืนกลับดังกังวานและทรงพลังเป็นพิเศษ
ค่ำคืนที่ยาวนาน ภายใต้แสงไฟสลัวๆ ข้างถนนที่ไม่สว่างพอ สรรพสิ่งรอบตัวเลือนราง เหลียงเว่ยผิงมองไปที่ใบหน้าด้านข้างที่ซูบผอมเกินไปของหลินหวั่นชิง ภายในดวงตาสะท้อนแสงสลัวที่กลอกกลิ้งไปมา
จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างชัดเจนขึ้นมา ช่างเถอะ นิสัยดื้อรั้นของคนผู้นี้กำเริบขึ้นมาเมื่อไร ม้าสิบตัวก็ดึงกลับมาไม่ได้ คนผู้นี้มีเพียงนิสัยนี้ที่ไม่น่ารัก แต่ก็เพราะนิสัยนี้ที่ทำให้น่ารักที่สุดเช่นกัน…
“ข้าอยู่ที่เรือนชิงหย่านะ” เหลียงเว่ยผิงหยุดฝีเท้าที่ฉวัดเฉวียนของตนเอง มองเห็นร่างสีเทาอ่อนๆ ยิ่งเดินยิ่งไกลออกไปทุกทีและค่อยๆ หายไปในความมืด ก่อนจะถอนหายใจอย่างจนใจ
เขาอยู่ที่เรือนชิงหย่าเพราะไม่อยากตามหลินหวั่นชิงไปหาที่ตาย แต่หากเกิดเรื่องขึ้นกับเขา หลินหวั่นชิงก็จะได้รู้ว่าจะไปเก็บศพของเขาได้ที่ใด