ตอนที่ 4
สตรีร่างระหงในชุดเสื้อที่ทำด้วยผ้าเครปสีพาสเทลกับกางเกงขายาวสีเทาเข้มดูอ่อนหวาน และทะมัดทะแมงอย่างเหมาะเจาะลงตัวตรงดิ่งสู่ห้องจัดเลี้ยงด้วยอิริยาบถที่งามสง่า แม้ว่าสีหน้าและแววตาจะปกปิดความวิตกกังวลไว้ได้ไม่มิดชิดก็ตาม
เพียงแค่ท่าไหว้อ่อนน้อม กิริยาสุภาพ วาจาไพเราะ และรับฟังคำตำหนิรุนแรงอย่างสงบ ยอมรับผิด ก็ทำให้ผู้เสียหายคลายความเดือดดาลลงมาก และเมื่อได้พิจารณาดวงหน้าสวยซึ่งแต่งแต้มไว้อย่างประณีตบรรจงมีแววเหนื่อยอ่อน ดวงตาหวานซึ้งมีรอยแห่งความเสียใจถ่องแท้และกังวลอย่างลึกซึ้ง ผู้เสียหายก็หยุดการต่อว่าต่อขานลงในระยะเวลาไม่นานนัก
อรกานต์ขอโทษเจ้าภาพอย่างสุภาพ แสดงความเสียใจและขอน้อมรับในความผิดทุกอย่าง ทางโรงแรมเต็มใจจะชดใช้ค่าเสียหายให้อย่างเต็มที่ แต่ขณะนี้หล่อนขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายให้ช่วยเร่งแก้ปัญหากันก่อน ซึ่งก็ได้รับความร่วมมืออย่างดี
ทางสตูดิโอบอกเล่าคอนเซ็ปต์ของงานให้หล่อนฟังอย่างคร่าวๆ อธิบายให้ฟังว่าในตอนแรกนั้นต้องการจะจัดสถานที่ให้ออกมาในรูปแบบอย่างไร
และด้วยสายตาของจิตรกรเอก เมื่อมองปราดแล้วสมองจึงสั่งการทันที “โต๊ะกับเวทีจัดตามแบบที่เตรียมไว้ได้เลย ซุ้มด้านหน้านี่อาจต้องเปลี่ยนแปลงนิดหน่อย แต่คุณลองจัดในแบบที่เตรียมไว้ก่อนนะคะ เดี๋ยวฉันจะช่วยดู”
จากนั้นหล่อนก็ขอตัว ปลีกมาโทรศัพท์
“ฮัลโหล นิล”
“ว่าไงไอ้อ้อ นึกไงโทรมาเวลานี้วะ ทำงานอยู่”
“แกต้องช่วยฉันนะโว้ย แกต้องช่วยฉันก่อน ถ้าแกไม่ช่วย ฉันตายแน่ๆ”
“…ขอตัวสักครู่นะคะ” นิลยาคงพูดกับใครสักคนทางโน้น ก่อนจะหันมาแหวใส่หล่อน “เออ มีอะไร ว่ามา”
อรกานต์เล่าสถานการณ์ให้เพื่อนฟังคร่าวๆ ก่อนจะเข้าประเด็น “พอจะมีรูปภาพอะไรมาใช้แทนภาพนี้ก่อนมั้ย ภาพอะไรก็ได้ที่มันมีขนาดใหญ่และเกี่ยวกับงานแต่งได้น่ะ”
“ภาพอะไรล่ะ”
“ได้ข่าวว่าพวกไอ้นนท์เปิดแกลลอรี่อยู่ไม่ใช่เหรอ ลองถามดูให้หน่อยดิ ภาพใหญ่ประมาณตัวคนครึ่งตัวน่ะ จะเป็นแนวแอ็บสแตร็กต์หรือจะเป็นรูปหงส์คู่ ม้าคู่ อะไรทำนองนี้ก็ได้ ฉันขอเช่ามาใช้สักคืน คิดค่าเช่ามาได้เลย…เอ้อ! รูปกามเทพแผลงศรที่ฉันเคยวาดส่งอาจารย์ก็ได้นะ แกเก็บไว้ไหนล่ะ”
“ขายไปแล้ว ไอ้พวกนั้นยังชมว่าขายได้หลายตังค์ดี เอาเป็นว่าเดี๋ยวฉันลองโทรถามดูให้ก่อนแล้วกัน ได้เรื่องยังไงเดี๋ยวจะโทรไปบอก”
“อืม”
อรกานต์วางสายจากเพื่อนรักก็ตรงกลับไปยังห้องจัดเลี้ยงอีกครั้ง ซุ้มหน้างานเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง เจ้าหน้าที่กำลังช่วยกันจัดดอกไม้แต่งซุ้ม
ยังไม่ทันได้เริ่มคิดเติมแต่งอะไร ก็มีใครคนหนึ่งเผลอทำแผ่นโฟมชื่อเจ้าบ่าว – เจ้าสาวหักดังเป๊าะ หล่อนถึงกับสะดุ้งวาบ ใจหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม
สิ่งแรกที่ทำคือ ตรงเข้าไปปลอบเจ้าภาพของงานว่าไม่ต้องเป็นห่วง แล้วแจ้งทางสตูดิโอให้ช่วยจัดเตรียมแผ่นป้ายใหม่
“ป้ายนี่ ทางเราให้ทางโรงแรมทำให้นะคะ”
“คะ!” อรกานต์ที่รีบตรงดิ่งไปแก้ปัญหา ชักรู้สึกว่าหมู่นี้หล่อนจะอุทานคำนี้บ่อยไปเสียแล้ว
“คนทำป้ายนี้กลับไปแล้วค่ะ คุณไทร่า” พนักงานคนหนึ่งรายงาน
“คนหัวหน้ากลับค่ะ คนอื่นยังอยู่”
“ดี ฉันขอทีมงานกับอุปกรณ์ทั้งหมด ด่วนเลย”
แล้วเมื่ออุปกรณ์พร้อม อรกานต์ก็ลงมือลุยเองจริงๆ ให้มันรู้ซะบ้างว่ามือระดับไหนแล้ว แค่เขียนตัวหนังสือกับระบายสีแค่นี้ กระจอก!
หล่อนร่างภาพตัวอักษรอย่างงดงาม จากนั้นก็ระดมทีมงานให้ช่วยกันลงสี
โทรศัพท์จากนิลยาดังขึ้นพอดี หล่อนจึงเดินเลี่ยงออกมา
“ฮัลโหล นิล ว่าไง”
“มีรูปแอ็บสแตร็กต์นะ เป็นโครงร่างผู้หญิงผู้ชายกอดกัน แต่มองอีกทีก็เป็นรูปหงส์คู่ได้”
“เยี่ยมเลย!”
“ไอ้นนท์กำลังขนขึ้นรถไปให้ อีกไม่เกินชั่วโมงคงถึง”
“ขอบใจมากนะนิล”
“อืม เต็มใจว่ะ”
“งั้นแค่นี้ก่อนนะ จะไปทำงานต่อ”
อรกานต์เดินกลับเข้าไปที่ห้องจัดเลี้ยง หยุดพิจารณาที่ซุ้มดอกไม้ “คุณคะ จัดไม่หลวมไปหรือคะ”
“คือ…” ตัวแทนจากเวดดิ้งสตูดิโออึกอักเล็กน้อย “ดอกไม้เราน้อยน่ะค่ะ ตอนแรกเราคิดว่าได้ห้องฝั่งโน้น ซึ่งทางเข้ามันจะแคบกว่านี้”
“ทางเราแจ้งไปแล้วนะคะ ว่าเค้าได้ห้องนี้” ฝ่ายสถานที่ของโรงแรมรีบโต้กลับ
อรกานต์ถอนหายใจ แล้วตั้งคำถามใหม่ “แล้วฐานที่ตั้งรูปภาพต้องจัดดอกไม้เป็นพุ่มไว้ด้วยมั้ยคะ”
“ดอกไม้มีแค่นี้ ไม่ต้องจัดก็ได้มั้งคะ รูปก็ไม่มีด้วย”
“เดี๋ยวมีค่ะ ฉันจะหารูปอื่นมาวางให้ คุณแบ่งดอกไม้มาจัดที่ฐานนี่กลุ่มนึงดีกว่า ที่ซุ้มจัดให้หลวมหน่อย กระจายดอกใหญ่ไว้ให้ทั่ว เดี๋ยวฉันช่วยแต่งเอง”
“ยังไงคะ”
“ขอฉันคุยกับแผนกจัดซุ้มดีกว่าค่ะ จะได้พูดครั้งเดียว”
ผู้หญิงร่างเล็กผู้กำลังตั้งหน้าตั้งตาจัดดอกไม้อย่างขะมักเขม้นละงานในมือ เดินมาหาหล่อน
“เดี๋ยวคุณจัดดอกไม้ลักษณะนี้นะคะ เอาดอกสีชมพูเข้มนั่นวาง…”
เมื่อบรรยายภาพในใจพอสังเขปให้หญิงผู้นี้ฟังแล้ว แม่งานกิตติมศักดิ์ก็กวักมือเรียกพนักงานโรงแรม “น้องนั่งตุ๊กตุ๊กไปที่ตลาดนะ ไปที่ร้านขายของชำตรงกลางซอยน่ะ รู้จักมั้ย”
พนักงานพยักหน้าแสดงความคุ้นเคยอย่างดี