ซ่งอิ้งเทียนหลุบตามองดวงหน้าเล็กขาวซีดของหญิงสาว เขาจำได้ชัดเจนว่าวันที่เก็บนางได้ ใบหน้านางถูกกัดเป็นแผลหลายจุดจนเสียโฉม แต่หลายวันก่อนตอนนางฟื้นขึ้นมา แผลเหล่านั้นกลับเริ่มมีเนื้อมาเติมเต็ม แม้จะยังขรุขระไม่เรียบ ทว่าก็แตกต่างราวกับเป็นคนละคนกับก่อนหน้านี้
แรกเริ่มเขาไม่ได้ใส่ใจ เขาใส่ยาให้นางและปิดแผลเหล่านั้นไว้ จวบจนวันนั้นเมื่อเปลี่ยนยาให้นาง ล้างยาบนใบหน้าออกอย่างระวังถึงได้สังเกตเห็น
แม้ยานั้นจะเป็นยาปลูกเนื้อที่ปรุงจากตำรับยาที่ท่านตาทิ้งไว้ให้ แต่แผลนี้ก็หายดีเร็วเกินไปหน่อย โดยทั่วไปจะให้แผลหายดีถึงเพียงนี้อย่างน้อยต้องใช้เวลาสี่ห้าเดือน แต่นี่เพิ่งผ่านมาไม่กี่วันเท่านั้นเอง
ชั่วขณะหนึ่งเขายังคิดจริงๆ ว่าตนจำผิดไป ทว่าบาดแผลอื่นๆ บนร่างกายนางก็เป็นเช่นนี้
เพราะอย่างนี้สองวันก่อนเขาจึงเริ่มสังเกตหญิงผู้นี้มากขึ้นเล็กน้อย
ร่างกายนางมีบาดแผลมากมาย ล้วนไม่ได้เกิดจากดาบกระบี่ กลับเหมือนถูกสัตว์ป่าจู่โจม ตอนเขาเก็บนางได้ นางเหมือนตุ๊กตาผ้าเก่าขาดที่ถูกหมาป่ากัดแทะ ทั้งที่บาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนั้นกลับรอดชีวิตมาได้ แม้แต่เขาเองยังประหลาดใจ
มองแขนที่ขาดของนางแล้วย้อนคิดถึงสภาพของนางในตอนแรก เกรงว่าสิ่งที่ไล่ล่านางคงมิใช่หมาป่า แต่เป็นสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าหมาป่า
ถ้าสิ่งที่ไล่ล่านางเป็นอย่างที่ใจเขาคิด ย่อมเป็นเรื่องปกติที่นางจะชอบถือมีดไว้ป้องกันตัว
ในใจเขาพลันเข้าใจ ดังนั้นจึงอดสังเกตและจดบันทึกไม่ได้
ร่างกายของหญิงผู้นี้ตอบสนองดีมาก ให้อะไรก็ดูดซับได้ทั้งหมด กินมากเท่าไรยิ่งฟื้นฟูเร็วมากขึ้นเท่านั้น ไม่เพียงดูออกจากภายนอก ตอนเขาจับชีพจรให้นาง ยังตรวจพบว่าอวัยวะภายในที่ได้รับบาดเจ็บของนางกำลังฟื้นฟูด้วยความเร็วอันน่าตกใจ
ความเร็วในการฟื้นฟูของนาง เทียบกับศิษย์น้องหญิงแล้วเร็วกว่า เทียบกับตัวอย่างคนไข้ในตำราแพทย์ที่อาจารย์ซุน ท่านตา และท่านพ่อท่านแม่บันทึกไว้แล้วเร็วกว่า เทียบกับลักษณะที่อาจารย์ปู่เคยบรรยายไว้ก็ยังเร็วกว่าด้วยซ้ำ
ดูเหมือนร่างกายนางจะรู้ว่าต้องซ่อมแซมอวัยวะภายในที่สำคัญก่อน จากนั้นเป็นผิวหนัง สุดท้ายจึงจะเป็นแขนข้างนั้น ดังนั้นแผลตรงหน้าอกและช่องท้องของนางจึงสมานเข้าด้วยกันก่อน ตามด้วยศีรษะ ใบหน้า และมือเท้า
เนื่องจากการตอบสนองของนางดีเกินไป เขาจึงขนยาทั้งหมดที่มีออกมาป้อนนาง จากนั้นจับชีพจรให้นางตามลักษณะของยาที่ป้อนให้ ตรวจดูการตอบสนองแล้วจดบันทึกไว้อย่างละเอียดทั้งหมด
นอกจากป้อนยาแล้ว เมื่อนางไม่ต่อต้านอาหารที่เขาป้อนอีก เขาไม่เพียงตุ๋นน้ำแกงปลา ยังซื้อแม่ไก่แก่มาจากชาวนา ตุ๋นน้ำแกงไก่ให้นางกิน
เห็นหญิงผู้นี้ค่อยๆ ดีขึ้นทุกวันด้วยการดูแลอย่างพิถีพิถันของเขา ช่างทำให้คนอารมณ์ดีโดยแท้
แต่พวกน้ำแกงของเหลว โจ๊กเปล่าเนื้อบด เมื่อกินได้สักพักเขาเดาว่านางน่าจะอยากกินอย่างอื่นบ้าง ทว่านางมักจะแกล้งหลับ เขามิอาจฝืนยัดน่องไก่เข้าไปในปากนางได้จริงๆ…
ช้าก่อน ข้าทำได้หรือไม่นะ
ซ่งอิ้งเทียนมองหญิงสาวที่แกล้งหลับต่อ กระดกมุมปากขึ้นช้าๆ
เขาจงใจ
กลิ่นหอมของไก่ย่างลอยมาอย่างต่อเนื่อง
แม้ไม่ได้ลืมตา นางก็รู้ว่าชายผู้นั้นต้องจงใจแน่
เขาไม่ได้ใช้เตาดินเผาสีแดงใบเล็ก แต่จงใจเลือกทำเลที่อยู่ต้นลม ก่อหินบนพื้น ตั้งโครงสำหรับย่าง และเริ่มก่อไฟย่างไก่
ไก่ตัวนั้นอ้วนมาก ย่างแล้วทั้งมันและเนื้อฉ่ำแวววาว น้ำมันที่ส่งกลิ่นหอมหยดลงมาไม่หยุด ทุกครั้งเวลาน้ำมันจากตัวไก่หยดลงบนถ่านจะเกิดเสียงดังฉี่ฉ่า ทำให้กลิ่นหอมเข้มข้นกว่าเดิม
นางหิวแล้ว หิวมากเหลือเกิน
นางอดทนแล้ว ทนแล้วทนอีก จนกระทั่งเขาฉีกน่องไก่ข้างหนึ่งออกมา กินอย่างเอร็ดอร่อยพร้อมเสียงดังแจ๊บๆ
ชั่วเวลานั้นนางพลันรู้สึกว่าการทำเช่นนี้โง่ยิ่งนัก
เขารู้ว่านางตื่นอยู่ รู้ว่านางแกล้ง รู้มาโดยตลอด ในเมื่อเป็นเช่นนี้นางยังจะนอนอยู่ตรงนี้ทำไม
ชายผู้นั้นจับชีพจรให้นางวันละสามเวลา ถ้าเขาเป็นหมอที่ไม่ได้เรื่องก็แล้วไปเถอะ แต่เขากลับไม่ใช่
น่าโมโห! น่าตายนัก!