แม้เติบโตขึ้นมาแล้ว เขาจะพบว่าเรื่องที่อาจารย์ปู่บันทึกไว้ค่อนข้างสะเปะสะปะ แต่เรื่องที่บันทึกไว้หาใช่เรื่องเหลวไหลที่แต่งขึ้นเองอย่างแน่นอน
นางอ่านใจได้ ทั้งยังพูดคุยกับสัตว์ได้กระมัง เหมือนเช่นวันนั้นที่นางตำหนิเขาในหัว ลาตัวนั้นถึงได้เชื่อฟังนางถึงเพียงนั้น พริบตาเดียวก็เหยียดขาทั้งสี่วิ่งทะยานออกไป
นางมีสายเลือดแห่งเทพ ดังนั้นจึงถูกมารปีศาจไล่ล่า
บ้านเมืองของนางอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ แต่กลับไม่พบร่องรอยแล้ว ที่ว่าพันปีเกรงว่าคงมิใช่เพียงตำนาน นางถูกมารปีศาจกัดกินเช่นนั้นยังรอดชีวิตมาได้ เกรงว่าคงจะไม่แก่และไม่ตายจริงๆ
เดิมทียังอยากเอ่ยถามว่าเรื่องใดที่สามารถทำให้นางฝันร้ายอย่างต่อเนื่อง จดจำความแค้นและความกลัว ไม่ไว้ใจคนได้ถึงเพียงนั้น
แต่หากพันปีที่ผ่านมานางถูกไล่ล่ากัดกินเหมือนเหยื่อมาตลอด ก็ไม่แปลกที่นางจะเป็นเช่นวันนี้ที่พูดโกหกได้หน้าตาเฉย ถูกคนเห็นเรือนร่างอันเปลือยเปล่าก็ไม่เขินอาย ไม่ว่ากับคนหรือปีศาจล้วนไม่ปรานีแม้แต่น้อย นัยน์ตาแดงก่ำมักฉายแววโกรธเกรี้ยวเคียดแค้น
หลายวันมานี้เขามักอดคิดไม่ได้ว่านางผ่านวันเวลาเหล่านั้นมาได้อย่างไร
คิดว่าในอดีตเกิดอะไรขึ้นกับนางกันแน่
จวบจนบัดนี้เขายังจดจำวันที่อยู่ในโรงเตี๊ยมสุนทรีเยือนได้ จดจำความตื่นตระหนกหวาดหวั่นในดวงตานางหลังจากถูกเขาฝังเข็มเงินจำกัดการเคลื่อนไหวให้อยู่แต่บนเตียงได้
นัยน์ตาแดงก่ำที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวสุดขีดประทับแน่นอยู่ในหัวสมองเขา ปัดอย่างไรก็ไม่ออก
เขารู้ดี นางต้องเคยถูกมารปีศาจกักขังไว้ กินเนื้อนาง ดื่มเลือดนางมาก่อนแน่ๆ ถึงได้ตระหนกกลัวถึงเพียงนั้น
มีชีวิตอยู่เช่นนาง มิสู้ตายไปยังดีเสียกว่า
แต่นางตายไม่ได้กระมัง
ซ่งอิ้งเทียนหยิบขวดแก้วใสใบหนึ่งออกมาจากอกเสื้อ มองของเหลวสีแดงสดที่บรรจุอยู่ในนั้น เลือดคนทั่วไปเมื่อออกจากร่างกายแล้วจะจับตัวแข็งและเปลี่ยนสี กลายเป็นสีแดงที่เข้มขึ้นจนเกือบดำ แต่เลือดนี้กลับยังคงแดงสด ทั้งยังไม่จับตัวแข็ง ดูเหมือนเลือดที่เพิ่งไหลออกมาอย่างไรอย่างนั้น
สายเลือดแห่งเทพเช่นนั้นหรือ
ของสิ่งนี้เก็บไว้ไม่ได้กระมัง
เขายื่นมือออกไปหมายจะโยนมันลงในเตาฝังพื้นและเผาทิ้งเสีย แต่ในชั่วเวลาสุดท้ายกลับหดมือกลับมา
ถูกปีศาจสาปแช่งเพื่อแบ่งปันเป็นอาหาร…ถ้อยคำที่อาจารย์ปู่เขียนไว้ผุดขึ้นในหัวอีกครั้ง
ร่างกายนางมีคำสาปร้ายอยู่หรือ อยู่ในโลหิตอย่างนั้นหรือ
เขาคิดพลางวางมันลงบนพื้น ยกมือขึ้นวาดมือไม้สร้างข่ายอาคมเล็กๆ ขึ้นกลางอากาศคลุมขวดแก้วไว้
ทันใดนั้นโลหิตในขวดแก้วก็เปล่งประกายประหลาด แสงและเงาสะท้อนอยู่กลางอากาศ
อักขระโบราณเปล่งแสงอ่อนจาง ซ้อนกันเป็นวงแหวนหลายชั้นตัดสลับกันไปมา บางวงเล็กมาก บางวงค่อนข้างใหญ่ วงแหวนถี่แน่นซ้อนทับกันจนกลายเป็นลูกแสง ทั้งยังหมุนไม่หยุด
ซ่งอิ้งเทียนมองคำสาปตรงหน้าอย่างนิ่งงัน ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง
คาถาทั่วไปมีสามชั้นก็นับว่าเก่งแล้ว หากร้ายกาจกว่านั้นหน่อย บางทีอาจสร้างขึ้นมาถึงเจ็ดแปดชั้น แต่เจ้าสิ่งที่อยู่ตรงหน้า มองดูแล้วไม่ใช่ร้อยชั้นก็ต้องมีถึงแปดสิบเก้าสิบ เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน
เขามองดูครู่หนึ่งอย่างพูดไม่ออก ก่อนจะโบกมือเก็บข่ายอาคมของตน ลูกแสงที่ประกอบขึ้นจากคาถาตรงหน้าพลันหายวับไป
หลังขบคิดดูแล้ว เขายังคงลุกขึ้นหยิบกล่องไม้ใบเล็กมาเก็บขวดแก้วลงไปในนั้น ยกมือขึ้นวาดวงกลมบนผนัง ก่อนจะยัดกล่องไม้เข้าไปในวงกลมและทำให้ผนังกลับสู่สภาพเดิม จากนั้นค่อยเอนกายลง ซุกตัวเข้าไปในผ้าห่ม
แม่มดอายุพันปี…
บางทีเขาควรปล่อยนางจากไป นี่ไม่ใช่แค่ความยุ่งยาก แต่เป็นเผือกร้อนก้อนหนึ่ง