เธอไม่รังเกียจถ้าจะต้องตกแต่งบ้านให้กิตติยุทธ เพียงแต่ลืมไม่ได้เลยว่าแฟนของเขาคือใคร ต่อให้เดาว่าบ้านที่เขาพูดถึงไม่น่าจะใช่เรือนหอในเมื่อเขาเพิ่งคบกับดาราสาวไม่นาน ทว่าถ้าอีกฝ่ายยื่นมือมาเกี่ยวข้องล่ะก็…มันต้องดูไม่จืดแน่ตอนนีรัมพรเจอหน้าเธอ
ชายหนุ่มเบือนหน้ามาตอนรถติดไฟแดง เขาทำท่าจะพูดอะไรบางอย่าง แต่โทรศัพท์ของเขาก็ส่งเสียงร้องเตือนว่ามีสายเรียกเข้า พร้อมกับที่หน้าจอตรงคอนโซลเปลี่ยนภาพให้ข้อมูลว่า ‘Baby’ โทรมา เขาเลยหยิบหูฟังบลูทูธมาใส่แล้วกดบนจอของรถเพื่อรับสาย
“ว่าไงครับบี๋”
คำว่า ‘บี๋’ น่าจะย่อมาจากเบบี๋ซึ่งพวกคู่รักมักใช้เรียกแทนตัวกัน มันก็น่ารักดี แต่ประเด็นก็คือปลายสายต้องเป็นนีรัมพรแน่ๆ และมันก็ย้ำเตือนให้จิระประไพตระหนักว่าเวลานี้วงโคจรของเธอกับอีกฝ่ายกลับมาเฉียดใกล้กันอีกครั้งแล้ว ซึ่งก็ได้แต่หวังว่ามันจะไม่ถึงขั้นพาดผ่านกัน เธอไม่ได้คิดผูกใจเจ็บนีรัมพร กลัวใจอีกฝ่ายนั่นแหละ ยิ่งตอนนี้ดาราสาวเป็นแฟนของลูกค้า…เธอไม่อยากให้งานมีปัญหา
มัณฑนากรสาวนั่งมองนู่นมองนี่นอกรถ ทำหูทวนลม ไม่ฟังบทสนทนาของกิตติยุทธกับคนรัก จนกระทั่งสังเกตว่าใกล้ถึงสถานีรถไฟฟ้าจึงหันไปหาชายหนุ่ม เขาทำท่าว่าคุยโทรศัพท์เพลิน เธอจะส่งเสียงเรียกก็เห็นว่าอาจไม่เหมาะในเมื่อเขาคุยกับแฟนอยู่ หลังจากหันรีหันขวางอยู่ชั่วขณะจึงตัดสินใจสะกิดแขนเขาเบาๆ พออีกฝ่ายหันมาเธอก็ชี้ไปที่สถานีรถไฟฟ้า เขาเลยทำท่านึกขึ้นได้
ชายหนุ่มหมุนพวงมาลัยเปลี่ยนเลน ส่วนจิระประไพก็ปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วหยิบข้าวของ พอรถจอดเทียบบาทวิถีใกล้บันไดทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้าเธอก็หันไปยกมือไหว้ขอบคุณเจ้าของรถ ซึ่งเขาก็ส่งยิ้มมาให้
“แล้วเจอกันครับ”
คนเป็นมัณฑนากรผงะไปนิดหนึ่ง นึกไม่ถึงว่าเขาจะพูดออกมา แต่สุดท้ายในเมื่อทำอะไรไม่ได้เธอจึงส่งยิ้มให้เขาแล้วรีบลงจากรถ
“เฮ้อ” หญิงสาวถึงกับถอนหายใจออกมาดังๆ ขณะมองรถคันหรูเคลื่อนตัวห่างออกไป จากนั้นเธอก็หมุนกายเดินขึ้นบันไดไปสู่สถานีรถไฟฟ้า
ความจริงจิระประไพไม่ได้กำลังจะกลับออฟฟิศเหมือนทุกครั้ง ทว่าเธอกำลังจะไปตึกสำนักงานของภักดิ์โภคิน หลังจากคุยแต่กับบังอรคนเดียวมาพักหนึ่ง ในที่สุดเธอก็สามารถขอนัดเจอเจ้าของบ้านได้สำเร็จ…ก็ได้แต่หวังว่าพัชรจะชอบงานที่เอาไปเสนอ เธอจะได้พ้นไปจากคนกลุ่มนี้เสียที
“ถ้ายังไงรบกวนคุณจีรอสักครู่นะคะ”
“ค่ะ” จิระประไพส่งยิ้มให้สตรีวัยกลางคน จากนั้นก็เฝ้ามองอีกฝ่ายถือแฟ้มเอกสารเดินห่างออกไป
บังอรเป็นเลขานุการของพัชร เนื่องจากเขาบอกให้ติดต่อเรื่องบ้านผ่านเลขาฯ มัณฑนากรสาวก็ทำตามนั้น ก่อนหน้านี้เธอติดต่อบังอรเรื่องการทำบัญชีเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน ตอนแรกยังคิดว่าอาจต้องเข้าไปจัดการเอง แต่อีกฝ่ายบอกว่าพวกภักดิ์โภคินทำบัญชีทรัพย์สินกันเป็นปกติ ดังนั้นบังอรจึงบอกว่าจะส่งคนไปจัดการทำบัญชีเฟอร์นิเจอร์ที่บ้านของเจ้านายให้ และเพียงสองวันให้หลังบัญชีที่ว่าก็ถูกส่งมาถึงมือเธอที่ Archwin
บัญชีนั้นสมบูรณ์มาก เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นถูกถ่ายภาพไว้อย่างละเอียดลออและมีการทำรหัสเอาไว้อย่างเป็นระบบ อาชวินติดต่อบริษัทข้างนอกมาประเมินราคาเฟอร์นิเจอร์เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาเรื่องความโปร่งใส และเขาก็บอกให้ทีมมัณฑนากรลองเลือกเฟอร์นิเจอร์พวกนี้ไว้ก่อนเลย เพราะมันอาจจะสามารถเอาไปใช้ในงานอื่นๆ ที่ทำอยู่ได้ เนื่องจากเฟอร์นิเจอร์ในบ้านพัชรทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมดน่าจะมีสภาพดีเทียบเท่าของใหม่ทีเดียว
ส่วนวันนี้จิระประไพเอาตัวอย่างงานออกแบบแรกมาให้พัชรดู และเธอก็จะใช้คอมเมนต์ของเขาในวันนี้เป็นจุดตั้งต้นในการทำงานต่อ เพราะถึงจะเก็บข้อมูลจากตอนเจอกันครั้งแรกไว้พอสมควร แต่เธอก็ไม่แน่ใจเกี่ยวกับความต้องการของเขา ในเมื่อสิ่งที่เขาพูดมามันค่อนข้างกว้าง