ทดลองอ่าน ซ่อนรักชายาลับ บทที่ 10-บทที่ 12 – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ซ่อนรักชายาลับ

ทดลองอ่าน ซ่อนรักชายาลับ บทที่ 10-บทที่ 12

ยามนี้ภายในห้องหนังสือไม่มีใครอยู่ ชุยสิงโจวนั่งอยู่ตามลำพังที่โต๊ะหนังสือไม้จันทน์ สายตามองดูท้องฟ้าสีครามภายนอกหน้าต่าง

บนโต๊ะมีจดหมายขอหน้าที่การงานให้ญาติสนิทวางอยู่หลายแผ่น แผ่นแรกๆ ล้วนเป็นบรรดาหลานของสกุลเหลียนของว่าที่พ่อตา

เพราะว่าท่านน้าเป็นคนนำมาให้เอง ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องไว้หน้าบ้าง แต่พวกที่มาขอการงานเหล่านี้ต่างไร้ความสามารถกันทั้งนั้น เมื่อครู่นี้ในงานเลี้ยงท่านน้ายังผลักไสให้ท่านน้าเขยที่เป็นคนทึ่มทื่อมาคุย ท่านน้าเขยไม่ถนัดพูดจาอ้อมค้อมจึงพูดตะกุกตะกัก ต้องให้ชุยสิงโจวช่วยแก้ไขสถานการณ์อย่างเข้าอกเข้าใจแทน

หนี้น้ำใจประเภทนี้ทุกวันมีมานับไม่ถ้วน หากเป็นปกติชุยสิงโจวจะต้องเห็นแก่หน้าตาของว่าที่พ่อตา จัดการไปอย่างเหมาะสมก็พอแล้ว

แต่ไม่คาดคิดว่าว่าที่พ่อตาจะฟังคำพูดของท่านน้า เรียกบ่าวชายไปสอดส่องที่ตำบลหลิงเฉวียน ทว่ากลับแตะโดนเกล็ดย้อน* ของชุยสิงโจวเข้าให้

ตำบลหลิงเฉวียนหว่านแหคลุมไว้ทั่วเพื่อรอคอยให้โจรกบฏมาติดกับด้วยตนเอง ไฉนจะยอมให้คนมาก่อความวุ่นวายได้?

พวกเรื่องเกี่ยวกับงานเช่นนี้ เขาไม่มีทางอธิบายให้ท่านน้ากับญาติผู้น้องฟังแน่

ชุยสิงโจวไม่ชอบหญิงสาวที่คิดเองเออเอง ไม่ว่าข้อเสนอในวันนี้ของท่านน้ามีความตั้งใจของเหลียนปิ่งหลันอยู่หรือไม่ เขาก็จำเป็นต้องตักเตือนครอบครัวของญาติผู้น้องอ้อมๆ เสียหน่อย

ดังนั้น ‘จดหมายจากครอบครัว’ เหล่านั้นที่เหลืออยู่ เขาจึงโยนทิ้งไปในเตาข้างๆ ทันทีโดยไม่แม้แต่จะเหลือบดู

เรือนหน้ายังมีแขกอยู่มากมาย แต่ชุยสิงโจวรู้สึกเกียจคร้านขึ้นมากะทันหัน ไม่อยากไปพบปะสังสรรค์เพื่อรักษาน้ำใจอีก บรรยากาศของจวนอ๋องครึกครื้นมีเสียงดังอึกทึกเกินไป เขาเพียงอยากอยู่เงียบๆ เท่านั้น

ดังนั้นจึงพาแค่บ่าวชายโม่หรูเดินออกจากประตูหลังของจวนอ๋องเลียบตามริมฝั่งไปขึ้นเรือ

แม้เวลานี้จะเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ แต่อากาศช่วงกลางคืนยังคงหนาวเหน็บ เขาดื่มสุราไปบ้างในงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิด พอถูกลมเย็นพัดใส่ก็รู้สึกว่าฤทธิ์สุราตีขึ้นมาเล็กน้อย

คนพายเรือถามบ่าวชายโม่หรูว่าต้องการจะไปที่ใด

โม่หรูมองท่านอ๋องที่นั่งพิงกราบเรือแล้วก็ตอบไม่ได้ แค่บอกให้อีกฝ่ายพายไปเรื่อยๆ…

ไม่พ้นครึ่งชั่วยามก็มาถึงท่าเรือของตำบลหลิงเฉวียน

งานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดของมารดายังไม่สิ้นสุด พรุ่งนี้เขายังต้องย้อนกลับไป หากไปที่ค่ายทหาร ระยะเวลาเดินทางไปกลับจะกระชั้นชิดเกินไป ดังนั้นจึงนึกถึงบ้านที่มีอยู่บนถนนสายเหนือขึ้นมาเป็นธรรมดา ตอนนี้เป็นเวลากลางดึกไม่มีใครสังเกตเห็นร่องรอยของเขา นับว่าพอจะกล้อมแกล้มนอนหลับสักคืนได้

ดังนั้นหลังชุยสิงโจวสร่างเมาขึ้นมาบ้างแล้วจึงให้คนพายเรือจอดเรือเทียบฝั่ง จากนั้นเดินเอื่อยเฉื่อยท่ามกลางดาราพร่างพราวเหนือศีรษะมาเคาะประตูบ้านบนถนนสายเหนือ

เมื่อพูดถึงหลิ่วเหมียนถัง นับตั้งแต่ซื้อร้านเรียบร้อยก็เร่งให้นายช่างปรับปรุงร้านค้าโดยด่วน

ใช้เวลาแค่ไม่กี่วันก็ซ่อมบำรุงร้านเสร็จคร่าวๆ แล้ว แต่ไม่รู้ว่าสามีตามท่านหมอเทวดาจ้าวไปกินเลี้ยงที่ใดกัน ถึงไม่เห็นกลับมาเสียที

วันนี้ตอนที่นางไปเชิญช่างไม้มาประกอบชั้นวางที่ร้าน ยังคิดว่าสามีน่าจะใกล้กลับแล้วพอดี นึกไม่ถึงว่าพอตกดึกเสียงเคาะห่วงประตูจะดังขึ้นจริงๆ

เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูบ้านหลิ่วเหมียนถังก็รีบลุกขึ้นมาทันที

สองสามวันมานี้นางกลัวว่าสามีจะกลับมาบ้านตอนกลางดึก ตนเองออกมาต้อนรับด้วยสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิงจะดูไม่ดี ดังนั้นก่อนนอนจึงมักให้หลี่มามาช่วยถักเปียยาวให้นางเหน็บไว้หลังหู

ตอนที่ได้ยินเสียงฝีเท้าของสามี นางเปลี่ยนเป็นชุดกระโปรงจีบรอบที่ดูเหมาะสม ทั้งยังแต้มชาดลงบนริมฝีปากนิดๆ จากนั้นสวมรองเท้าปักลายบุปผาเดินออกจากห้องไปต้อนรับในสภาพเรียบร้อย ส่งยิ้มขัดเขินให้สามี “ท่านพี่กลับมาแล้ว!”

เพราะตอนนี้เป็นเวลาดึกมากแล้ว เดิมชุยสิงโจวตั้งใจจะเข้าไปนอนในห้องรองเงียบๆ ใครจะคิดว่าหลิ่วเหมียนถังกลับยังไม่นอน ไม่ทันที่เขาจะเข้าไปในห้องรองนางก็ออกมาต้อนรับแล้ว

มิหนำซ้ำไม่รอให้เขาพูดอะไร ภรรยาตัวน้อยก็เลิกม่านประตูขึ้นรอเขาเดินเข้ามาตาปริบๆ

ชุยสิงโจวเพ่งสมาธิมอง รู้สึกว่าไม่ได้พบหน้าหญิงสาวผู้นี้เพียงไม่กี่วัน นางคล้ายจะงดงามขึ้นอีกแล้ว แม้หลายปีมานี้ชีวิตนางจะยากลำบาก แต่คงเพราะรูปโฉมงดงาม ได้รับการทะนุถนอมจากบุรุษ ไม่เคยให้นางต้องได้รับความลำบากเรื่องกินนอน ผิวกายจึงนวลผ่อง สิ่งที่หมุนวนอยู่ในดวงตาคู่งามก็คือความไร้เดียงสาที่ไม่เคยแปดเปื้อนมาก่อน

เมื่อโดนดวงตาเช่นนี้มองมามักชวนให้คนปลดปราการป้องกันออกโดยไม่รู้ตัว…มิน่าถึงหลอกเถ้าแก่สองร้านนั้นให้ขายร้านแก่นางในราคาถูกๆ ได้

ชุยสิงโจวคิดเช่นนี้อย่างเกียจคร้านพลางเดินเข้าไปในห้องที่เต็มไปด้วยกลิ่นหอมอย่างห้ามตนเองไม่อยู่

หลังมีประสบการณ์ถูกสามีบุกรุกตอนกลางดึกมาสองครั้ง หลิ่วเหมียนถังที่คิดว่าตนเองเป็นภรรยามือใหม่ที่ต้องเริ่มเรียนรู้ใหม่ได้เตรียมตัวไว้พร้อมแล้ว

สองสามวันที่ผ่านมานางพาหลี่มามาไปซื้อเนื้อแดดเดียว ทั้งเตรียมไข่ไก่ ข้าวสาร และน้ำมันไว้พร้อมสรรพ ต่อให้ตอนกลางคืนมี ‘ใครสักคน’ หิวก็สามารถหั่นเนื้อมาผัดหอมๆ กินกับข้าวได้ทันที

นอกจากนี้หลิ่วเหมียนถังยังซื้อถังน้ำใบใหญ่มากมาด้วย เพียงแต่การเผาฟืนต้มน้ำออกจะสิ้นเปลืองไปบ้าง ดังนั้นหลังซื้อมานางก็ตัดใจใช้เองไม่ลง คิดว่ารอสามีกลับมาค่อยต้มน้ำเดือดสองหม้อใหญ่ให้เขาได้แช่น้ำอุ่นคลายความอ่อนล้า

ดังนั้นหลังชุยสิงโจวเข้ามา หลิ่วเหมียนถังจึงเดินนำเขาไปดูเครื่องเรือนใหม่ที่เพิ่มเข้ามาหลังฉากบังลมอย่างกระตือรือร้น

“ฝีมือประกอบถังน้ำของครอบครัวแม่นางเผยแห่งถนนสายเหนือมีชื่อเสียงนัก ข้าเลยสั่งจากบ้านนางมาใบหนึ่ง เพราะว่าเป็นเพื่อนบ้านกันนางยังเก็บเงินข้าน้อยลงอีกครึ่งหนึ่ง! ประเดี๋ยวข้าจะให้หลี่มามาต้มน้ำอุ่นเข้ามาให้ท่านได้อาบน้ำ…”

พูดไปได้ครึ่งทางหลิ่วเหมียนถังก็ได้กลิ่นสุราฉุนกึกลอยมาจากตัวชุยสิงโจว จึงเอ่ยถามอย่างลังเล “ท่านพี่ดื่มสุรามาหรือ”

ยามนี้ฤทธิ์สุราชั้นเลิศที่ดื่มไปในงานเลี้ยงกำลังตีขึ้นมา ชุยสิงโจวจึงผลักหลิ่วเหมียนถังออก แล้วล้มตัวนอนบนเตียงโดยไม่แม้แต่ถอดรองเท้า

วันนี้เขารู้สึกหงุดหงิดใจ ไม่มีอารมณ์แสร้งทำตัวเป็นสามีจริงๆ แค่อยากจะนอนโดยไม่มีใครมารบกวนเท่านั้น

หากหญิงสาวผู้นี้วางแผนร้ายใดไว้ เวลานี้ก็นับเป็นโอกาสที่ดีที่สุดแล้ว!…แม้ชุยสิงโจวจะโดนฤทธิ์สุรารบกวน ถึงอย่างนั้นก็ยังคงคิดอย่างเย้ยหยันตนเองถึงจุดนี้ได้

เขาปิดตาลงพลางฟังเสียงฝีเท้าแผ่วเบาภายในห้อง ไม่รู้ว่าหลิ่วเหมียนถังเดินออกไปพูดอะไรกับหลี่มามาที่ข้างนอก ผ่านไปครู่หนึ่งถึงเพิ่งกลับมา

ชุยสิงโจวหลับตานอนนิ่ง แต่หูกลับได้ยินเสียงสวบสาบ เพียงไม่นานผ้าอุ่นผืนหนึ่งก็โปะลงมาบนหน้าผากเขาเบาๆ

ที่แท้เมื่อครู่หลิ่วเหมียนถังไปยกอ่างน้ำมา จากนั้นชุบผ้าให้เปียกแล้วเช็ดใบหน้าชุยสิงโจวให้

แต่หลิ่วเหมียนถังเช็ดไปครู่หนึ่งก็เห็นชุยสิงโจวย่นคิ้วน้อยๆ คล้ายไม่พอใจที่มีคนมารบกวนการนอน

ยามนี้หากเป็นสาวใช้ในจวนอ๋องจะต้องสังเกตเห็นสีหน้า ไม่กล้ารบกวนการพักผ่อนของท่านอ๋องอีก ยิ่งไม่กล้านำผ้าเปียกมาเช็ดบนใบหน้าท่านอ๋องตรงๆ โดยไม่มีคำสั่งจากเขา

แต่หลิ่วเหมียนถังมิใช่สาวใช้ แต่เป็นคนที่หลงคิดว่าตนคือภรรยาตัวจริงของสามีสกุลชุย สุราเหล่านั้นมีกลิ่นหอมหวลยามอยู่ในไห ทว่าหลังลงท้องรอผ่านไปอีกสองสามชั่วยามก็จะส่งกลิ่นเหม็นไม่น่าดมแล้ว

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ซ่อนรักชายาลับ

  • ซ่อนรักชายาลับ

    ทดลองอ่าน ซ่อนรักชายาลับ บทที่ 144-145

    By

    บทที่ 144 หลิ่วเหมียนถังนึกไม่ถึงว่าฝีปากแม่สามีจะมีความก้าวหน้า พริบตาเดียวก็เล่นงานจุดอ่อนนางเข้าตรงเป้า นางเอ่ยอย่างหมดความมั่นใจทันที “ข...

  • ซ่อนรักชายาลับ

    ทดลองอ่าน ซ่อนรักชายาลับ บทที่ 142-143

    By

    บทที่ 142 ต่อหน้าผู้อื่นกัวอี้ก็นับว่าสุภาพอ่อนน้อม แต่ยังคงถูกคำพูดไม่กี่คำของหลี่กวงไฉยั่วยุจนโทสะขึ้นหัว สุดท้ายไม่มีเวลาไปสนใจความสุภาพอ...

  • ซ่อนรักชายาลับ

    ทดลองอ่าน ซ่อนรักชายาลับ บทที่ 140-141

    By

    บทที่ 140 เพราะเมื่อกลางวันนอนหลับไปตื่นหนึ่ง พอตกดึกทั้งสองจึงไม่ง่วงนอน ทรมานกันไปเช่นนี้จนขอบฟ้ามีแสงเรื่อเรืองสีขาว ชุยสิงโจวกินอิ่มหนำส...

  • ซ่อนรักชายาลับ

    ทดลองอ่าน ซ่อนรักชายาลับ บทที่ 138-139

    By

    บทที่ 138 หลิ่วเหมียนถังจ้องมองตราประทับของที่ว่าการเมืองหลวงบนกระดาษอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นไปถามร้านข้างๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสำนักคุ้มภัยแห่งน...

  • ซ่อนรักชายาลับ

    ทดลองอ่าน ซ่อนรักชายาลับ บทที่ 136-137

    By

    บทที่ 136 ไหวหยางอ๋องมองจานที่ว่างเปล่าด้วยสีหน้าเคร่งเครียด พร้อมก้าวฉับไวเข้าไปแย่งจานนางมา “ยังจะกินสิ่งนี้อีก อยากถูกตีใช่หรือไม่” หลิ่ว...

  • ซ่อนรักชายาลับ

    ทดลองอ่าน ซ่อนรักชายาลับ เล่ม 3 บทที่ 67 – 68

    By

    บทที่ 67 คิดมาถึงตรงนี้สุยอ๋องก็ก้าวยาวๆ ลงจากเรือ เดินไปถึงตรงหน้าหลิ่วเหมียนถังที่กำลังถูกฟางเซียช่วยประคองเดินช้าๆ แล้วยิ้มทักทาย “พวกเรา...

  • ซ่อนรักชายาลับ

    ทดลองอ่าน ซ่อนรักชายาลับ เล่ม 3 บทที่ 65-66

    By

    บทที่ 65  ลู่เซี่ยนร้อนใจแทบไฟไหม้ ทว่าความทุกข์ในใจนี้กลับไม่อาจระบายปรึกษากับใคร ตอนที่คนของไหวหยางอ๋องมาเรียกตัวเขาก็ได้แต่บากหน้าไปหา คร...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com