ทดลองอ่าน ซ่อนรักชายาลับ บทที่ 10-บทที่ 12 – หน้า 6 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ซ่อนรักชายาลับ

ทดลองอ่าน ซ่อนรักชายาลับ บทที่ 10-บทที่ 12

6 of 6หน้าถัดไป

ตอนเที่ยงวันนั้นหลี่มามาทุ่มเทแรงใจทำไก่ตุ๋นโสมพุทราจีนให้หลิ่วเหมียนถังกินเป็นกรณีพิเศษ

หลิ่วเหมียนถังมองลูกเจี๊ยบสามตัวที่ตุ๋นจนเปื่อยอยู่ในหม้อดิน กลิ่นหอยลอยโชยเข้าจมูก

หลี่มามาเปิดฝาพลางเอ่ย “ช่วงนี้ฮูหยินเจออากาศหนาว คงรู้สึกไม่ค่อยสบายตัว ในน้ำแกงจึงเติมพุทราแดง โก่วฉี่* และโสมคนลงไป สามารถบำรุงร่างกาย ขับไล่ไอหนาวได้…”

แต่หลิ่วเหมียนถังไม่รอให้นางพูดจบก็เอ่ยอย่างปวดใจ “วัตถุดิบที่ดีเพียงนี้ต้องรอให้สามีกลับมาค่อยทำสิ! ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นเหมือนครั้งก่อน สิ้นเปลืองเนื้อไปแต่ไม่เห็นเขากลับมา!”

หลี่มามาหน้าตึงเอ่ย “บุรุษไม่จำเป็นต้องบำรุงเช่นนี้เสียหน่อย ถึงอย่างไรสกุลชุยก็เป็นคหบดี ฮูหยินไม่จำเป็นต้องประหยัดเกินไป”

โบราณว่าไว้เขื่อนยาวพันลี้** พังทลายเพราะรังมด*** ไม่ได้เกิดขึ้นในวันเดียว ตอนนี้หลิ่วเหมียนถังนับว่ามองออกแล้ว…การตกอับของสกุลชุย นอกจากเจ้านายไม่ถนัดดูแลกิจการ บ่าวรับใช้ไม่รู้จักมัธยัสถ์เองก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยอย่างมาก

แต่หลี่มามาเองก็ปรารถนาดี ดังนั้นแม้หลิ่วเหมียนถังมองรากโสมต้นใหญ่แล้วจะปวดใจอย่างมากก็ไม่อาจตำหนิมากมาย ได้แต่กำชับว่าวันหน้าเวลาหลี่มามาใช้สมุนไพรราคาแพงเช่นนี้มาทำอาหารจะต้องบอกนางก่อน ทั้งยังต้องทำตอนที่สามีอยู่บ้านด้วย

พูดจนสีหน้าหลี่มามาดำคล้ำมากขึ้นเรื่อยๆ ตักน้ำแกงให้นางเงียบๆ ด้วยสีหน้ามึนตึง จากนั้นวางลงตรงหน้านางแรงๆ พร้อมเอ่ย “ฮูหยินพูดถูกแล้ว วันนี้บ่าวยุ่งมากไปเอง!”

หลิ่วเหมียนถังมองแล้วตักน้ำแกงดื่มอึกเล็กๆ เมื่อน้ำแกงอุ่นร้อนไหลลงท้องก็อุ่นซ่านไปทั่วร่างกายทันที

นางช้อนสายตาซึ้งใจมองหลี่มามาที่ยังคงมีสีหน้าโมโหก่อนเอ่ย “มามาอย่ารังเกียจที่ข้าบ่นจู้จี้ไปเลย เพียงแต่เงินทองในบ้านตอนนี้มีอยู่ไม่มาก รอเปิดร้านมีรายได้เข้ามาเมื่อใด ทุกคนในบ้านก็สามารถกินเนื้อทุกวันได้แล้ว…ถึงเวลานั้นไม่ต้องพูดถึงข้าเลย แม้แต่มามาก็จะได้ดื่มน้ำแกงไก่ตุ๋นโสมทุกวันด้วยซ้ำ มามาไม่เคยทอดทิ้งสกุลชุยไปที่ใด ข้าต้องขอบคุณมามาแทนสามีด้วย”

หลี่มามาได้ยินประโยคนี้ก็ทำหน้ามึนตึงต่อไปไม่ไหว เพียงถอนหายใจเบาๆ หยิบตะเกียบยาวขึ้นมาฉีกเนื้อไก่ออก แล้วคีบน่องชิ้นเล็กใส่ลงไปในถ้วยของหลิ่วเหมียนถัง

นางไม่รู้ว่าวันหน้าท่านอ๋องจะจัดการกับหญิงสาวผู้นี้เช่นไร แต่วันเวลาที่จะได้มีเนื้อกินเช่นนี้อาจเหลืออยู่ไม่มากแล้ว นางพูดไม่เก่ง สั่นคลอนความคิดของท่านอ๋องไม่ได้ เพียงแต่ด้วยความเห็นใจจึงทำอาหารจานเนื้อให้หญิงสาวน่าสงสารผู้นี้กินมากขึ้นหน่อย…

 

วันที่เปิดร้านภายใต้การเลือกสรรอย่างตั้งใจของหลิ่วเหมียนถังก็ได้กำหนดวันมงคลไว้เป็นช่วงกลางเดือน ประทัดสีแดงเพลิงยาวสองสายถูกแขวนไว้บนประตู มีป้ายร้าน ‘ร้านเครื่องเคลือบอวี้เซา’ ที่สั่งทำใหม่แขวนอยู่ ใช้ผ้าสีแดงผืนหนึ่งปิดเอาไว้ก่อน

แม้สกุลชุยจะไม่มีญาติสนิทมิตรสหายอยู่ที่นี่ แต่เพื่อให้บรรยากาศดูครึกครื้น หลิ่วเหมียนถังยังคงเชิญพวกเพื่อนบ้านมาเป็นแขกเหรื่อให้

มาถึงตอนนี้คนในตำบลถึงได้รู้ว่าแท้จริงแล้วซื้อร้านทั้งสองไว้ก็คือสกุลชุยที่เพิ่งย้ายมาอยู่ใหม่บนถนนสายเหนือ

มีพวกชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านสืบราคาที่ชุยฮูหยินซื้อร้านค้าทั้งสองมา ต่างพากันอิจฉาจนพูดไม่ออก ลอบทอดถอนใจถึงความเฉลียวฉลาดของชุยฮูหยิน

มองดูการตกแต่งใหม่ภายในร้าน เครื่องเคลือบดินเผาเงาวับ บวกกับที่ชุยฮูหยินจัดการทุกอย่างอย่างคล่องแคล่วฉับไว บรรดาหญิงออกเรือนที่ชอบเกาะกลุ่มนินทาเหล่านั้นกลับไม่รู้สึกว่าภรรยาพ่อค้าที่ฉลาดเฉลียวผู้นี้เป็นอนุของขุนนางสักคนแล้ว

แม้ชุยฮูหยินจะงดงามเกินไปบ้าง แต่ก็เป็นคนที่ตั้งใจทำงานหาเลี้ยงปากท้องจริงๆ

หากเป็นพวกหญิงนางโลมขายรอยยิ้ม แต่ละคนล้วนใช้ชีวิตสุขสบายมาจนเคยชิน แล้วก็ใช้เงินกันจนเคยตัว มือเติบฟุ่มเฟือย ทำตัวโอ้อวดต่อหน้าผู้คนทั้งนั้น ไฉนเลยจะทนความลำบากอย่างการทำการค้าได้

ในยามนั้นบรรดาเพื่อนบ้านต่างเอ่ยอวยพรกันจากใจจริง ขอให้กิจการของชุยฮูหยินเจริญรุ่งเรือง

แต่ในวันเปิดร้านเช่นนี้ทุกคนกลับไม่เห็นเถ้าแก่ร้านปรากฏตัวเสียที ได้ยินชุยฮูหยินบอกว่าสามีไปกราบไหว้อาจารย์หมากล้อมชื่อดังคนหนึ่งเป็นอาจารย์ การเรียนสำคัญ ไม่อาจลงจากภูเขามาได้

ทันใดนั้นทุกคนเข้าใจขึ้นมาทันควัน ที่แท้ก็เป็นบุปผางามบนโคลนเหลวที่ก่อเป็นกำแพงไม่ได้*!

ที่แท้สามีสกุลชุยผู้นี้ก็เป็นคุณชายเสเพลผู้หนึ่ง เถ้าแก่ร้านที่ปัดความรับผิดชอบตัวจริง! เอาแต่ปล่อยให้หญิงงามเพียงนี้ออกมาเปิดเผยใบหน้าดูแลกิจการ แต่เขากลับศึกษาพิณ หมาก คัดอักษร วาดภาพ ตีไก่ เล่าเรียนพวกเรื่องที่ล้วนทำเงินไม่ได้…

น่าเสียดาย น่าเสียดายนัก! โฉมงามมีความสามารถปานนี้กลับฝากฝังชีวิตไว้กับคนที่ไม่เหมาะสม แต่งให้กับสามีที่ไม่ได้ความเช่นนี้!

นอกจากอารามทอดถอนใจ ยังมีพวกที่เห็นรูปโฉมงดงามของชุยฮูหยินแล้วเกิดความคิดชั่วร้ายขึ้นมา ในเมื่อสามีของชุยฮูหยินไม่ค่อยอยู่บ้าน ไม่รู้เหมือนกันว่าเรือนหอนั้นว่างเปล่าหรือไม่ รอยามวิกาลจะต้องแวะเวียนไปดูที่ประตูหลังบ้านชุยฮูหยินสักหน่อยแล้วว่าได้แง้มช่องไว้ให้คนมุดเข้าไปหรือไม่…

ช่วงเวลานั้นความคิดของผู้คนทั้งในและนอกร้านแตกต่างหลากหลาย รอเสียงประทัดห้าสายดังขึ้น หมายถึงความสุขทั้งห้ามาเยือน ผ้าสีแดงก็ปลดลงท่ามกลางเสียงตีฆ้อง ร้านค้าสกุลชุยเปิดกิจการอย่างเป็นทางการในตำบลหลิงเฉวียนแล้ว

แต่การเปิดร้านทำการค้าไม่ง่ายดายเหมือนกับการเปิดผ้าสีแดงออกเท่านั้น

ร้านเครื่องเคลือบดินเผาภายในตำบลมีอยู่มากมาย การแข่งขันนับได้ว่าดุเดือด ร้านเก่าแก่ที่ยืนได้มั่นคงเหล่านั้นต่างคุ้นเคยกันและมีลูกค้าประจำ ขอเพียงมีลูกค้าเข้ามาเรื่อยๆ ย่อมไม่มีปัญหาเรื่องเส้นทางทำการค้าอีก ถึงขั้นมีหลายร้านที่เปิดโรงเตาเผาขึ้นเอง ผลิตเองขายเอง ประหยัดขั้นตอนไปได้มาก

แต่ร้านเครื่องเคลือบอวี้เซาเป็นร้านใหม่ บวกกับไม่ใช่คนท้องถิ่นจึงไม่ได้มีลูกค้าเก่าแต่อย่างใด บุ่มบ่ามเปิดร้านเช่นนี้ย่อมสิ้นเปลืองเงินอย่างไม่ต้องสงสัย

หลังร้านใหม่คึกคักอยู่หนึ่งวันถ้วน หลายวันติดต่อกันจากนั้นล้วนเงียบกริบ ไม่มีลูกค้าเข้ามาในร้านสักคน

 

* ชวนเป่ย คือพื้นที่ทางตอนเหนือของที่ราบลุ่มซื่อชวน ปัจจุบันคือเมืองก่วงหยวน เมืองปาจง และเมืองหนานชง

* ฆ่าลาเมื่อเสร็จงานโม่แป้ง เป็นคำเปรียบเปรย หมายถึงเมื่อบรรลุเป้าหมายแล้วก็ถีบหัวส่ง ลืมบุญคุณของผู้ที่เคยออกแรงเพื่อตน เฉกเช่นการฆ่าลาทั้งที่มันเพิ่งจะช่วยโม่แป้งเสร็จ

* เกล็ดย้อน คือเกล็ดบริเวณใต้คอมังกรซึ่งหันไปในทิศตรงข้ามกับเกล็ดทั่วไป เชื่อกันว่าหากผู้ใดแตะต้องจะทำให้มังกรโกรธเกรี้ยว ภายหลังมักใช้เปรียบเปรยถึงจุดอ่อนหรือขีดจำกัดที่ทำให้ผู้อื่นโมโห

* ม้าสูงโกลนเตี้ย เป็นประโยคเปรียบเทียบ หมายถึงสถานการณ์ที่ยากจะตัดสินใจ ไม่ว่าจะไปต่อหรือถอยหลังกลับล้วนยากทั้งคู่

** ต้นไม้ล้มลิงค่างแตกซ่าน เป็นประโยคเปรียบเทียบ หมายถึงหากผู้มีอำนาจตกอับ คนที่พึ่งพาอาศัยเขาเองก็จะกระจัดกระจาย

* ซีอวี้ (แดนตะวันตก) คือดินแดนทางตะวันตกของด่านอวี้เหมินและด่านหยางกวนในสมัยราชวงศ์ฮั่น ปัจจุบันคือบริเวณเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทางใต้ของเทือกเขาเทียนซาน (เทียนซานหนานลู่) เรื่อยไปจนถึงทางตะวันตกของที่ราบสูงปามีร์ รวมถึงแถบเอเชียกลาง เอเชียตะวันตก และอินเดีย

* ในภาษาจีนมีคำว่า ‘โดนสวมหมวกเขียว’ หมายถึงโดนนอกใจ มีที่มาจากนิทานโบราณที่ว่าภรรยาที่ลักลอบคบชู้ผู้หนึ่ง ทุกครั้งที่สามีจะออกไปไหนไกลๆ หลายวันจะให้สามีสวมหมวกสีเขียว เพื่อเป็นสัญลักษณ์บอกชายชู้ว่าสามีจะไม่อยู่หลายวัน สามารถมาหาได้ ภายหลังหากพูดว่ามีสีเขียวอยู่บนศีรษะ จะมีความหมายในเชิงโดนนอกใจเหมือนกันหมด

* โก่วฉี่ เป็นผลไม้ในกลุ่มเบอรี่หรือที่ภาษาไทยเรียกว่าเก๋ากี้

** ลี้ (หลี่) เป็นหน่วยมาตราวัดของจีน เทียบได้กับระยะทางประมาณ 500 เมตร

*** เขื่อนยาวพันลี้พังทลายเพราะรังมด เป็นสำนวน หมายถึงเรื่องเล็กน้อยที่หากไม่ใส่ใจระมัดระวังก็อาจก่อความเสียหายยิ่งใหญ่

* โคลนเหลวที่ก่อเป็นกำแพงไม่ได้ เป็นคำเปรียบเปรย หมายถึงคนที่ด้อยความสามารถ ไม่มีความสามารถพอจะประสบความสำเร็จ

 

 

ติดตามตอนต่อไปวันที่ 27 .. 65 เวลา 12.00 .

6 of 6หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ซ่อนรักชายาลับ

  • ซ่อนรักชายาลับ

    ทดลองอ่าน ซ่อนรักชายาลับ บทที่ 144-145

    By

    บทที่ 144 หลิ่วเหมียนถังนึกไม่ถึงว่าฝีปากแม่สามีจะมีความก้าวหน้า พริบตาเดียวก็เล่นงานจุดอ่อนนางเข้าตรงเป้า นางเอ่ยอย่างหมดความมั่นใจทันที “ข...

  • ซ่อนรักชายาลับ

    ทดลองอ่าน ซ่อนรักชายาลับ บทที่ 142-143

    By

    บทที่ 142 ต่อหน้าผู้อื่นกัวอี้ก็นับว่าสุภาพอ่อนน้อม แต่ยังคงถูกคำพูดไม่กี่คำของหลี่กวงไฉยั่วยุจนโทสะขึ้นหัว สุดท้ายไม่มีเวลาไปสนใจความสุภาพอ...

  • ซ่อนรักชายาลับ

    ทดลองอ่าน ซ่อนรักชายาลับ บทที่ 140-141

    By

    บทที่ 140 เพราะเมื่อกลางวันนอนหลับไปตื่นหนึ่ง พอตกดึกทั้งสองจึงไม่ง่วงนอน ทรมานกันไปเช่นนี้จนขอบฟ้ามีแสงเรื่อเรืองสีขาว ชุยสิงโจวกินอิ่มหนำส...

  • ซ่อนรักชายาลับ

    ทดลองอ่าน ซ่อนรักชายาลับ บทที่ 138-139

    By

    บทที่ 138 หลิ่วเหมียนถังจ้องมองตราประทับของที่ว่าการเมืองหลวงบนกระดาษอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นไปถามร้านข้างๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสำนักคุ้มภัยแห่งน...

  • ซ่อนรักชายาลับ

    ทดลองอ่าน ซ่อนรักชายาลับ บทที่ 136-137

    By

    บทที่ 136 ไหวหยางอ๋องมองจานที่ว่างเปล่าด้วยสีหน้าเคร่งเครียด พร้อมก้าวฉับไวเข้าไปแย่งจานนางมา “ยังจะกินสิ่งนี้อีก อยากถูกตีใช่หรือไม่” หลิ่ว...

  • ซ่อนรักชายาลับ

    ทดลองอ่าน ซ่อนรักชายาลับ เล่ม 3 บทที่ 67 – 68

    By

    บทที่ 67 คิดมาถึงตรงนี้สุยอ๋องก็ก้าวยาวๆ ลงจากเรือ เดินไปถึงตรงหน้าหลิ่วเหมียนถังที่กำลังถูกฟางเซียช่วยประคองเดินช้าๆ แล้วยิ้มทักทาย “พวกเรา...

  • ซ่อนรักชายาลับ

    ทดลองอ่าน ซ่อนรักชายาลับ เล่ม 3 บทที่ 65-66

    By

    บทที่ 65  ลู่เซี่ยนร้อนใจแทบไฟไหม้ ทว่าความทุกข์ในใจนี้กลับไม่อาจระบายปรึกษากับใคร ตอนที่คนของไหวหยางอ๋องมาเรียกตัวเขาก็ได้แต่บากหน้าไปหา คร...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com