ซ่อนรักชายาลับ
ทดลองอ่าน ซ่อนรักชายาลับ เล่ม 3 บทที่ 65-66
ท่านเฉาถึงได้ตั้งใจมองบ่าวหญิงตรงหน้า
เห็นได้ว่าบ่าวหญิงผู้นี้บุคลิกไม่ธรรมดาจริงๆ จอนผมเรียบแปล้ไม่มีผมหลุดลงมาสักเส้น เอวเหยียดตรงแหน็ว ท่ายืนแฝงความเย่อหยิ่ง ตอนที่มองท่านเฉาแววตานั้นเสมือนเห็นอุจจาระสุนัขอย่างไรอย่างนั้น
แม้หญิงวัยกลางคนจะอายุมาก แต่ยังคงแต่งตัวอย่างพิถีพิถัน ต่างหูกับกำไลที่นางสวมใส่เป็นชุดเดียวกันซึ่งทำมาจากหยกเนื้อดี เสื้อผ้ากับรองเท้ามองดูธรรมดา แต่เนื้อผ้าราคามิสามัญ
แม้แต่ภรรยาที่บ้านเขายังดูดีเทียบเท่าบ่าวหญิงผู้นี้ไม่ได้
ในเวลานั้นกลุ่มชายชราถูกบ่าวหญิงอาวุโสคนหนึ่งทำให้ตกตะลึงจนพูดไม่ออก
แต่ท่านเฉาได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว ถลึงตาเอ่ย “บ่าวคนหนึ่งอย่างเจ้ากล้าพูดเช่นนี้กับข้าหรือ!”
หลี่มามาเป็นบ่าวรับใช้ชั้นสูงของจวนอ๋อง หลังเก็บหอมรอมริบมาหลายรุ่น บุตรชายที่บ้านเปิดร้านค้าด้วยซ้ำ หากถกกันโดยละเอียด กลับมีทุนทรัพย์หนายิ่งกว่าบ้านท่านเฉาเสียอีก
ดังนั้นพอได้เห็นกลุ่มผู้คุ้มภัยหยาบคายกลุ่มนี้ กิริยาท่าทางของหลี่มามาจึงเต็มไปด้วยความดูถูก แค่นเสียงเย็นเอ่ย “ท่านนับเป็นตัวอะไร ต่อให้ผู้ช่วยนายอำเภอของซีโจวหลี่กวงไฉมาที่นี่ ข้าก็จะพูดจาเช่นนี้เหมือนกัน”
ประโยคนี้ของหลี่มามาทำให้ท่านเฉาหัวใจกระตุกวาบ ในเดือนนี้ซีโจวเปลี่ยนผู้ช่วยนายอำเภอคนใหม่ แต่ประกาศแต่งตั้งยังส่งมาไม่ถึงซีโจว ท่านเฉาเองก็ได้ยินผู้ช่วยนายอำเภอคนเก่าแอบบอกมาถึงรู้ว่าผู้ช่วยนายอำเภอคนใหม่ชื่อหลี่กวงไฉ
แต่เรื่องที่เป็นความลับเพียงนี้บ่าวหญิงข้างกายหลิ่วเหมียนถังกลับพูดออกมาได้ในทันที เห็นได้ว่าหลิ่วเหมียนถังผู้นี้จะต้องมีขุนนางคอยช่วยเหลือ!
ทว่าคนเก่าแก่คนอื่นๆ ไม่ได้รู้เบื้องลึกเบื้องหลังด้วย ได้ยินชื่อที่บ่าวหญิงอาวุโสพูดออกมาส่งๆ ซึ่งไม่ใช่ชื่อผู้ช่วยนายอำเภอของที่นี่ก็พากันหัวเราะครืนออกมา! รู้สึกว่านางถลกหนังเสือมาทำเป็นธง* หลอกให้คนตกใจเล่น!
บรรดาคนเก่าแก่กลุ่มนี้ต่างเป็นผู้ฝึกยุทธ์ ไม่พิถีพิถันด้านมารยาท จู่ๆ มาถูกตัดเส้นทางทำมาหากิน ในใจย่อมโมโห กอปรกับนึกดูถูกหลิ่วเหมียนถัง จึงคิดแต่อยากก่อเรื่องใหญ่ให้นางหวาดกลัว
คำโบราณว่าไว้เด็กดื้อต้องดื่มนมมารดาเยอะๆ ได้รับการสั่งสอนให้มากๆ ก่อนหน้านี้ตอนที่นายท่านใหญ่ลู่ร้องจะลดเงิน พวกเขาเองก็ก่อเรื่องจนล้มเหลวไปทั้งเช่นนี้!
บัดนี้เปลี่ยนมาเป็นนางหนูคนหนึ่ง คอยดูเถอะ พวกเขาจะทำให้นางตกใจแล้วค่อยไปร้องไห้โวยวายหน้าบ้านสกุลลู่อีกที รับรองว่าครั้งนี้สกุลลู่จะถูกเล่นงานจนหักเงินไม่สำเร็จอีกเหมือนเดิม
แต่ไม่รอให้พวกเขาเข้าใกล้ หลิ่วเหมียนถังพลันยิงลูกธนูดอกหนึ่งออกมา ได้ยินเสียงเพล้งดังขึ้น ไหใบใหญ่ที่อยู่ห่างสามสิบจั้ง** ใบนั้นถูกยิงแตกกระจาย
ในขณะที่ทุกคนกำลังตกตะลึง หลิ่วเหมียนถังเปลี่ยนทิศยิงลูกธนูออกมาอีกดอก ลูกธนูดอกนี้ยิงผ่านหมวกผ้าโปร่งของชายชราที่นำทัพมาหาเรื่อง แรงของธนูคันเล็กนั้นน่าตกใจ ทำให้เขาเสียหลักหงายหลัง จากนั้นร่างปักตรึงอยู่บนลำต้นไม้ใหญ่ด้านข้าง
ชายชราผู้นั้นตกใจจนหน้าซีดดุจกระดาษ มีเพียงเขาที่รู้ว่าเมื่อครู่นี้ลูกธนูดอกนั้นเฉียดหนังศีรษะเขามาก ขอเพียงเฉกว่านี้ไปนิดเดียว สมองของเขาก็จะถูกยิงกระจุยเช่นเดียวกับไหใบใหญ่แล้ว
หลิ่วเหมียนถังสะบัดมือคล้ายไม่พอใจกับลูกธนูดอกนี้ของตนเอง จากนั้นกวาดตามองพวกคนเก่าแก่ที่มาหาเรื่องไปรอบพลางเอ่ย “คำโบราณที่ว่าข้าวสารหนึ่งกระบวยสร้างบุญคุณ ข้าวสารหนึ่งหาบสร้างความแค้น*** มีเหตุผลจริงๆ ด้วย เงินทองของสกุลลู่นับว่าเลี้ยงดูสุนัขป่าตาขาวไม่รู้จักอิ่มอย่างพวกท่าน เหตุใดถึงตัดเบี้ยของพวกท่าน ข้าเขียนแจกแจงรายละเอียดชัดเจนในจดหมายของแต่ละท่านแล้ว พวกท่านกลับยังมีหน้ามาหาเรื่อง! ในเมื่อไว้หน้าให้แล้วไม่รับไว้ก็อย่าได้โทษข้า หากข้าจะเขียนรายละเอียดที่พวกท่านดูดเลือดสกุลลู่ออกมาเป็นกระดาษคำฟ้องส่งไปที่ว่าการ ให้ชาวบ้านซีโจวช่วยตัดสินดูว่าสกุลลู่ควรมอบเงินให้ต่อหรือไม่!”
บรรดาคนเก่าแก่หลายคนรุมกันเข้าไปช่วยคนที่ถูกปักตรึงอยู่กับต้นไม้ลงมาแล้วมองลูกธนูดอกนั้นอีกที นึกไม่ถึงว่าจะเป็นหัวธนูตะขอสั่งทำพิเศษ หากยิงถูกคนตอนที่ดึงออกมาจะเกี่ยวเนื้อหลุดออกมาเป็นชิ้นด้วยซ้ำ
พวกเขาเห็นแล้วรู้สึกหวาดกลัวภายหลังขึ้นมา ชี้หน้าตำหนิหลิ่วเหมียนถังอย่างโมโห “เจ้า!…เจ้ากล้าลงมือทำร้ายคนได้อย่างไร!”
หลิ่วเหมียนถังแสร้งขมวดคิ้ว เอ่ยอย่างขลาดกลัว “หญิงสาวอ่อนแออย่างข้าถูกคนป่าเถื่อนอย่างพวกท่านล้อมไว้จะไม่กลัวได้หรือ พวกท่านเสียงดังกันเพียงนี้ ข้าตกใจจนมือสั่นยิงธนูออกไปโดยไม่รู้ตัว หากพวกท่านเสียงดังกว่านี้อีกสักหน่อย ไม่แน่ข้าอาจยิงออกไปอีกหลายดอกก็ได้ ถ้าเล็งเป้าพลาดไปเพียงนิด ไม่รู้เหมือนกันว่าวันหน้าใครจะมารับเงินของสกุลลู่แทนพวกท่าน!”
หลังเอ่ยประโยคนี้จบนางพาดลูกธนูเล็งไปที่พวกเขาอีกครั้ง ซ้ำข้อมือเพรียวบางยังสั่นไม่หยุด ลูกธนูหลายดอกถูกยิงออกมาสะเปะสะปะ ถึงขั้นที่หลายดอกเฉียดผ่านหน้าพวกเขาไป
คนเหล่านี้เคยได้ยินเรื่องหลิ่วเหมียนถังมือเท้าได้รับบาดเจ็บมา ทว่าไม่รู้ว่าอาการนางดีขึ้นมากแล้ว เห็นนางเล็งเป้าด้วยมือสั่นๆ ต่างตกใจหลบกันอลหม่าน
หลิ่วเหมียนถังยังคงไม่หยุดพูด “ท่านปู่หลี่ อนุคนงามคนที่สี่ของท่านเงินไม่พอใช้แล้วใช่หรือไม่ หากท่านยอมถูกยิงทีหนึ่ง ท่านย่าคนที่สี่ของข้าก็ร่ำรวยแล้ว ไม่แน่ว่าอาจมากพอสำหรับสินเจ้าสาวไว้แต่งงานใหม่ด้วยซ้ำ เอ้อ ท่านลุงจ้าว อย่าหลบสิ! น้องชายภรรยาท่านไม่ได้ติดหนี้พนันหรอกหรือ หากท่านถูกยิง ข้าจะช่วยน้องชายภรรยาท่านใช้หนี้ให้…”
เมื่อเป็นเช่นนี้กองกำลังเรียกร้องเบี้ยเกษียณที่เดิมมีศัตรูร่วมกันก็แตกกระเจิงทันที เหล่าชายชราปากร้องด่าโหวกเหวกว่า “นางหญิงบ้า” ก่อนวิ่งหนีกันไปทั้งอย่างนี้
และตอนที่ท่านเฉากลับไปยังไม่ลืมตะโกนเสียงดังอย่างร้อนตัว “เจอกันที่ที่ว่าการก็ที่ว่าการสิ! เกรงว่าถึงเวลาเรื่องอัปลักษณ์ของท่านลุงรองเจ้าจะปิดบังไว้ไม่อยู่ ดูว่าบ้านรองของพวกเจ้าจะปล่อยยายหนูอกตัญญูอย่างเจ้าไปง่ายๆ หรือไม่!”
รอคนเหล่านั้นแยกย้ายไปกันหมด หลี่มามารีบสั่งฟางเซียไปหยิบถุงน้ำแข็งมาประคบมือของหลิ่วเหมียนถังทันที “ท่านหมอกำชับมาแล้วว่าห้ามคุณหนูใช้ข้อมือมากเกินไป แม้ธนูคันนี้จะน้ำหนักเบา แต่อย่างไรก็เมื่อยมือ วันนี้พอแค่นี้ก่อนเถอะเจ้าค่ะ”
หลิ่วเหมียนถังนั่งอยู่บนเสื่อปล่อยให้สาวใช้ยุ่งวุ่นวายกันไป บนใบหน้ากลับเป็นรอยยิ้มที่ปิดไม่มิด นางจำไม่ได้แล้วว่าตนเองไม่ได้สัมผัสอารมณ์สาแก่ใจเช่นนี้มานานเพียงใด
ความรู้สึกที่สองมือค่อยๆ มีเรี่ยวแรงกลับมาให้ความรู้สึกอิ่มเอมใจเสียยิ่งกว่าทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำเสียอีก
หลี่มามาเห็นนางยิ้มเป็นเด็กก็อดยิ้มออกมาไม่ได้เหมือนกัน ก่อนถาม “คุณหนู เย็นนี้มีอะไรที่อยากกินเป็นพิเศษหรือไม่”
หลิ่วเหมียนถังตอบอย่างรวดเร็ว “ข้าอยากกินข้าวราดแกงมะเขือม่วงตุ๋นเนื้อแพะ แล้วก็กุ้งทอดดอกพุดตานฝีมือหลี่มามา”
โรคเก่าของหลี่มามากำเริบ เดิมอยากพูดถึงความพิถีพิถันของการจับคู่อาหารให้หลิ่วเหมียนถังฟังสักหน่อย อย่างเนื้อแพะจับคู่กับอาหารทะเลเช่นนี้ ถือว่ามีรสอร่อยไปในทางเดียวกัน ไม่มีตัวกลางช่วยกลมกล่อม เป็นวิธีสั่งอาหารแบบพวกครอบครัวของคนที่รวยขึ้นมากะทันหัน
แต่พอคิดอีกทีคุณหนูอุตส่าห์อารมณ์ดี อยากกินอะไรก็ต้องได้กินอย่างนั้นอยู่แล้ว! ดังนั้นนางจึงยิ้มแย้มรับปาก ในใจใคร่ครวญเอาเองว่าสามารถทำเครื่องเคียงปรับรสชาติออกมาได้
หลิ่วเหมียนถังจู่ๆ ก็ถามหลี่มามาว่ารู้เรื่องผู้ช่วยนายอำเภอคนใหม่ของซีโจวได้อย่างไร หลี่มามารีบเอ่ย “ผู้ช่วยนายอำเภอท่านนี้ท่านอ๋องจัดเตรียมมาด้วยความเป็นห่วงที่ว่าการซีโจว ทุกวันนี้บ้านของท่านอยู่ที่ซีโจว ท่านอ๋องย่อมจัดเตรียมขุนนางน้ำดีที่ดูแลเอาใจใส่มาปกครองที่นี่ ไม่ว่าเรื่องอะไรจะได้ดูแลคุณหนูได้…”
รอยยิ้มของหลิ่วเหมียนถังลดทอนลงไปเล็กน้อย
เมื่อก่อนนางมองสามีไม่ว่าอะไรก็ดี แต่ตอนนี้คิดดูแล้วนับว่าโดนอุจจาระสุนัขบดบังสายตาแล้ว!
ทุกวันนี้แยกจากกันถึงได้รู้ว่าบุรุษรูปงามดั่งเทพเซียนความจริงมีข้อเสียเต็มไปหมด นิสัยเผด็จการพูดหนึ่งไม่เป็นสอง ชอบควบคุมทุกอย่างเช่นนี้ เหตุใดเมื่อก่อนนางถึงได้ไม่รู้สึกตัวกัน
เมื่อถึงช่วงเวลากินอาหารเย็น เฉวียนซื่อกับบุตรสาวลู่ชิงอิงมาหานางในเวลากินข้าวพอดี
หลิ่วเหมียนถังย่อมเชิญท่านป้าสะใภ้รองกับญาติผู้น้องมากินข้าวด้วยกันตามมารยาท