หรือว่าเหตุผลที่ทางนั้นเสนอการแต่งงานเพื่อยุติความขัดแย้งระหว่างสองประเทศ แท้จริงแล้วเขาต้องการจะใช้การแต่งงานครั้งนี้กลบข่าวลือเรื่องนิยมไม้ป่าเดียวกัน
จะว่าไปการแต่งงานกันเพื่อรักษาผลประโยชน์ระหว่างประเทศก็ดีเหมือนกัน ถ้าเธอแต่งงาน พูรัมก็จะมีกุณฑ์ชาลาคอยคุ้มครองและคานอำนาจกับคูชรี โดยไม่ต้องคอยระแวงว่าสองประเทศนี้จะร่วมมือกันแล้วหันมารังแกประเทศเล็กอย่างพูรัมรึเปล่า
“ตกลงค่ะพี่ราช ลิสสาจะแต่งงาน”
คำตอบที่ทะลุขึ้นกลางปล้องทำให้มหาราชาและรานีแห่งพูรัมมองกันตาค้าง
“ไม่ได้นะลิสสา การแต่งงานคือความสุขทั้งชีวิตของลิสสา พี่ไม่มีวันยอมให้ลิสสามาเสี่ยง”
“ลิสสาโอเคกับการแต่งงานนี้ค่ะ พี่ราชบังคับลิสสาไม่ได้อยู่แล้ว พี่วตีก็รู้”
แต่ความเป็นแม่ทำให้ยังมีถ้อยคำค้างคาใจไม่หาย
“ถ้าลิสสากังวลเรื่องทางออกเลยรับปากเพื่อให้เรื่องจบๆ ไป พี่บอกเลยว่าไม่จำเป็น พี่จะหาข่าวใหม่มากลบเรื่องลิสสาเอง ลิสสาไปเรียนต่อโทสักใบ รอจนเรื่องเงียบแล้วค่อยกลับมาก็ได้”
“ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะพี่วตี ลิสสาไม่อยากหนีปัญหา เชื่อลิสสาสิคะพี่วตี คนอย่างลิสสาไม่ยอมให้ใครเอาเปรียบง่ายๆ หรอก ไหนๆ ลิสสาก็เป็นหมากในเกมการเมืองครั้งนี้แล้ว ลิสสาจะแต่งงานกับฝ่าบาทค่ะ แต่มีเงื่อนไขนะคะ”
“เงื่อนไขอะไร”
อาเมียร์ประจักษ์ความแสบสันของน้องสาวมาตั้งแต่อีกฝ่ายยังเยาว์ โตเป็นสาวแล้วมีหรือความแสบสันนี้จะลดน้อยลง เผลอๆ จะทวีคูณความร้ายกาจขึ้นด้วยซ้ำ
“ข้อแรกกุณฑ์ชาลาต้องทำสัญญาซื้อขายสินค้าเกษตรของพูรัม ลิสสาต้องการผูกขาดตลาดสินค้าค่ะ เกษตรกรต้องขายสินค้าได้ และทางกุณฑ์ชาลาต้องประกันราคาสินค้าขั้นต่ำให้เราเป็นเวลาสิบปี”
“สิบปี? มันไม่นานไปหน่อยเหรอลิสสา”
“หรือว่าฝ่าบาทจะลงจากบัลลังก์เร็วๆ นี้ล่ะคะ ลิสสาจะได้ปฏิเสธการแต่งงานนี้ซะ”
“แล้วทำไมต้องสิบปีด้วยล่ะ”
“อีกสิบปีข้างหน้าเทคโนโลยีทางการเกษตรคงก้าวไกลกว่านี้ กุณฑ์ชาลาอาจพบวิธีการเพาะปลูกบนที่สูง ถึงเวลานั้นเขาอาจหาข้ออ้างมาปฏิเสธสินค้าของพูรัม อีกทั้งอุตสาหกรรมเกษตรของพูรัมน่าจะพัฒนาไปมากกว่านี้ ถึงเวลานั้นเราคงพัฒนาสินค้าเกษตรป้อนตลาดโลกได้ไม่ยาก”
“ลิสสาไปเรียนศิลปะแน่เหรอ พี่นึกว่าเรียนเศรษฐศาสตร์เสียอีก”
“บอกแล้วไงเพคะว่าลูกสาวของหม่อมฉันฉลาด”
“แล้วข้อสองล่ะ”
“สินสอดของลิสสาเพคะ”
“สินสอด?”
ตามธรรมเนียมโบราณของพูรัมแล้ว เจ้าสาวต้องเป็นฝ่ายหอบสินสอดไปขอเจ้าบ่าว มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่ฐานะ แม้ปัจจุบันธรรมเนียมนี้จะล้าสมัยและมีการรณรงค์จากกลุ่มผู้หญิงยุคใหม่ให้ยกเลิกไปแล้ว แต่ในทางปฏิบัติยังมีให้เห็นกันจนชินตา
“เท่าไหร่”
“ทองยี่สิบตันเพคะ”
อาเมียร์เบิกตาโพลงด้วยความตกใจ “รู้ตัวไหมว่าพูดอะไรออกมาลิสสา”
“รู้ค่ะพี่ราช ทองยี่สิบตันนี้ ลิสสาไม่ได้เก็บไว้เอง แต่จะเอาไปเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศค่ะ”
ความเสียสละของเจ้าหญิงน้อย ทำให้น้ำตาของแม่บุญธรรมตกใน ลูกสาวคนโตของตนมีความคิดอ่านลึกซึ้งถึงเพียงนี้ เป็นเรื่องน่าชื่นชม แต่การยอมเสียสละตนเองเพื่อประเทศขนาดนี้ รานีปัทมาวตียอมไม่ได้
“เห็นไหมเพคะว่าลูกสาวหม่อมฉันเสียสละเพื่อพูรัมขนาดไหน แล้วพระองค์ล่ะทรงทำอะไรเพื่อปกป้องน้องสาวของพระองค์บ้าง”
“ลิสสาไม่ได้ฝืนใจหรอกค่ะ พี่วตีลองคิดดีๆ สิคะ ลิสสาเป็นคนเลือกฝ่าบาทนะ ไม่ใช่ฝ่าบาทเลือกลิสสา เพราะฉะนั้นหากฝ่าบาทผิดเงื่อนไขแม้แต่ข้อเดียว ลิสสาก็ไม่แต่งค่ะ”
“แต่ว่าแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ มันหมายถึง…”
“ความรักน่ะเหรอคะ ลิสสาไม่รู้จักมันด้วยซ้ำ ขอแค่ลิสสาได้ประโยชน์ พูรัมได้ประโยชน์ ลิสสาพร้อมดีลค่ะ!”
(ติดตามต่อได้ในฉบับเต็มเดือน กันยายน 65)