LOVE
ทดลองอ่าน ฌาลิสสา บทนำ-บทที่ 2
“ไม่เห็นอยากรู้จักเลย ลิสสาเคยเจอพวกเชื้อพระวงศ์กุณฑ์ชาลาที่ลอนดอน แต่ละคนโอ้อวดทับถมคนอื่นอย่างกับอะไร เห็นแล้วไม่อยากเข้าใกล้ กลัวคนอื่นจะรู้ว่าเป็นเพื่อนบ้านกัน”
“มหาราชาคงไม่เป็นแบบนั้นหรอกเพคะ”
“ไม่เป็นหรอก รายนี้ขึ้นชื่อเรื่องความโหด กุดหัวคนเป็นว่าเล่น”
“ข่าวลือทั้งนั้นเพคะ”
เจ้าหญิงลลิสสาหรี่ตาแคบลงก่อนเย้ากลั้วหัวเราะ
“ถ้าพี่มันจูไม่เลี้ยงลิสสามาตั้งแต่เล็ก ลิสสาคงคิดว่าพี่มันจูเป็นหนอนบ่อนไส้ของกุณฑ์ชาลาแล้ว”
“ว้าย!!! หาคุกให้หม่อมฉันแล้วนะเพคะเจ้าหญิงน้อย”
มันจูยกมือขึ้นทาบอก ขณะที่เจ้าหญิงลลิสสากลับหัวเราะเสียงใส ทำเอามันจูค้อนปะหลับปะเหลือก มันจูเห็นเจ้าหญิงน้อยเป็นเหมือนลูกสาวตัวน้อยของตนเสมอมา แม้ว่าบัดนี้เจ้าหญิงน้อยเติบใหญ่เป็นหญิงสาวแสนสวย เป็นที่หมายปองของราชนิกุลต่างชาติและลูกหลานคหบดีทั่วพูรัมแล้วก็ตาม
“ลิสสาล้อเล่นน่า พี่มันจูตกใจไปได้”
“ล้อเล่นแบบนี้หม่อมฉันไม่สนุกด้วยนะเพคะ ขืนมหารานีได้ยินเข้า หม่อมฉันคงชะตาขาด”
“พี่วตีไม่ดุสักหน่อย”
“พระทัยดีกับเจ้าหญิงองค์เดียวน่ะสิเพคะ แต่กับนางกำนัลทรงเข้มงวดนัก”
“ลิสสาจะฟ้องพี่วตีว่าพี่มันจูนินทา”
“โธ่ เจ้าหญิงน้อย อย่าแกล้งหม่อมฉันสิเพคะ”
เจ้าหญิงน้อยหัวเราะคิก พลางโอบไหล่พระพี่เลี้ยงด้วยท่าทีเป็นกันเอง
“โอ๋ๆ ลิสสาล้อเล่นน่า ไม่แกล้งแล้วก็ได้ ขืนพี่มันจูทนไม่ไหวลาออกไป ลิสสาจะหาใครแกล้ง…เอ้ย ใครที่รู้ใจได้เท่าพี่มันจูอีกล่ะ”
“ทรงแหย่หม่อมฉันอยู่เรื่อย ไม่เห็นใจคนแก่บ้างเลย”
“ใครว่าพี่มันจูแก่ ลิสสาจะตีปากให้”
กิริยาน่ารักน่าเอ็นดูที่เห็นจนชินตาทำให้มันจูโกรธเจ้าหญิงน้อยไม่ลง ขณะที่พระพี่เลี้ยงกำลังคิดอะไรเพลินๆ ระหว่างเดินตามเจ้าหน้าที่มายังประตูทางออก จู่ๆ ความสงสัยก็ถาโถมเข้ามาเมื่อเห็นรถยนต์เอสยูวีสีดำติดฟิล์มมืดจำนวนสี่คันจอดห่างไปในระยะไม่ไกลนัก
“แปลกจัง ทำไมเจ้าหน้าที่ถึงพามาประตูข้างล่ะ รวยอู้ฟู่ระดับกุณฑ์ชาลารับรองแขกด้วยรถเอสยูวีเหรอเพคะ ทำไมไม่ส่งรถหรูกว่านี้มารับ เหมือนไม่ให้เกียรติเจ้าหญิงน้อยของหม่อมฉันเลย”
“ลิสสาบอกแล้วไงว่าส่งเจ้าหญิงกิ๊กก๊อกมาร่วมงานวันเกิด หรือจะสู้ส่งพี่วตีมาล่ะ”
“แต่หม่อมฉันว่า…”
“ไปเถอะ ลิสสาอยากเข้าโรงแรมเต็มที ง่วงจังเลย นอนบนเครื่องมาก็ไม่หลับ”
“จะบรรทมได้ยังไงล่ะเพคะ ทรงดูหนังทั้งคืน”
“นั่งเครื่องเฉยๆ มันเบื่อนี่นาพี่มันจู จากลอนดอนมากุณฑ์ชาลาตั้งหลายชั่วโมง”
“หม่อมฉันก็บอกให้เสด็จตั้งแต่เมื่อวาน วันนี้จะได้มีเวลาพักผ่อน แล้วค่อยไปร่วมงานฉลองในวันพรุ่งนี้ แล้วดูสิเพคะ ทรงห่วงแต่ปาร์ตี้กับพระสหายจนลืมดูแลองค์เอง”
“เรียนจบทั้งทีไม่ปาร์ตี้ได้ยังไงล่ะพี่มันจู แล้วอีกอย่างเพื่อนๆ ลิสสาน่ะระดับลูกหลานมหาเศรษฐีกับนักการเมืองทั้งนั้น คีพคอนเน็กชั่นไว้ วันหลังเกิดปัญหากับกุณฑ์ชาลา จะได้ขนผักขนหมูไปขายพวกเขาไงล่ะ”
“ไม่ใช่หน้าที่ของเจ้าหญิงสักหน่อย ทรงรอวันเษกสมรสดีกว่าเพคะ”
เจ้าหญิงลลิสสาเบะปาก “เชยสุดๆ เลยพี่มันจู โลกมันไปถึงไหนแล้ว เดี๋ยวนี้ผู้หญิงทำงานทัดเทียมผู้ชายเยอะแยะ ลิสสากลับถึงพูรัมเมื่อไร จะปฏิวัติความคิดสาวๆ ให้หมด มีชีวิตอยู่เพื่อตัวเอง ไม่จำเป็นต้องเก็บเงินไปสู่ขอผู้ชายอีกแล้ว”
ดวงตากลมโตสุกใสเปล่งประกายแรงกล้าอย่างหมายมั่นในใจ
“คิดเช่นนี้ได้ยังไง มันผิดธรรมเนียมนะเพคะ”
“ธรรมเนียมล้าสมัยก็ยกเลิกไปสิพี่มันจู ที่สำคัญใครบอกพี่มันจูว่าลิสสาจะแต่งงาน”
“อ้าว! ไม่เษกสมรส แล้วจะทรงทำอะไรเพคะ”
“ก็ทำงานน่ะสิ ลิสสาจะเป็นอาร์ติสต์สร้างงานศิลปะของพูรัมให้ดังไปทั่วโลก เป็นเจ้าหญิงสวยแซ่บไปจนแก่เลย”
“แล้วหนุ่มๆ ที่ต่อแถวจีบเจ้าหญิงน้อยไม่อกหักแย่เหรอเพคะ”
“ช่วยไม่ได้ อยากรอก็รอไป แต่ไม่แน่นะ ถ้าได้ทองสักยี่สิบตันเป็นค่าสินสอด ลิสสาอาจจะคิดอีกที”
“ทองตั้งยี่สิบตัน ผู้ชายหน้าไหนจะยอมยกให้ล่ะเพคะ”
“ลิสสาก็เลยจะอยู่เป็นโสดไปจนแก่น่ะสิจ๊ะ”
“เฮ้อ! หม่อมฉันทูลรานีแล้วว่าอย่าส่งพระองค์ไปเรียนที่ลอนดอน พวกฝรั่งมังค่าความคิดความอ่านไม่เหมือนชาวพูรัม รานีก็ตามพระทัยเจ้าหญิงน้อยตลอด แล้วดูสิเพคะ ดำริแต่ละอย่าง แผลงๆ ทั้งนั้น”
“ลิสสาเชื่อว่าถ้าพี่วตีไม่เจอพี่ราชก่อน พี่วตีก็คงคิดแบบลิสสานี่แหละ”
“แต่หม่อมฉันว่าเจ้าหญิงเสด็จร่วมงานคราวนี้อาจทรงพบเจ้าชายในฝันก็ได้นะเพคะ”
“ไม่มีทาง ลิสสาตรวจสอบรายชื่อแขกแล้ว หากไม่แต่งงานแล้วก็แก่หงำเหงือก ไม่มีใครน่าสนสักคน”
“แล้วมหาราชาล่ะเพคะ ทรงรูปงามนัก แถมยังไม่เษกสมรสด้วยนะเพคะ”
“ยังไม่เษกสมรส แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มีสนมนางในสักหน่อย แล้วอีกอย่างลิสสาได้ยินคนลือกันว่าฝ่าบาทโปรดเพศเดียวกัน จะว่าไปก็เข้าเค้าอยู่นะพี่มันจู ฝ่าบาทเป็นเพื่อนพี่ราช อายุอานามคงสักสี่สิบกว่าแล้ว”
“สามสิบเก้าเพคะ”
“ก็เหยียบสี่สิบนั่นแหละ แต่จนป่านนี้ยังไม่แต่งงาน จะให้คิดเป็นอื่นได้ไงล่ะ ถ้าไม่เป็นเพราะมีสนมนางในเพียบ ก็ต้องชอบผู้ชายด้วยกันแหงเลย”
“ไม่น่าเป็นไปได้นะเพคะ ฝ่าบาททรงเป็นหัวหน้าหน่วยรบเขี้ยวพยัคฆ์ จะเป็นเกย์ได้ยังไงเพคะ”
“ยิ่งน่าสงสัยเข้าไปใหญ่ หน่วยรบที่มีแต่ผู้ชายตัวล่ำบึ้กอาจจะถูกพระทัยก็ได้”
“อย่าทรงเอ็ดไปนะเพคะ ใครได้ยินเข้าจะหาว่าเจ้าหญิงหลู่พระเกียรติ”
“ลิสสาก็พูดให้ได้ยินแค่สองคนนี่แหละ ข้างนอกนี่หนาวจังนะพี่มันจู”
“ประเทศในหุบเขาก็แบบนี้แหละเพคะ หม่อมฉันได้ยินว่าช่วงนี้มีลมมรสุมด้วย บางวันก็ฝนตกหนัก บางวันก็มีหิมะเพคะ”