ทดลองอ่าน ตกรางวัลอย่างงามให้การแสดงของพระชายา บทที่ 5-6 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ตกรางวัลอย่างงามให้การแสดงของพระชายา

ทดลองอ่าน ตกรางวัลอย่างงามให้การแสดงของพระชายา บทที่ 5-6

หน้าที่แล้ว1 of 4

บทที่ 5 กฎระเบียบในวัง

บ้านสกุลฉิน เรือนอุดร

ใต้หน้าต่างห้อง เจียงหลันเยวี่ยกำลังก้มหน้าเย็บเสื้อตัวในให้ฉินวั่ง

เย็บไปทีละฝีเข็ม ตลอดหลายปีที่ผ่านมานางไม่เคยยืมมือคนอื่นทำแทน

นางวางเข็มกับด้ายลง ขยี้ตาเล็กน้อยพลางเอ่ย “พริบตาเดียวก็ผ่านไปครึ่งเดือนแล้ว ทางคุณหนูใหญ่ไม่มีการเคลื่อนไหวอื่นหรือ”

“จะมีการเคลื่อนไหวอะไรได้เจ้าคะ” หมัวมัวสูงวัยกล่าว “เดิมบ่าวเข้าใจว่าคุณหนูใหญ่ย้ายเหอจูไปอยู่ที่เรือนนอกเพราะมีใจจะป้องกันเรา แต่เมื่อครู่อยู่ที่ห้องครัวพูดคุยกับเหอจูอยู่หลายคำ จึงรู้ว่าคิดมากไปแล้ว”

เจียงหลันเยวี่ยเอ่ยถาม “หมายความว่าอย่างไร”

หมัวมัวสูงวัยบอก “เหอจูบอกว่าสองวันนี้คุณหนูใหญ่อยู่ในห้อง หนึ่งไม่ได้ฝึกคัดอักษร สองไม่ได้ฝึกมารยาทในวัง กลับเห็นหญิงขับร้องผู้นั้นเป็นอาจารย์ ฝึกร้องงิ้วอยู่ในห้อง ประเดี๋ยวก็ร้องไห้ ประเดี๋ยวก็หัวเราะ บางครั้งยังมีคำพูดหยาบโลนลามกผุดออกมาสองคำ ถ้านายท่านรู้เข้าจะต้องโกรธจนล้มป่วยแน่”

เจียงหลันเยวี่ยย่นหัวคิ้วบอก “คำพูดหยาบโลน? นางเสียสติหรืออย่างไร”

“ไม่แน่นางอาจจะเหมือนกับมารดาของนาง เสียสติไปแล้วจริงๆ” หมัวมัวสูงวัยยกมือขึ้นช่วยนวดบ่าให้เจียงหลันเยวี่ย “ฮูหยินก็ไม่ต้องกังวลเกินไป รอครั้งนี้นายท่านส่งหญิงขับร้องผู้นั้นจากไปแล้ว ย่อมต้องวกกลับมาคิดถึงตัวคุณหนูรอง”

“หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น”

เจียงหลันเยวี่ยกดนวดหน้าอก

สองวันนี้หัวใจของนางรู้สึกกระวนกระวายขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ ราวกับจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเช่นนั้น

เจียงหลันเยวี่ยสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่งแล้วกล่าวเสียงต่ำ “ไปถ่ายทอดคำพูดให้จูเจ๋อ บอกเขา ขอเพียงเติมฟืนท่อนสุดท้ายลงไปได้ บัญชีของสกุลจูก็นับว่าชำระหมดแล้ว”

ฉินวั่งมาจากครอบครัวยากจน ตอนเป็นขุนนางในท้องถิ่น ความเร็วในการเลื่อนตำแหน่งยังนับว่าเร็ว แต่พอมาถึงเมืองหลวง วงศ์ตระกูลขุนนางผู้มีอำนาจมีอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง ถ้าไม่มีคนสนับสนุน ตำแหน่งไท่สื่อลิ่งของเขานี้เกรงว่าคงต้องนั่งไปตลอดชีวิต

การคัดเลือกหญิงงามครั้งนี้ แม้จะบอกว่าทำตามราชโองการ แต่จิตใจที่มุ่งหวังให้บุตรสาวกลายเป็นหงส์ใครบ้างไม่มี ถ้าจะบอกว่าฉินวั่งไม่เคยคิดจะอาศัยเรื่องนี้มาต่อสู้เพื่ออนาคต เจียงหลันเยวี่ยไม่มีทางเชื่อ

ถึงฉินหลิงจะมีข้อเสียมากมาย แต่เป็นบุตรสาวสายตรงคือเรื่องจริง รูปร่างหน้าตาดีก็เป็นเรื่องจริง

ดังนั้นนางจึงจำเป็นต้องให้จูเจ๋อเติมฟืนท่อนสุดท้ายลงไป แผดเผาความหวังที่ฉินวั่งฝากไว้ในตัวฉินหลิงให้มอดไหม้ไม่มีเหลือ

หลังจากนั้นครึ่งชั่วยามฉินวั่งเลิกงานกลับมา

เฉกเช่นที่ผ่านมา เจียงหลันเยวี่ยจะเขย่งเท้าช่วยถอดหมวกผ้าโปร่งสีดำให้ฉินวั่งก่อน แล้วหันไปหยิบผ้าเช็ดมือมายื่นส่งให้เขา

ฉินวั่งรับมาเช็ดมือเล็กน้อย พูดเสียงต่ำ “ข้าไหว้วานคนหาซือจี๋ในวังหลวงมาคนหนึ่ง นางมาจากสกุลเฉิน ปกติดูแลเรื่องหนังสือคัมภีร์ โต๊ะตั่ง เฉินซือจี๋ทำหน้าที่อยู่ข้างกายหัวหน้ากองงานพิธีการหลู สอนเรื่องธรรมเนียมมารยาทย่อมไม่มีอะไรให้ต้องพูดถึง ประเดี๋ยวเจ้าพาหรงเอ๋อร์ไปที่ห้องโถงหลักด้วย”

“ไม่ได้เด็ดขาด” เจียงหลันเยวี่ยกล่าว “หรงเอ๋อร์เป็นเพียงบุตรสาวที่เกิดจากอนุ เรื่องเช่นนี้นางจะไปด้วยได้อย่างไร”

ฉินวั่งยิ้ม “เจ้าก็ยึดธรรมเนียมประเพณีมากเกินไป ข้าบอกให้เจ้าพานางไปเจ้าก็พาไป หรงเอ๋อร์ไม่ใช่ว่าจะมีแม่สื่อมาเจรจาเรื่องแต่งงานแล้วหรือ ฟังเรื่องธรรมเนียมมารยาทมากหน่อย ย่อมไม่มีอะไรเสียหาย”

 

ดอกกุ้ยที่นอกหน้าต่างห้องกำลังผลิบานพอดี ออกดอกติดกันเป็นช่อๆ มองจากที่ไกลคล้ายมีคนหว่านเศษทองลงไปในกลุ่มใบไม้สีเขียว

ครู่หนึ่งฉินหลิงและฉินหรงต่างมาที่ห้องโถงหลัก

เห็นคนมาพร้อมแล้ว เฉินซือจี๋ก็วางถ้วยชาในมือลง

เรื่องของสกุลฉิน ก่อนมานางก็ได้ยินมาไม่น้อย

จะอย่างไรในบ้านไม่มีภรรยาเอก อาศัยอี๋เหนียงดูแลบ้าน ก็ไม่ค่อยมีให้เห็นสักเท่าไร

เฉินซือจี๋เดินมาถึงเบื้องหน้าฉินหลิงกับฉินหรง มองประเมินคุณหนูทั้งสองที่อยู่ตรงหน้าอย่างละเอียด

อยู่ในวังหลวง ยืนก็ต้องยืนตามระเบียบ นั่งก็ต้องนั่งตามระเบียบ แม้แต่สายตาที่มองคนก็ต้องมีระเบียบ

เฉินซือจี๋พยักหน้าน้อยๆ คล้ายคิดอะไรอยู่

แม้จะบอกว่าบุตรสาวสองคนของบ้านสกุลฉินรูปโฉมล้วนเป็นเลิศ แต่บุคลิกท่วงทีกลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

นางไม่เคยพบบุตรสาวสกุลฉินมาก่อน แต่เพียงมองแวบเดียวก็รู้ว่าคนใดคือคุณหนูใหญ่บุตรสาวภรรยาเอก

เส้นผมดุจปุยเมฆในฤดูใบไม้ผลิ ดวงตาดุจประกายคลื่นในฤดูใบไม้ร่วง ใบหน้าดุจหิมะสะท้อนแสงอรุโณทัยยามเช้า

ในบ้านมีหญิงงามเช่นนี้ ก็ไม่แปลกที่ใต้เท้าฉินจะเชิญนางมา

ฉินวั่งกระแอมเบาๆ คำหนึ่ง กล่าวกับฉินหลิงและฉินหรง “ท่านนี้คือใต้เท้าเฉิน เฉินซือจี๋จากวังหลวง พวกเจ้าสองคนมีอันใดไม่เข้าใจเกี่ยวกับธรรมเนียมมารยาท วันนี้ล้วนขอคำชี้แนะจากใต้เท้าเฉินได้ทั้งหมด”

“ใต้เท้าฉินเกรงใจแล้ว ข้าเพิ่งเข้าราชสำนักฝ่ายในได้เพียงสองปี ในวังมีกฎระเบียบที่เข้มงวด มีธรรมเนียมมารยาทมากมาย แม้แต่ตัวข้าเองก็ไม่กล้าพูดว่ารู้ทุกเรื่องอย่างชัดเจน”

ฉินวั่งพยักหน้าคล้อยตามบอก “เป็นเช่นนั้นจริง”

เฉินซือจี๋กล่าวต่อ “ทว่าในเมื่อได้รับการไหว้วานจากผู้อื่น ข้าก็จะบอกทุกอย่างที่เคยเรียนมาที่เคยรู้มาให้คุณหนูทั้งสองฟัง แต่ก่อนจะถึงตอนนั้น ยังขอให้ใต้เท้าฉินเอาพู่กัน หมึก กระดาษ แท่นฝนหมึกมาให้สักสองชุด”

พู่กัน หมึก กระดาษ แท่นฝนหมึก…นี่คงจะดูลายมือของคนทั้งสองแล้ว

เจียงหลันเยวี่ยมีสีหน้าดีใจ

ตัวอักษรของฉินหรงพูดไม่ได้ว่างดงามน่าตื่นตะลึง แต่เมื่อเปรียบกับฉินหลิงที่ไม่มีความรู้ไม่มีความสามารถแล้ว กลับดีกว่ามาก

หน้าที่แล้ว1 of 4

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ตกรางวัลอย่างงามให้การแสดงของพระชายา

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 1

บทที่ 1 สายฝน+ไหวพริบ ต้นฤดูใบไม้ผลิเมืองเซิ่งจิงมีฝนตกชุก ราวกับผ้าไหมผืนบางที่ปกคลุมผืนฟ้า ทำให้ลานที่รกร้างเงียบเหงาข...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 2

บทที่ 2 ความสงสัย+คลื่นใต้น้ำ เจ้าเมืองหลี่ตามซูโม่อี้ออกไปแล้ว หลินหวั่นชิงเห็นเงาของเขาวิ่งอยู่ไกลๆ รู้สึกว่าชุดทางการ...

ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง

ทดลองอ่าน ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง บทที่ 124

บทที่หนึ่งร้อยยี่สิบสี่ เพราะเป็นภาคเรียนสุดท้ายนักเรียนปีสี่จะจบการศึกษาในฤดูร้อนของปีนี้ การเรียนการสอนในห้องเรียนแทบจ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปี บทที่ 27-1

บทที่ 27-1 หวงปอรับใช้อยู่ข้างกายฮ่องเต้มานาน แม้จะเทียบไม่ได้กับพวกไป๋ตันหย่งที่ยืนอยู่ข้างกายซ้ายขวาของฮ่องเต้มาตั้งแต...

community.jamsai.com