กายเนื้อของเซวียนชิงถึงขีดจำกัดแล้ว ปากจึงไม่อาจกล่าววาจา ร่างก็ไม่อาจเคลื่อนไหว วิธีที่จะแสดงออกซึ่งความตกตะลึงพรึงเพริดได้จึงมีเพียงใช้นิ้วมือครูดกับผงดินหนหนึ่งเท่านั้น
เป็นไปไม่ได้หรอก ทั่วทั้งสามพิภพไม่อาจให้กำเนิดทายาทรุ่นหลังมาตั้งหนึ่งพันปีแล้ว เทพเซียน มาร ปีศาจ และสัตว์อสูรล้วนแต่มีอายุขัยยืนยาว จึงยังดำรงอยู่มาได้อย่างมั่นคงปลอดภัย แต่มนุษย์ทั้งหลายได้สาบสูญไปจากพิภพมนุษย์นานแล้วนี่ สาวน้อยที่ดูเหมือนเพิ่งจะอายุสิบสี่สิบห้านางนี้จะใช่มนุษย์ได้อย่างไรกัน
“ไม่ง่ายเลยกว่าจะพบใครสักคนที่พูดคุยด้วยได้ จะปล่อยให้เจ้าตายไม่ได้เชียว” สาวน้อยพึมพำพลางย่อกายลง จากนั้นก็กัดนิ้วมือของตนเองจนได้แผล แล้วยัดเข้ามาในปากของเขา
เซวียนชิงสัมผัสกับเลือดของนางโดยไม่ทันตั้งตัว ที่น่าแปลกก็คือร่างกายของเขารู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงอันเด่นชัดในทันที มิใช่แค่ลมหายใจที่ปลอดโปร่ง กระทั่งเนื้อตัวก็มีเรี่ยวแรงขึ้นมา สติรับรู้ยิ่งแจ่มใสขึ้นมาก แม้แต่ปากแผลก็ไม่หลั่งเลือดออกมาแล้ว
อาการบาดเจ็บที่เกิดจากตะปูตรึงวิญญาณนั้น แม้แต่เทพเซียนยังต้องจนปัญญา ไม่นึกเลยว่าเลือดของมนุษย์ธรรมดาเช่นนางกลับมีสรรพคุณถึงเพียงนี้ แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ได้ซาบซึ้งใจแต่อย่างใด ร่างแบ่งภาคยิ่งอ่อนแอสิถึงจะยิ่งส่งผลดีต่อการถอดดวงจิต การที่นางช่วยเขาเท่ากับมีเจตนาดีแต่ทำให้เป็นเรื่องร้ายโดยแท้!
สาวน้อยนางนี้ยังกวาดตาผ่านช่วงล่างของเขาไปแวบหนึ่ง ดูเหมือนนางจะรู้สึกเสียดายยิ่ง “เจ้าช่างน่าอนาถเสียจริง จนใจที่ข้าเทียบกับเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว ได้แต่กล้อมแกล้มช่วยต่อชีวิตให้เจ้าเท่านั้น” นางชักนิ้วมือกลับมาปาดเช็ดให้เลือดแห้ง ก่อนจะจัดอาภรณ์ให้เขาจนเข้าที่เข้าทาง ทั้งรัดสายคาดเอวให้เป็นอย่างดี “นี่ เจ้าหนู ดีขึ้นบ้างหรือยังล่ะ”
มีชีวิตอยู่มาก็หลายพันปีแล้ว นี่นับเป็นครั้งแรกที่เซวียนชิงถูกเรียกขานว่า ‘เจ้าหนู’ มิหนำซ้ำอีกฝ่ายยังเป็นเพียงสาวน้อยเช่นนี้ด้วย เขานึกขันอยู่ในใจ ทว่าติดขัดที่ตนเองบาดเจ็บสาหัสและตอบสนองใดๆ ไม่ได้ทั้งสิ้น
สาวน้อยไม่ได้รับคำตอบจึงเบะปาก นางนั่งลงกับพื้นแล้วเท้าคางมองเขา “ข้าต้องคิดดูสักหน่อยว่าควรจะจัดที่ทางให้เจ้าอย่างไรดี”
แม้เซวียนชิงจะสนใจใคร่รู้ในตัวสาวน้อยนางนี้อย่างเต็มเปี่ยม ทว่าฤทธิ์ของตะปูตรึงวิญญาณยังคงอยู่ เรื่องเร่งด่วนที่สุดในตอนนี้จึงต้องกลับคืนสู่ร่างต้นกำเนิดโดยไว อีกอย่างเขาก็ยังมีหน้าที่บนสวรรค์ติดตัวอยู่ด้วย
เซวียนชิงเพิ่งจะรวบรวมสมาธิร่ายอาคม เสียงสัตว์คำรามก็พลันดังมาแต่ไกล สาวน้อยกระโดดพรวดขึ้นทันควัน เหลียวมองไปสี่ทิศรอบหนึ่งอย่างตื่นตัว จากนั้นจึงโน้มกายลงมาหิ้วร่างเขาลุกขึ้นในคราวเดียว
“สัตว์อสูรกำลังจะมาที่นี่แล้ว ไปกันเร็ว!”
เซวียนชิงไม่ได้อยากจะไปด้วยเลยสักนิด แต่นึกไม่ถึงว่าสาวน้อยรูปร่างผอมบางดูอ่อนแอผู้นี้กลับมีพละกำลังใช้ได้ นางถึงกับกึ่งพยุงกึ่งลากเขาไปเช่นนี้ พาวิ่งหนีเข้าไปในทิวเขาที่อยู่ด้านหลัง ระหว่างทางเซวียนชิงยังคงลองถอดดวงจิตตนเองต่อ แต่จนใจที่พื้นขรุขระตลอดทาง ทำให้ยากจะมีสมาธิจดจ่อได้จริงๆ เขาได้แต่จำใจเลิกล้มไปชั่วคราว