เสียงร้องไห้กระซิกของเด็กน้อยดังขึ้น แม้จะไม่ถึงกับร้องจ้า แต่ก็ดังมากพอแล้วสำหรับลตางค์ที่ครางออกมาเบาๆ ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับไปหาเด็กหญิงเพราะตัดใจทิ้งไม่ลงเสียแล้ว
“น้องคะ ไม่ร้องนะ มากับใครเอ่ย คุณพ่อหรือว่าคุณแม่”
ลตางค์ย่อตัวลงให้ใบหน้าเสมอกับเด็กหญิง อาการยกมือเช็ดน้ำตาป้อยๆ และดวงตาคลอหน่วยด้วยหยาดน้ำแดงก่ำที่ได้เห็นมีแต่จะย้ำว่าปล่อยทิ้งไว้แบบนี้ไม่ได้ แม้รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองอาจต้องเดือดร้อนที่ไม่รีบไปให้ถึงออฟฟิศเสียทีก็เถอะ
“พี่จะพาไปหาคนช่วยตามหาคุณแม่นะ” ลตางค์บอกพลางรวบเอกสารทั้งหมดไปไว้ในมือข้างหนึ่ง เพื่อให้อีกข้างว่างพอที่จะจับจูงเด็กหญิง และนึกปลอบตัวเองไปด้วยเสร็จสรรพ
แป๊บเดียวน่า แค่พาไปส่งที่ประชาสัมพันธ์ประจำศูนย์การค้าเท่านั้นเอง ไม่นานหรอก
อารามมัวสนใจจะพาเด็กหญิงไปหาคนช่วยตามหาผู้ปกครองทำให้ลตางค์ไม่ทันได้เห็นสายตาของชายหนุ่มคนหนึ่งที่มองมาจากทางเชื่อมระหว่างอาคารศูนย์การค้าและอาคารสำนักงานอย่างสนใจ มุมปากยกยิ้มแววตาอ่อนแสงละมุน พอใจกับภาพที่ได้เห็น
ตาณนั้นมองเด็กหญิงตัวเล็กที่ดูเหมือนจะพลัดหลงกับผู้ปกครองอย่างชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งแล้ว กำลังจะก้าวเท้าเข้าไปหา แต่เสียงแฟ้มเอกสารที่ตกลงพื้นเสียดังทำให้ชะงักเสียก่อน ความรู้สึกคุ้นตาในยามที่เธอเงยหน้าขึ้นมาทำให้อดไม่ได้ที่จะลองคิดว่าเคยเห็นที่ไหน กระทั่งจำได้ว่าเธอคือนักเขียนหน้าใหม่ที่เขาเคยพบที่งานสัปดาห์หนังสือเมื่อหลายวันก่อน แต่วันนี้แปลกตาเพราะแว่นสายตากรอบเข้ม
อาการละล้าละลังของเธอก่อนหมุนตัวกลับไปหาเด็กหญิงทำให้เขาเลือกที่จะยืนนิ่ง คิดว่าพอจะเห็นท่าทางรีบร้อนของเธอ ไม่นึกว่าสุดท้ายจะยอมเสียเวลาช่วยเด็ก
ลตางค์…นามปากกาของเธอดังขึ้นในความคิด
นิยายของเธอเขาอ่านจบภายในเวลาชั่วข้ามคืน ฝีมืออาจไม่ถึงขั้นพอจะทำให้ซาบซึ้งจนเก็บไปเป็นความประทับใจให้หยิบขึ้นมาอ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ก็มากพอที่จะทำให้เขายิ้ม และอ่านรวดเดียวถึงบรรทัดสุดท้ายได้อย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน
การได้พบคนเขียนโดยบังเอิญอีกครั้งวันนี้ ได้เห็นน้ำใจของเธอที่มีให้เด็กน้อยแปลกหน้า ทำให้ตาณคิดว่าไม่เสียทีที่อุดหนุนนิยายของเธอ และจากนี้ไป…ถ้าเธอจะเดินต่อไปบนเส้นทางสายวรรณกรรม เขาก็คงจะต้องเสียทรัพย์อุดหนุนนิยายที่คนเขียนไม่ใช่แววบุหลันเป็นประจำเสียแล้ว
กาแฟร้อนหอมกรุ่นที่ถูกวางลงบนโต๊ะใกล้มือทำให้ตาณที่กำลังนั่งมองหน้าจอคอมพิวเตอร์เงยหน้าไปมองพร้อมรอยยิ้ม
“ดีใจจังที่เข้าออฟฟิศวันนี้ เลยได้มีโอกาสดื่มกาแฟฝีมือพี่ขวัญ ขอบคุณครับ ไปเที่ยวเป็นไงมั่ง ตาณคิดถึงทุกวันเลยนะ”
“เอาคำหวานมากำนัลอีกแล้วนะคะ นี่ค่ะของฝาก กำลังคิดอยู่เชียวว่าเย็นนี้จะชวนคุณเป้ไปหาที่บ้าน โชคดี…คุณตาณเข้าออฟฟิศ”
ถัดจากกาแฟ ถุงกระดาษสีน้ำตาลก็ถูกวางลงตรงหน้า ตาณเลิกคิ้วน้อยๆ แต่ใบหน้ายังแต้มยิ้มละไม
“อะไรครับเนี่ย จริงๆ แล้วแค่พี่ขวัญกลับมาทำงานเสียทีก็เป็นของฝากอย่างดีของตาณแล้วนะ” ปากพูดอย่างนั้น แต่มือก็ขยับถุงมาเปิดดูของข้างในตาเป็นประกาย
“นี่ถ้าไม่มีคุณเป้นะ พี่ต้องหลงคุณตาณเข้าสักวัน เสื้อยืดค่ะ ยืนยันว่าไปอัมพวามาจริงๆ ส่วนผ้าทอของคุณอาบุหลันนะคะ พี่ขอถือโอกาสรบกวนฝากไปให้แทนตัวทีเถอะค่ะ”