ความจริงแล้วหากคนผู้หนึ่งต้องการหลบเลี่ยงลมฝนพายุ พื้นที่ห้องแค่เพียงหนึ่งจั้งก็พอแล้ว ในยามที่เฉิงตั๋วอยู่ที่จวนอ๋องแห่งนี้ พื้นที่ที่เขาโปรดปรานก็มีเพียงห้องหนังสือและบ่อน้ำพุร้อนไร้นามแห่งนี้ของเขาเท่านั้น สถานที่แห่งอื่นในจวนอ๋องกลับดูมากเกินความจำเป็น
เจ๋ออี้อยู่รอเขากลับมา เฉิงตั๋วไม่มีเรื่องอะไรแล้วจึงไล่เจ๋ออี้ไปนอน เขาผลักประตูเข้าไป ภายในห้องหนังสือมืดสนิทไร้แสงเทียน ด้านในห้องนอนจุดตะเกียงห้ากิ่งเอาไว้ มันส่องแสงสลัวราง ฉาฉาฟุบตัวหลับอยู่ที่มุมเตียง เฉิงตั๋วไม่เคยเห็นผู้ใดรักการนอนยิ่งกว่านางมาก่อน
เขาถอดเสื้อขนสัตว์ตัวนอกออก หากอยู่ที่เยี่ยนโจวเขาไม่มีทางสวมใส่เช่นนี้ แต่งานเลี้ยงภายในวังจะสะเพร่าละเลยไม่ได้ จำเป็นต้องแต่งกายตามลำดับขั้น ไม่อาจสวมใส่ได้ตามใจชอบ เฉิงตั๋วปลดข้อแขนขนจิ้งจอกดำที่พันอยู่บนข้อมือออก หันไปมองภายในห้อง รอบด้านเงียบสงัด
ฉาฉามีข้อดีอย่างหนึ่งก็คือในตอนที่เจ้าไม่ต้องการเห็นนาง เจ้าก็สามารถทำเหมือนนางไม่มีตัวตนอยู่ได้โดยสมบูรณ์ แต่อย่างไรก็ตามวันนี้เฉิงตั๋วถูกคนเมินใส่ติดต่อกัน จำเป็นต้องตามหาความรู้สึกมีตัวตนอย่างเร่งด่วน ดังนั้นเขาจึงเดินไปตบปลุกฉาฉาทีหนึ่ง ฉาฉาถูกเขาปลุกตื่นสะลึมสะลือ เมื่อเงยหน้าแล้วเห็นว่าเป็นเขาก็รีบร้อนลุกขึ้น
เฉิงตั๋วนั่งลงบนขอบเตียง เตียงหลังนี้ใหญ่มาก ทำมาจากไม้ซึ่งสลักเป็นลวดลายคลื่น เฉิงตั๋วไม่ชอบลวดลายบุปผากระจุ๋มกระจิ๋มพรรค์นั้น ดังนั้นจึงไม่มีลายแกะสลักบุปผาสักแห่งเดียว แม้งานแกะสลักจะเรียบง่าย ทว่าฝีมือประณีต ยามที่พลิกตัวไปมาบนเตียงไม่มีทางส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าด เฉิงตั๋วไพล่มือข้างหนึ่งไปด้านหลัง ทำท่าบ่งบอกให้ฉาฉาเข้ามาใกล้ ฉาฉาซึ่งเพิ่งตื่นเขยิบมาข้างกายเขา เฉิงตั๋วนำมือขวาที่ซ่อนไว้ด้านหลังออกมาให้นางดู
ฉาฉาเห็นในมือเฉิงตั๋วจับสัตว์ตัวเล็กขนปุกปุยเอาไว้ตัวหนึ่ง มือซ้ายของเขาประคองอยู่ใต้มือขวา คล้ายเกรงว่าจะเผลอบีบมัน เขายื่นมือเข้าไปใกล้ตรงหน้านาง ฉาฉารู้สึกกลัวอยู่บ้าง
เฉิงตั๋วจึงกล่าวว่า “ไม่ต้องกลัว ดูสิว่านี่คืออะไร” ภายใต้แสงเทียน ฉาฉามองเห็นไม่ชัดเท่าใดนัก ในตอนที่กำลังพิจารณา สัตว์ตัวนั้นก็เหมือนจะดิ้นรนน้อยๆ มือซ้ายของเฉิงตั๋วที่ประคองอยู่ขยับ จับไว้ไม่ทัน สัตว์ตัวนั้นจึงกระโจนเข้าใส่ร่างนาง
ฉาฉาตกใจจนกระโดดตัวลอยดุจกระต่าย สะบัดมันทิ้งอย่างรวดเร็วแล้วขยับไปอยู่ทางด้านซ้ายเฉิงตั๋ว คว้าแขนเสื้อจับต้นแขนเขามาบังอยู่ข้างหน้า เฉิงตั๋วหัวเราะเสียงดังอย่างห้ามไม่อยู่ เจ้าของปุกปุยชิ้นนั้นนอนแผ่ตัวอยู่บนพื้น สิ่งนี้ก็คือข้อแขนขนจิ้งจอกของเขานั่นเอง พอฉาฉาเห็นชัดก็ปล่อยมือออกทันที
เฉิงตั๋วไม่ได้ก้มเก็บข้อแขนขนจิ้งจอก กลับอุ้มตัวฉาฉามานั่งบนตัก ถามว่า “วันนี้เจ้าทำอะไรบ้าง” แน่นอนว่าฉาฉาตอบกลับไม่ได้ เฉิงตั๋วถามต่อ “ยังคงเป็นลูกมือของหลี่หมัวมัวหรือไม่” คราวนี้ฉาฉาพยักหน้า
“ข้าว่าอีกสองปีให้หลังเจ้าจะต้องเป็นเหมือนนางแน่” ฉาฉาไม่มีอาการตอบสนอง
“ดูสิ นางเข้มงวดถึงเพียงนั้น แต่สีหน้าของเจ้ายังเปลี่ยนแปลงยากยิ่งกว่านางเสียอีก วันหน้าเจ้าจะต้องกลายเป็นหญิงแก่หน้าตาย ทำให้ผู้คนหวาดกลัวเป็นแน่” ฉาฉาไม่ไว้หน้ากับมุกตลกของเขา ยังคงมองอย่างนิ่งเฉย