เมื่อไหร่ที่เจ้านายมีปัญหา อรณัสอดไม่ได้ที่จะทุกข์ร้อนใจไปด้วย เพราะเขาเองก็รับรู้เรื่องราวระหว่างธรณิน รศิตา ภาคิน และมุกตาภาดี ไม่แปลกเลยที่เขาจะคาดเดาปัญหาและเรื่องราวต่างๆ ได้
“เรื่องเดียวที่แซนด์เป็นห่วงก็คือเรื่องน้องภูนี่แหละค่ะ”
‘น้องภู’ หรือ ‘ภูดิส’ เป็นลูกชายวัยสามขวบครึ่งของภาคินกับ ‘รศิตา’ ตอนนี้แกเพิ่งจะเข้าโรงเรียนอนุบาล อยู่ในวัยช่างเรียนรู้และกำลังน่ารักน่าชัง ธรณินถึงได้โกรธมากที่ภาคินทิ้งลูกชายตัวน้อยได้ลงคอ ถ้าเธอเป็นพ่อเป็นแม่ของน้องภู เธอคงจะทั้งรักทั้งหลงจนไม่กล้าแม้แต่จะทำร้ายจิตใจแก
ต่อให้ธรณินจะขึ้นชื่อว่าเป็นสาวร้าย ขาวีน และเหวี่ยงแรง แต่เธอจะทำนิสัยเหล่านี้กับคนที่มาทำร้ายเธอก่อนเท่านั้น เพราะกับคนที่เป็นมิตรและรู้สึกดีๆ ต่อกัน…เธอจะน่ารักเสมอ
“แซนด์คิดว่าหลังจากเคลียร์งานวันนี้จะเข้าไปคุยกับเพื่อนที่บ้านค่ะ ยายศิน่าจะเห็นข่าวแล้ว” น้ำเสียงของธรณินอ่อนลง “ความจริงแซนด์ก็กังวลเรื่องนี้เหมือนกันนะคะ ยายศิกลัวนายภาคินอย่างกับอะไร แต่ถ้าไม่ทำแบบนี้ยายศิก็ต้องน้ำตาตกในอยู่ฝ่ายเดียว แล้วปล่อยให้นายภาคินกับยายตาไปเสวยสุขกันสองคน”
“รับบทองครักษ์พิทักษ์เพื่อนว่างั้น”
“เป็นพี่เอจะยอมอยู่เฉยๆ เหรอคะ” ธรณินย้อนถาม
เธอเชื่อว่าใครอยู่ในสถานะอย่างเธอก็ต้องทนไม่ไหว
“แค่นี้ก่อนนะคะพี่เอ แซนด์อาบน้ำแต่งตัวก่อน แล้วเดี๋ยวเจอกันที่งานนะคะ”
“โอเคค่า เดี๋ยวพี่ดูแลงานทางนี้รอ”
ทั้งสองคนบอกลากันก่อนที่ธรณินจะวางสาย หญิงสาวแอบถอนหายใจเงียบๆ คนเดียวอีกครั้งก่อนจะพลิกตัวลงจากเตียงเพื่อทำกิจวัตรประจำวัน เธอหวังอยู่ลึกๆ ว่ารศิตาจะเข้าใจในการกระทำของเธอ
ธรณินหวังดีกับเพื่อนจริงๆ ถึงได้ยอมทำเรื่องบ้าๆ แบบนั้น…
“ยายแซนด์”
แต่งตัวเสร็จธรณินก็ลงจากห้องเพื่อออกไปทำงาน ทว่ายังไม่ทันเดินออกไปจากคฤหาสน์หลังงาม…เสียงของ ‘ยศภัทร’ ผู้เป็นบิดาก็เรียกเธอเอาไว้ก่อน
น้ำเสียงเข้มๆ ที่ฟังดูดุและเยือกเย็นผิดปกติทำให้ร่างบางจำต้องชะงักฝีเท้า หัวใจดวงน้อยหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม เพราะเธอรับรู้ว่าตนเองจะต้องถูกตำหนิอย่างแน่นอน
คุณพ่อกับคุณแม่นี่หูไวตาไวชะมัด
หญิงสาวคิดในใจขณะพยายามเรียกสติกลับมาและคิดว่าเธอจะเอาตัวรอดได้ยังไง จากนั้นก็มองไปทางห้องรับแขกแล้วเห็นว่าทั้งบิดา มารดา และพี่ชายทั้งสองคนนั่งรวมตัวกันอยู่
ทุกสายตามองมาที่เธอเป็นตาเดียว…
อยู่ครบองค์ประชุม!
หญิงสาวกรีดร้องอยู่ในใจ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเพราะข่าวใหญ่ที่เกิดจากฝีมือของเธออย่างแน่นอนที่ทำให้ทุกคนมารวมตัวกันและทำท่าเหมือนนั่งรอ ‘ให้ศีลให้พร’ เธอก่อนออกไปทำงานแบบนี้
“แหม…อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเลยนะคะ”
ธรณินฉีกยิ้มกว้าง ปั้นหน้าปั้นตาให้ดูสดใสร่าเริงราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องรับแขกซึ่งทุกคนนั่งรวมตัวกันอยู่