“เป็นเด็กดี อย่าไปไหนนะ อาจารย์ยังต้มยาไม่เสร็จ ไปไม่นานเดี๋ยวก็กลับมา” ต้วนมู่ไป๋สั่งกำชับไว้หลายคำก่อนจะหมุนกายเดินออกจากห้องโถงหินไป
รอจนกระทั่งคนเดินจากไปแล้วพั่วเยวี่ยพลันกลอกตาไปมา มุมปากยกโค้งเผยรอยยิ้มชั่วร้าย
ฮ่า เรื่องนี้ชักน่าสนุกแล้วสิ เดิมทีนางเป็นคนของเผ่ามาร ไม่นึกเลยว่าจะกลายเป็นลูกศิษย์ของผู้บำเพ็ญเพียร แล้วยังเป็นลูกศิษย์ของเซียนกระบี่ด้วย
จอมมารมีสี่ขุนพลใหญ่อยู่ใต้บังคับบัญชา แบกออกเป็นเฮยซ่า ลี่อู่ ชุยซิน และเยี่ยนสื่อ จอมมารอยากปราบเซียนกระบี่ให้ราบคาบมานานแล้ว สี่ขุนพลใหญ่ต่างยื้อแย่งกันหมายสร้างความดีความชอบนี้ก่อนใคร สำหรับนางในฐานะขุนพลเยี่ยนสื่อ เพื่อหาทางปราบต้วนมู่ไป๋ให้จงได้ เคยพยายามทำทุกวิถีทางในการยั่วยวนเขามาแล้ว
ไม่ว่าจะแสร้งทำตัวน่ารัก ใสซื่อ หรือว่าน่าสงสาร งัดสารพัดอุบายออกมาใช้จนหมดสิ้น แต่ก็ยังล่อลวงเขาให้ตบะแตกไม่ได้เลย
เซียนกระบี่ไปไหนมาไหนอย่างอิสระ เป็นตัวของตัวเอง ไม่แยแสสนใจเรื่องใดหรือใครหน้าไหน ไม่คิดเลยว่าเขาจะมีลูกศิษย์คนหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นนางมองออกว่าเขารักใคร่เอ็นดูลูกศิษย์คนนี้นัก
เมื่อกลายเป็นลูกศิษย์ของเซียนกระบี่ก็มีโอกาสจัดการเขามากกว่าเดิม ดูท่าจะต้มยำทำแกงอย่างไรก็ได้ตามแต่ใจนางต้องการ แล้วยังสร้างความดีความชอบใหญ่หลวงได้สำเร็จก่อนผู้ใด ถึงเวลานั้นนางอาจสามารถร้องขอจอมมารให้มอบยอดเขาวั่งเยวี่ยสถานที่พำนักของเซียนกระบี่เป็นรางวัลแก่นางได้
พอคิดถึงเรื่องนี้นางก็เผยรอยยิ้มน่าสะพรึงกลัวออกมาอีก
เมื่อต้วนมู่ไป๋เดินกลับเข้ามาในห้องนางก็เก็บรอยยิ้มร้ายกาจของตัวเองไปเรียบร้อย เปลี่ยนมาทำท่าทางเช่นหญิงงามผู้น่าสงสารที่ใครเห็นก็อดหลงรักไม่ได้
“ดื่มยาชามนี้ให้หมดเถิด” เขาส่งชามยาที่มีของเหลวเหนียวข้นสีดำดุจหมึกมาตรงหน้านาง
พั่วเยวี่ยจ้องยาชามนั้นเขม็ง ของเหลวในชามมองแล้วน่าสะอิดสะเอียนอยู่บ้าง นางแสร้งถามอย่างไร้เดียงสาว่า “อาจารย์ นี่คือยาอะไรหรือเจ้าคะ”
ต้วนมู่ไป๋อมยิ้มพลางเอ่ยว่า “เจ้าบาดเจ็บเพราะพลังมาร ยาชามนี้ช่วยชะล้างกระดูกและเส้นเอ็น สลายไอมารภายในร่างเจ้าให้หมดไป”
นางพลันใจเต้นโครมคราม สลายไอมารให้หมดไป? ตอนนี้ข้าสำแดงพลังมารออกมาไม่ได้ พอดื่มยาลงไป นับจากนี้จะใช้พลังมารไม่ได้อีกใช่หรือไม่
ไม่ได้การ ข้าจะดื่มยาชามนี้ไม่ได้!
“อาจารย์ ตอนนี้ข้ารู้สึกไม่สบายท้องมากเลยเจ้าค่ะ” ยามกล่าววาจานางยังจงใจกุมท้องไปด้วย ทำท่าอึดอัดไม่สบายเสียเต็มประดา “ไม่รู้ว่าเป็นอะไรไป รู้สึกคลื่นไส้เหมือนอยากจะอาเจียน…”
“โอ้?” ต้วนมู่ไป๋ขมวดคิ้วมุ่น ขบคิดชั่วครู่ก็พยักหน้า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่ต้องดื่มแล้ว”
บอกปัดง่ายดายปานนี้เชียว? นางนึกว่าต้องเปลืองน้ำลายเจรจามากกว่านี้เสียอีก
ตอนต้วนมู่ไป๋ยกชามยาออกไปยังเอ่ยด้วยความเสียดายว่า “ผลรวมพลังปราณเป็นยาสมุนไพรชั้นเลิศสำหรับการบำเพ็ญเพียร ถ้าหากดื่มลงท้องแล้วอาเจียนออกมาคงน่าเสียดายแย่”
พั่วเยวี่ยเบิกตาโพลงโดยพลัน “อาจารย์!”
ต้วนมู่ไป๋ได้ยินเสียงก็หยุดชะงัก หันหน้ากลับมามองนาง
นางกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “อาจารย์ ข้าตัดสินใจแล้วว่าจะดื่มเจ้าค่ะ”
“เจ้าอยากอาเจียนไม่ใช่หรือ”
“อาจารย์ต้องลำบากต้มยาชามนี้ ศิษย์ไม่ดื่มก็เอาแต่ใจเกินไปแล้ว” นางตอบอย่างจริงจังหนักแน่นและตรงไปตรงมา ก้าวเข้าไปรับยาชามนั้นมาดื่มทันที
อย่าล้อเล่นไปหน่อยเลย ผลรวมพลังปราณเชียวนะ! นี่เป็นถึงผลไม้ศักดิ์สิทธิ์หายากในรอบหนึ่งพันปี ผลไม้ชนิดนี้นอกจากจะช่วยบำรุงวิญญาณดั้งเดิมกับรากพลังวิญญาณ ยังสามารถถอนพิษได้สารพัดชนิดและเพิ่มพูนพลังการบำเพ็ญเพียรอย่างมหาศาล
นางกระดกดื่มอึกแล้วอึกเล่าลงท้องไม่ยอมเหลือแม้แต่หยดเดียว พอดื่มจนหมดเกลี้ยงแล้วก็ส่งชามคืนให้อาจารย์อย่างพอใจ
“ขอบคุณอาจารย์มากเจ้าค่ะ”
นางคิดไม่ถึงเลยว่าการย้อนกลับมาเกิดใหม่ในร่างนี้ยังมีข้อดีขนาดนี้อยู่ด้วย ไม่เพียงกลายเป็นลูกศิษย์ของเขา ยังได้กินผลไม้เซียนและสมุนไพรเซียนเหล่านี้บำรุงร่างกายอย่างเปิดเผย ถ้าหากโชคดีไม่แน่ว่าอาจหลอกขออาวุธวิเศษมาลองใช้เล่น ไฉนนางถึงเพิ่งมาคิดได้เอาป่านนี้นะ
พอคิดได้ดังนี้แล้วพั่วเยวี่ยก็อารมณ์ดีขึ้นเป็นพิเศษ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะนางคิดมากเกินไปหรือไม่ หลังจากดื่มยาไปแล้วก็เริ่มสัมผัสได้ว่าตอนนี้จิตใจสดชื่นแจ่มใสกว่าเดิมร้อยเท่า
“อาจารย์ ดื่มยาผลรวมพลังปราณไปแล้ว รออีกนานแค่ไหนถึงจะฟื้นฟูลมปราณได้เจ้าคะ” ดวงตาของนางเปล่งประกายวิบวับน่าเอ็นดู
“ผลรวมพลังปราณเป็นของบำรุงกำลังภายใน กินเข้าไปแล้วรอหนึ่งเค่อก็จะช่วยให้เส้นลมปราณในร่างกายโล่งไม่ติดขัดและเก็บสะสมพละกำลังไว้ได้”
พั่วเยวี่ยพยายามสะกดความตื่นเต้นในใจ จากคำอธิบายของเขา หากนางดื่มมากกว่านี้สักหลายชามจะยิ่งฟื้นฟูอิทธิฤทธิ์ได้เร็วขึ้นใช่หรือไม่
ขณะที่นางกำลังยินดีปรีดาอยู่เงียบๆ ต้วนมู่ไป๋ก็กล่าวเสริมอีกประโยค “รอให้อาจารย์เก็บผลรวมพลังปราณได้จะเอามาให้เจ้ากินนะ”
นางตะลึงงันไปทันใด ถามอย่างงุนงงว่า “ยาชามนี้ไม่ใช่ผลรวมพลังปราณหรอกหรือ”
เขาได้ยินแล้วหัวเราะเบาๆ “เป่าเอ๋อร์เด็กโง่ ผลไม้เซียนก็คือผลไม้เซียน ยาต้มก็คือยาต้ม ที่สำคัญผลรวมพลังปราณเอาไว้กิน ไม่ได้เอาไว้ดื่ม”
นางนิ่งอึ้งไปอีกครั้ง “แล้วชามที่ท่านให้ข้าดื่มคืออะไรกัน”
“ยาสงบใจ”