ผลไม้เซียนรวมพลังปราณต้องมีกลิ่นคาวเลือดแน่นอนล่ะ เพราะว่าเขาใช้เลือดเซียนของตัวเองเลี้ยงดูมานานกว่ายี่สิบปี อีกทั้งยังสร้างค่ายกลป้องกันขโมย จนกระทั่งวันนี้เมื่อโอกาสสุกงอมพอดีถึงตั้งใจไปเก็บมาป้อนนาง
หรือหมายความว่ายี่สิบปีก่อนหน้านี้เขาก็วางแผนเรื่องราวทุกอย่างเอาไว้แล้ว
ตอนแรกเขาใช้กระบี่ซื่อหมัวแทงทะลุหัวใจนาง ทำให้วิญญาณดั้งเดิมของนางที่บำเพ็ญเพียรพลังมารได้รับความเสียหายจนวิญญาณหลุดออกจากร่าง จากนั้นก็ใช้ขวดดูดวิญญาณออก เสาะหาสามจิตเจ็ดวิญญาณ* ของนาง ทยอยเก็บรวบรวมวิญญาณที่แตกสลายกลับมาจนครบ แล้วใช้พลังอิทธิฤทธิ์ของเขาผนึกวิญญาณของนางไว้ในดอกบัว สุดท้ายจึงนำดอกบัวไปปลูกไว้ในสระหยกบริเวณก้นหุบเขาของยอดเขาวั่งเยวี่ย
แต่ละวันดอกบัวดูดซับแสงสว่างไสวของตะวันจันทรา สั่งสมพลังวิญญาณจากฟ้าดิน รวมถึงพลังบำเพ็ญเพียรห้าร้อยปีจากเขาซึ่งถ่ายทอดให้นางทีละเล็กละน้อย ป้อนอาหารบำรุงดอกบัวน่ารักบอบบางดอกนี้อย่างช้าๆ
ความแตกต่างของมารและเซียนอยู่ที่แก่นกระดูก พั่วเยวี่ยแต่เดิมเป็นคนของเผ่ามาร เติบโตขึ้นมาในแดนมาร ดูดซับไอพิษจากดินแดนแห่งนั้น จากศีรษะจรดปลายเท้า เส้นชีพจร เลือดเนื้อ และกระดูกทุกส่วนล้วนมีความเป็นมาร
ถ้าหากต้องการขจัดความเป็นมารของนางอย่างขุดรากถอนโคนมีวิธีการเพียงอย่างเดียวก็คือสับเปลี่ยนแก่นกระดูกไปโดยสิ้นเชิง ดึงวิญญาณดั้งเดิมของนางออกมา เปลี่ยนร่างกายฝากวิญญาณเป็นอีกร่างหนึ่ง ไม่เพียงเท่านี้ยังต้องชะล้างไอมารในวิญญาณดั้งเดิมของนางซึ่งมีแต่เลือดเซียนของเขาเท่านั้นที่ช่วยนางเปลี่ยนรูปลักษณ์ใหม่เป็นอีกคนได้
กว่าดอกบัวจะบำเพ็ญเพียรจนมีร่างมนุษย์อย่างน้อยต้องใช้เวลานานหลายร้อยปี ทว่าเขารอคอยนานปานนั้นไม่ไหวจึงยอมเสียสละพลังการบำเพ็ญเพียรห้าร้อยปีเป็นการตอบแทน เฝ้าถ่ายทอดพลังยุทธ์ให้แก่นาง โดยใช้เวลาสามเดือนจนแลกชีวิตใหม่ให้นางได้สำเร็จ
เขานั่งสมาธิบำเพ็ญเพียรอยู่ที่ก้นหุบเขาทั้งวันทั้งคืน คอยเคียงข้างนางในร่างดอกบัวดอกนี้ คอยปกปักรักษา หมั่นดูแลเอาใจใส่นางจนเติบโต เฝ้ามองนางผลิบานยามกลางวัน โอนเอนสั่นไหวแผ่วเบาใต้แสงอาทิตย์ พอถึงยามค่ำคืนจึงหุบกลีบดอกเข้าหากัน นอนหลับอย่างเงียบสงบใต้แสงจันทร์
เนื่องจากได้รับการดูแลจากพลังวิญญาณฟ้าดิน การหล่อเลี้ยงด้วยน้ำในสระหยก และการถ่ายทอดพลังบำเพ็ญเพียรจากเขา หลังช่วงเวลาแสนสั้นเพียงสามเดือนผ่านพ้นไปในที่สุดดอกบัวดอกนี้ก็กลายเป็นภูต วิญญาณของนางก็มีร่างกายใหม่แล้ว
เวลานี้นางไม่ใช่คนของเผ่ามารอีกต่อไป เมื่อเขาใช้อิทธิฤทธิ์ช่วยเปลี่ยนร่างก็กลายเป็นภูตดอกบัว
เลือดเซียนของเขาไหลเวียนอยู่ในร่างนางก่อเกิดเป็นรากสำเร็จเซียน ตอนนี้นางเป็นคนของแดนเซียนแล้ว นับจากนี้ถือว่าหลุดพ้นจากเผ่ามาร
ต้วนมู่ไป๋เพ่งพินิจคนงามในอ้อมกอด แม้ว่ากำลังนอนหลับสนิทก็ยังขมวดคิ้วอย่างดื้อดึง แสดงสีหน้าไม่ยินยอมพร้อมใจ
เขาทำให้นางเปลี่ยนเป็นคนใหม่ มีเพียงสิ่งเดียวที่ไม่ได้ลบไปก็คือความทรงจำเดิมของนาง ฉะนั้นแม้นางจะเป็นคนของแดนเซียนทว่าจิตใจกลับยังอยู่ที่เผ่ามาร
นางนึกว่าเขามองความคิดของนางไม่ออกหรือ ความจริงทุกการกระทำของนางล้วนอยู่ในสายตาเขาตลอดเวลา เขาแค่แสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเท่านั้น
“ดูท่าจะกำราบคน อย่างไรก็ต้องกำราบใจก่อนสินะ”
ต้วนมู่ไป๋กลั้นหัวเราะพลางส่ายหน้าจากนั้นก็วางนางนอนราบไปบนเตียง ตอนนี้นางยังสวมเสื้อคลุมของเขา การเคลื่อนไหวเมื่อครู่ทำให้สาบเสื้อแหวกเปิดออกเผยให้เห็นช่วงไหล่กลมกลึงเย้ายวน
เขาลูบคลำหัวไหล่ของนางเบาๆ เอ่ยพึมพำว่า “อืม…ต้องหาชุดเซียนที่เหมาะกับเจ้าสักชุดแล้ว” แน่นอนว่านอกจากเขาแล้วก็ไม่อยากให้ใครมาเห็นร่างนี้ทั้งสิ้น
ต้วนมู่ไป๋นอนลงในสภาพชุดครบถ้วน จัดท่าทางให้นางนอนในอ้อมแขน ช่วยดึงสาบเสื้อปิดให้เรียบร้อยอย่างระมัดระวังแล้วหลับตาลงพักผ่อน โอบกอดนางเข้าสู่ห้วงนิทราไปพร้อมกัน
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 21 มี.ค. 65 เวลา 12.00 น.