ทดลองอ่าน
ทดลองอ่าน ท่านเซียนอย่ามาหลอก บทที่ 5
“นี่คือหางจิ้งจอกทองคำ ว่ากันว่าหากได้ครอบครองมันแล้ว บุรุษทรงเสน่ห์สตรียั่วยวนผงาดครอบงำใต้หล้า”
ไม่เพียงเท่านี้! พลังเสน่หาของมันยังไม่แบ่งแยกบุรุษสตรี ไม่เลือกคนชราคนหนุ่มสาว ตัวผู้หรือตัวเมีย ไม่ว่าเจ้าจะเป็นสัตว์เดรัจฉานหรือมนุษย์ล้วนต้องหลงใหลคลั่งไคล้ไม่มีเว้น!
นางจ้องเขม็งจนลูกตาเกือบถลนออกจากเบ้า พยายามสะกดกลั้นไม่แสดงท่าทีผิดปกติ
“อาจารย์เก็บรวบรวมอาวุธชิ้นนี้ไว้เพื่อเหตุใดกัน เดิมทีท่านไม่ต้องใช้อยู่แล้ว”
“หืม? ไยข้าไม่จำเป็นต้องใช้ล่ะ”
“อาจารย์มีใบหน้าหล่อเหลาโดดเด่นเหนือผู้ใด ไม่ว่าเผ่าปีศาจ เผ่ามาร หรือแดนเซียน สตรีที่หลงรักท่านมีอยู่มากมาย ไม่เห็นจำเป็นต้องใช้เลยนะเจ้าคะ”
เขาเลิกคิ้วขึ้น “เจ้าคิดว่าอาจารย์หล่อเหลาโดดเด่นเหนือผู้ใดหรือ”
“เวลาอาจารย์ยิ้มอบอุ่นละมุนละไมดั่งหยก เวลาไม่ยิ้มเย็นชาดั่งสระน้ำกลางฤดูหนาว เรียกว่ารูปโฉมล้ำเลิศดั่งเทพเซียนบนสวรรค์ นับแต่โบราณมาไม่มีผู้ใดเทียบเคียงได้นั่นแล” พั่วเยวี่ยกล่าวสรรเสริญเยินยอจนจบแล้วยังยกนิ้วให้เขาด้วย
“เวลาสตรีนางนี้ร่ายคำหวานซ่อนกระบี่*** ไม่มีผู้ใดเก่งกาจไปกว่านาง นี่ท่านชอบแบบนี้หรือ” อินเจ๋อมองหน้าต้วนมู่ไป๋แล้วส่งเสียงคุยกันด้วยสัมผัสทิพย์
ต้วนมู่ไป๋ยิ่งเผยรอยยิ้มหล่อเหลาสะกดใจ ฝ่ามือวางสัมผัสเอวนางแล้วลูบไล้อย่างแนบเนียน เอ่ยตอบอย่างสั้นกระชับเพียงสี่คำว่า “เอวนิ่มปากหวาน”
คนทั้งสองส่งเสียงคุยกันด้วยสัมผัสทิพย์พั่วเยวี่ยจึงไม่ได้ยิน นางจิตใจจดจ่ออยู่กับหางจิ้งจอกทองคำ
ย้อนคิดถึงในอดีตตอนนั้น นางวิ่งไปถึงเขตแดนของเผ่าจิ้งจอกเพื่อแย่งชิงหางจิ้งจอกทองคำหางนี้ ทว่านางก็ช้าไปก้าวหนึ่ง ได้แต่มองตาปริบๆ เห็นจิ้งจอกสาวที่พ่ายแพ้ในการต่อสู้ดึงหางตัวเองออกมามอบให้ต้วนมู่ไป๋หวังประจบเอาใจ นางรู้สึกบีบหัวใจน้ำตาไหลเป็นสายเลือด จดจำความแค้นไว้จนทุกวันนี้
ต้วนมู่ไป๋เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเอ้อระเหย “อาจารย์แย่งชิงหางจิ้งจอกทองคำมา ไม่ได้คิดเก็บไว้ใช้เองหรอก”
พั่วเยวี่ยตะลึงงัน ถามอย่างกลัดกลุ้มว่า “ท่านไม่ใช้เอง แล้วเหตุใดต้องแย่งชิงด้วยเจ้าคะ”
“ข้าแค่ไม่อยากให้ของวิเศษชิ้นนี้ตกอยู่ในกำมือพั่วเยวี่ย ไม่อย่างนั้นนางคงนำไปล่อลวงบุรุษอื่น”
นางรู้สึกบีบหัวใจ น้ำตาไหลเป็นสายเลือดอีกครั้ง
นางแค้นใจนัก…ตอนนั้นนางไปแย่งชิงหางจิ้งจอกทองคำก็เพื่อนำมาใช้ล่อลวงต้วนมู่ไป๋นี่แหละ ปรากฏว่าเขาเป็นฝ่ายชิงตัดหน้าไปก่อน นางถูกสหายหัวเราะเยาะเพราะเรื่องนี้อยู่หลายเดือนเชียว
ต้วนมู่ไป๋โอบร่างนางเดินชมอาวุธวิเศษชิ้นอื่นต่อด้วยหัวใจเปี่ยมสุข อาวุธเหล่านี้ล้วนมีเรื่องราวของตัวเอง บังเอิญว่าเรื่องราวของพวกมันล้วนเกี่ยวข้องกับนาง
คันฉ่องมายา…สามารถกักขังคนไว้ในโลกมายาในคันฉ่อง นางอยากได้ แต่ก็ถูกเขาแย่งไปก่อน
แส้เกล็ดงู…แส้ชนิดนี้สะบัดใส่ใครฝูงงูก็จะมุ่งโจมตีคนผู้นั้น นางทำทุกวิถีทางเพื่อคว้ามาครอบครอง ทว่าก็ช้ากว่าเขาก้าวหนึ่ง
กาน้ำห้วงฝัน…สามารถเก็บคนเอาไว้ในกาน้ำ จากนั้นคนผู้นั้นก็จะตกอยู่ในห้วงฝันฉากหนึ่ง พอรู้สึกตัวตื่นก็ไม่อาจแยกแยะจริงเท็จ นางเฝ้าเพ้อฝันอยากได้มาครอง ผลสุดท้ายก็พ่ายแพ้ให้เขา
ทุกครั้งที่เห็นอาวุธวิเศษแต่ละชิ้นหัวใจของนางคล้ายกำลังหลั่งเลือด เพราะทุกชิ้นเป็นอาวุธวิเศษซึ่งนางเคยหมายตากลับไม่เคยได้มาครอบครอง
อยากด่าคน อยากต่อยตีคน อยากเตะคนนักเชียว!
แม้ว่านางจะแอบเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ในใจ แต่ทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้อีกว่าในเมื่อนางเป็นลูกศิษย์ของเขา ส่วนเขาก็ไม่รับลูกศิษย์คนอื่นเพิ่ม ไม่เท่ากับหมายความว่าภายภาคหน้านางจะเป็นผู้สืบทอดอาวุธเหล่านี้หรอกหรือ พอคิดเช่นนี้แล้วนางก็แสยะยิ้มชวนขนลุกออกมา
“อาจารย์เจ้าคะ” นางเอ่ยเรียกเสียงหวาน
“มีอะไรหรือ” เขายังคงนุ่มนวลดุจเดิม
“ข้าจะตั้งใจเรียนอาคมเซียนให้ดี ส่งเสริมให้สำนักของพวกเรามีชื่อเสียงเลื่องลือ และควบคุมอาวุธวิเศษพวกนี้ให้ได้”
นางเป็นลูกศิษย์เพียงคนเดียวของเขา สัตว์เซียนเหล่านั้นไม่มีอะไรน่ากลัว ส่วนอาวุธวิเศษสักวันจะต้องเป็นของนาง
ต้วนมู่ไป๋ลูบใบหน้านาง “เป่าเอ๋อร์เด็กดี อาจารย์ฟังแล้วชื่นใจจริงๆ แต่ว่าอาวุธวิเศษพวกนี้มีเจ้าของแล้วล่ะ”
พั่วเยวี่ยสีหน้าแข็งทื่อ มองหน้าเขาอย่างโง่งม
“มีเจ้าของแล้ว?”
“ก็ใช่น่ะสิ อาจารย์รวบรวมอาวุธวิเศษพวกนี้เอาไว้มอบให้คนที่หมายปอง”
ร่างกายนางสั่นสะท้านอย่างรุนแรง รูม่านตาหดแคบลง
“ท่านมีคนที่หมายปองแล้ว?” นางไม่อยากจะเชื่อเลย เขาไม่สนใจสตรีไม่ใช่หรือ
พั่วเยวี่ยตกตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก ห้วงความคิดพลันโล่งว่างเปล่า
ทุกดินแดนต่างกล่าวขานว่าเซียนกระบี่ไร้รัก ตอนนี้กลับได้ยินเขายอมรับเองว่ามีคนที่หมายปองแล้ว
ต้วนมู่ไป๋ก้มศีรษะมองนาง เห็นสีหน้าตะลึงงันของนางชัดเจนเต็มสองตาก็อมยิ้มพลางเอ่ยว่า “อาจารย์หมายความว่าจะใช้อาวุธวิเศษพวกนี้เป็นสินสอดมอบให้ภรรยาในอนาคต”
พอได้ยินประโยคนี้พั่วเยวี่ยถึงได้สติจากความตื่นตระหนกตกใจ ที่แท้เขาไม่ได้จะบอกว่าตัวเองมีคนที่หมายปอง แต่วางแผนจะมอบให้คนที่หมายปองในอนาคต
“อ้อ ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้เอง ฮ่าๆ” นางแอบเป่าปากโล่งอก แล้วสาปส่งเขาในใจว่าไม่รู้จักพูดจาให้กระจ่างชัด พลอยทำให้นางตกใจแทบตาย
ต้วนมู่ไป๋เก็บรายละเอียดอารมณ์ที่สะท้อนในดวงตานางไว้หมดสิ้น มุมปากยกโค้งเป็นรอยยิ้ม จากนั้นก็โอบร่างนางเดินไปข้างหน้าต่อ
“จำไว้ให้ดี อาวุธวิเศษพวกนี้จะต้องเก็บไว้ให้ภรรยาในอนาคตของข้า เข้าใจหรือไม่”
“เจ้าค่ะ ข้าจำได้แล้ว”
หึ มากี่คนจะฆ่าทิ้งให้หมด ให้ชั่วชีวิตนี้ท่านแต่งภรรยาไม่ได้เลย!
เอ๋? ไม่ถูกสิ ถ้าหากเขาจะเก็บอาวุธวิเศษเหล่านี้ไว้ให้ภรรยาในอนาคต แล้วเหตุใดถึงพาข้ามาดู หยอกข้าเล่นหรือ