ทดลองอ่าน ธาราวสันต์ บุษบันจันทรา บทที่ 11-บทที่ 12 – หน้า 4 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ธาราวสันต์ บุษบันจันทรา บทที่ 11-บทที่ 12

เกาเฉียวผลักประตูเข้าไปเห็นเซียวหย่งจยาหันหลังให้ประตู นั่งเอียงๆ เอนพิงหมอนอิงผ้าแพรปักดอกที่ยัดไส้ไว้จนอ่อนนุ่มอยู่บนตั่งที่ตั้งอยู่ด้านข้างของห้อง มือข้างหนึ่งงอศอกค้ำยันหน้าผาก มือข้างหนึ่งถือม้วนหนังสือ เส้นผมดำเงางามทั้งศีรษะปล่อยสยายอยู่ด้านหลังหนานุ่มดุจปุยเมฆ ร่างสวมกระโปรงหรูฉวิน ผูกเอวสีม่วงอมน้ำเงินยาวคลุมเข่า ด้านล่างกระโปรงมีหลังเท้าขาวผ่องดุจหิมะโผล่ออกมาเผยให้เห็นนิ้วเท้าที่ทาน้ำมันทาเล็บสีแดงสดเอาไว้ มองจากทางด้านหลัง รูปร่างนางดูอรชรอ้อนแอ้นราวกับเด็กสาวอายุสิบหก

นางหันหน้าไปทางโคมไฟที่ตั้งอยู่ปลายตั่ง คล้ายกำลังอ่านหนังสืออย่างใจจดใจจ่อ กระทั่งเขาเข้ามาแล้วก็ไม่ได้ยินเสียง เกาเฉียวจึงผ่อนฝีเท้าให้เบาลง เดินไปทางห้องด้านใน

ครั้นเดินมาถึงข้างกายนาง แสงโคมก็วูบไหว

เกาเฉียวหยุดฝีเท้า

“เมื่อวานลู่ฟูเหรินส่งคนมา บอกอีกสองวันจะมาปรึกษาหารือเรื่องแต่งงานของลูกๆ”

เซียวหย่งจยาเอ่ยปากเสียงเย็น สายตายังคงจับนิ่งอยู่ที่ม้วนหนังสือ

“เจ้าจัดการไปก็แล้วกัน”

เกาเฉียวตอบมาคำหนึ่งแล้วเดินเข้าไปข้างในต่อ ทว่าเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็หยุดลงอีก หันหน้ากลับมามองนางแวบหนึ่ง ลังเลชั่วขณะ สุดท้ายยังคงเอ่ยปากขึ้น “ดึกแล้ว ระวังจะเสียสายตา ไปพักผ่อนเถิด”

เซียวหย่งจยาส่งเสียงอืมเบาๆ โยนหนังสือในมือลงบนตั่ง นางเหยียบตั่งลงมาด้วยเท้าเปล่า แล้วสวมรองเท้าปักลายด้วยเส้นไหมสีม่วงที่ถอดไว้กับพื้นคู่นั้น บิดตัวเดินเข้าไปในห้องด้านใน ตอนเดินผ่านข้างกายเกาเฉียวก็หยุดลง ชำเลืองตามองเสื้อที่สวมอยู่บนร่างของเขาตัวนั้น

“เสื้อตัวนี้ท่านสวมมากี่ปีแล้ว หรือจะเป็นตัวที่ตัดพร้อมกับจื่อเล่อเมื่อปีก่อน” น้ำเสียงของนางเจือความรังเกียจเล็กน้อย

“ข้าใส่ชินแล้ว เสื้อผ้าก็ยังดีอยู่ ยังไม่เคยเย็บปะ”

เกาเฉียวลูบๆ ตัวเสื้อด้านหน้า พูดอย่างคลุมเครือ

เซียวหย่งจยาส่งสายตาแสดงความรังเกียจมาอีกครั้ง นางไม่พูดอะไรอีก เพียงหมุนตัวเดินผ่านข้างกายเขาไป

เกาเฉียวเดินกลับมา ค้อมเอวลงเก็บม้วนหนังสือที่นางโยนไว้เมื่อครู่ขึ้นมาเงียบๆ ปิดให้ดี แล้ววางกลับไปบนโต๊ะเล็กตัวหนึ่งที่อยู่ด้านหน้าตั่ง ก่อนเดินตามเข้าไปข้างใน

สองสามีภรรยาดับตะเกียงขึ้นนอนบนเตียง ต่างห่มผ้าคนละผืน

เซียวหย่งจยานอนหันหน้าเข้าด้านใน นางไม่ขยับร่างกาย คล้ายว่าหลับไปอย่างรวดเร็ว

เกาเฉียวนอนหงายอยู่บนหมอน คืนนี้เขาจะนอนหลับได้อย่างไร ในสมองครุ่นคิดแต่เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนกลางวันเรื่องนั้น พลิกตัวไปมาอยู่ครู่หนึ่ง จิตใจออกจะว้าวุ่น ด้วยกลัวจะทำให้คนข้างกายตกใจตื่น จึงค่อยๆ ลุกขึ้นมานั่งแต่ไม่จุดตะเกียง อาศัยแสงจันทร์รางเลือนที่ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาลงจากเตียงเบาๆ กำลังก้มเอว คลำหารองเท้า ฉับพลันนั้นก็มีเสียงดังขึ้นมาที่ด้านหลัง เซียวหย่งจยาลุกพรวดขึ้นมานั่ง

“เกาเฉียว! ตั้งแต่ท่านเข้ามา ข้าพูดกับท่าน ท่านก็ไม่ใสใจไยดี ตอนนี้กลางดึกกลางดื่นท่านพลิกไปพลิกมา ท่าทางราวกับไม่ได้รับความเป็นธรรม คราวนี้ยังจะออกไป? ท่านทำเช่นนี้เพราะอะไร หรือท่านรังเกียจที่ข้าอยู่ที่นี่ รบกวนความสงบสุขของท่าน ถ้าใช่ ท่านก็พูดออกมาตามตรงเสียแต่เนิ่นๆ ท่านจะได้ไม่ต้องทนทรมาน ข้าก็ไม่ต้องให้ท่านไล่ จะกลับไปเกาะไป๋ลู่ในทันที!”

เกาเฉียวไม่ทันระวังว่านางยังตื่นอยู่ เห็นนางจู่ๆ ก็เดือดดาลเป็นฟืนเป็นไฟ จึงรีบบอก “อาลิ่ง เจ้าเข้าใจผิดแล้ว ข้าจะนอนเดี๋ยวนี้” พูดพลางก็เลิกผ้าห่ม ทำท่าจะนอนลงไป

“ศึกเจียงเป่ยได้รับชัยชนะ บุตรสาวจะมีงานมงคล ทุกเรื่องล้วนเป็นเรื่องดี ท่านกลับสีหน้าไม่เบิกบานใจ ที่แท้แล้วท่านมีเรื่องอะไรกันแน่”

“ไม่มีเรื่องอะไร นอนเถิด” เกาเฉียวตอบอย่างพอขอไปที

เซียวหย่งจยายิ้มหยัน พูดเสียงเยียบเย็น “ช่างเถิด ยังจะเสแสร้งอะไร ท่านคิดว่าข้าไม่รู้หรือ ข้ารู้ท่านไม่อยากจะเห็นหน้าข้าแม้ชั่วขณะเดียว! ถ้าไม่ใช่เพื่อเรื่องแต่งงานของบุตรสาว ท่านคิดว่าข้าอยากจะกลับมาหรือ! ในเมื่อข้ากลับมาแล้วก็ต้องนอนเตียง ถ้าท่านเห็นข้าแล้วกลัดกลุ้มรำคาญใจ ตนเองอยากไปที่ใดก็เชิญ!”

นางกลับลงไปนอน ยังคงหันหลังให้เกาเฉียว หลังพูดจบก็หลับตาลง

เกาเฉียวทั้งยังไม่ได้กลับลงไปนอน และไม่ได้ยืนขึ้นมา เพียงนั่งอยู่ที่ขอบเตียง เงาร่างนิ่งอยู่กับที่ไม่ขยับ

ครู่ใหญ่เขาค่อยๆ ลุกขึ้นมาพูดเสียงต่ำ “เจ้านอนเถิด ข้ารู้สึกอุดอู้เล็กน้อย จะไปสงบใจที่ห้องหนังสือสักหน่อย”

เซียวหย่งจยาหันหน้ามา มองผ่านม่านมุ้งฤดูร้อนบางๆ ชั้นหนึ่ง เห็นเงาร่างสามีเดินช้าๆ ไปทางประตู นางแทบจะขบฟันขาวดุจเงินยวงจนแตก หยิบหมอนสี่เหลี่ยมที่เขาหนุนเมื่อครู่ขึ้นมา เลิกม่านมุ้งขึ้น ขว้างไปที่แผ่นหลังเขา พูดด้วยน้ำเสียงเคียดแค้น “ท่านก็นอนอยู่ที่ห้องหนังสือของท่านก็แล้วกัน ไม่ต้องกลับมาอีก!”

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 84.1-84.2

    By

    บทที่ 84.1 ชายาเป่ยเจิ้นอ๋องมองชุดรัดเอวแขนหลวมทำจากผ้าพลิ้วกรุยกรายลายปักซูซิ่ว บนร่างองค์หญิงอวี๋หยางอีกครา ดูคล้ายกับแบบที่ซูลั่วอวิ๋นสวม...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 83.1-83.2

    By

    บทที่ 83.1 หานเหยาได้ยินน้องชายพูดขึ้นมา นางก็เอ่ยอย่างลิงโลด “ดี! พี่สะใภ้ ท่านไม่ต้องกลับไปที่หมู่บ้านเฟิ่งเหว่ยแล้ว ที่นั่นวุ่นวายเหลือเก...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 82.1-82.2

    By

    บทที่ 82.1 ที่แท้จ้าวกุยเป่ยคิดว่าให้สัญญากับหานเหยาไว้ว่าจะมารับลูกอมก็จำเป็นต้องรักษาคำพูดหรือไร หานหลินเฟิงคร้านจะแยแสบุรุษหัวทึบผู้นี้ เ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 5-6

    By

    บทที่ 5 ราตรีวุ่น แววตาเสิ่นเฉียนมืดทะมึน กัดริมฝีปาก ปลายคางเกร็งแน่นเผยความแข็งกร้าวอยู่ในที “ที่แท้ถูกเด็ดปีกหมดสิ้นแล้วเนรเทศมาให้ข้านี่...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 81.1-81.2

    By

    บทที่ 81.1 ฉิวเจิ้นเพ่งตามองดูแล้วก็พบว่าไม่เพียงกำแพงของค่ายเสบียงมีการต่อเติมให้สูงขึ้น ยังขุดคูลึกรอบตัวกำแพงทั้งด้านนอกด้านในเพิ่มอีกสอง...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 3-4

    By

    บทที่ 3 หงหลวนแต่งงาน ลมราตรีพัดกรู แสงจันทร์สาดส่อง ภายในหอตั้นเสวี่ยของจวนสกุลเซี่ยเวลานี้ เซี่ยจิ่นสองมือไพล่หลัง ฟังน้องชายตัวน้อยเซี่ยซ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 1-2

    By

    บทที่ 1 ลมตะวันตกพัดมา สุริยันจมลับประจิม แสงสายัณห์สาดส่องขอบฟ้า เสิ่นเฉียนเปลี่ยนม้าไปตัวหนึ่งแล้วในจุดพักม้า เช่นนี้จึงเร่งมาถึงนอกเมืองห...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com