ทดลองอ่าน ธาราวสันต์ บุษบันจันทรา บทที่ 11-บทที่ 12 – หน้า 5 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ธาราวสันต์ บุษบันจันทรา บทที่ 11-บทที่ 12

ออกจากเมืองมาทางตะวันออก ห่างจากตัวเมืองไปหลายสิบหลี่ ตรงบริเวณชานเมืองมีทะเลสาบเชวี่ยอยู่แห่งหนึ่ง น้ำในทะเลสาบโหมซัดสาด ทัศนียภาพงดงาม ริมทะเลสาบมีที่ดินศักดินาอยู่ผืนหนึ่ง เรียกว่าเรือนเชวี่ย

วันถัดมาหลี่มู่ในชุดสีเขียวอมดำก็ขี่ม้ามาถึงเรือนเชวี่ยตามลำพัง ตอนลงจากหลังม้าบุรุษวัยกลางคนผู้หนึ่งแต่งตัวเหมือนพ่อบ้านที่ยืนรออยู่ปากประตูรีบเดินเข้ามาต้อนรับ ยิ้มแล้วบอก “ท่านก็คือหลี่หู่เปิน?”

หลี่มู่พยักหน้า

พ่อบ้านบอก “ข้าน้อยเกาชี ได้รับคำสั่งจากนายท่าน มารออยู่ที่นี่นานแล้ว เชิญตามข้าน้อยมา”

หลี่มู่มองที่ดินศักดินาแวบหนึ่ง แล้วเดินตามเกาชีเข้าไปข้างใน

ที่ดินศักดินาแห่งนี้กว้างขวางยิ่ง มองไปไม่เห็นขอบเขต เกาชีคล้ายเจตนาให้หลี่มู่ได้เปิดหูเปิดตาชมพื้นที่ภายใน พาเขาเดินไปข้างหน้าช้าๆ พอเจอทัศนียภาพแห่งหนึ่งก็จะแนะนำให้เขาได้รู้จัก ตลอดทางที่เดินผ่านมาคดเคี้ยววกวน เพียงเห็นด้านในมีสายน้ำเล็ก สะพานน้อย ศาลาหอเก๋ง ทิวทัศน์แตกต่างกันไปในทุกย่างก้าว งดงามหลากหลายชมได้ไม่หวาดไม่ไหว

กระทั่งทั้งสองคนเดินมาถึงลานด้านหลัง หน้าเรือนสูงที่เจ้าบ้านพำนักอยู่ เกาชีถึงกล่าวยิ้มๆ “นอกจากที่ที่ท่านเห็นเมื่อครู่ ที่ดินผืนนี้ยังมีที่นาอุดมสมบูรณ์อีกหนึ่งพันหมู่ ที่ดินทั้งในน้ำและบนบกสองร้อยกว่าฉิ่ง ข้าว หม่อน ปลา ผักผลไม้ทั้งสี่ฤดู อะไรที่พึงมีก็ล้วนมีทุกอย่าง”

หลี่มู่ยังไม่ได้พูดอะไร เพียงเหลือบตามองไปทางประตูเรือน ที่นั่นมีบุรุษหนุ่มอายุยี่สิบห้ายี่สิบหกปีผู้หนึ่งเดินออกมา ผลัดชุดทำศึกออก สวมชุดสีขาวปลิวสะบัด รูปโฉมหล่อเหล่า สองตาเป็นประกายแวววาว เขาก็คือบุตรหลานสกุลเกาที่มีความสามารถยอดเยี่ยมอีกคนหนึ่ง…เกาอิ้น

เกาอิ้นตอนทำศึกใหญ่ที่เจียงเป่ยมีตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการทหาร กับหลี่มู่ย่อมรู้จักกันดี เขาไม่ได้วางท่าแม้แต่น้อย ถึงกับสาวเท้าเร็วๆ มาถึงเบื้องหน้าหลี่มู่ด้วยสีหน้าเจือรอยยิ้ม “จิ้งเฉิน เจ้ามาแล้วหรือ ข้ามารออยู่นานแล้ว!”

หลี่มู่ยิ้มน้อยๆ ทำความเคารพเขา แต่ถูกเกาอิ้นยับยั้งไว้แล้วพาเข้าไปในห้องโถง ข้างในได้จัดเตรียมโต๊ะดื่มสุราไว้สองตัวแล้ว ซ้ายขวาตรงข้ามกัน เกาอิ้นเองนั่งในตำแหน่งเจ้าบ้าน เชิญหลี่มู่นั่งในตำแหน่งแขก ทั้งสองเพิ่งจะลงนั่งเรียบร้อยก็มีบ่าวไพร่ยกสุราอาหารชั้นเลิศเข้ามาดุจสายน้ำไหล หลังจากเสร็จสิ้นเกาอิ้นก็สั่งเกาชีให้พาคนล่าถอยออกไปทั้งหมด ไม่ต้องปรนนิบัติอยู่ด้านข้างอีก

ในห้องโถงเหลือเพียงเกาอิ้นกับหลี่มู่สองคน เกาอิ้นเชิญหลี่มู่ดื่มจอกหนึ่ง ยิ้มแล้วบอก “เรือนแห่งนี้จิ้งเฉินเห็นเป็นอย่างไร”

“แดนเซียนบนโลกมนุษย์ก็คือเช่นนี้เอง” หลี่มู่ตอบ

เกาอิ้นแววตาแฝงรอยยิ้ม วางจอกสุราในมือลง ตบมือทีหนึ่ง

หลังสิ้นเสียงตบมือ เพียงเห็นที่ด้านหลังฉากบังลมตรงด้านข้างของห้องโถงมีเด็กสาวสิบกว่าคนเดินออกมาเป็นแถวยาว เกล้ามวยสูงสวมเสื้อผ้าหลากสีสัน อวบอิ่มเหมือนหยางอวี้หวน ผอมบางเหมือนจ้าวเฟยเยี่ยน ไม่มีคนใดไม่ใช่หญิงงามอันดับหนึ่ง เข้าแถวเป็นระเบียบอยู่กลางห้องโถง ขับให้รอบด้านดูสดใสขึ้นไม่น้อย

หญิงงามเอ่ยปากทักทาย เสียงประดุจนกขมิ้นขับขาน เกาอิ้นอมยิ้ม สั่งหญิงงามให้ขับร้องร่ายรำเพิ่มความสนุกสนาน มีหญิงชุดแดงผู้หนึ่งเป่าเซิง หญิงชุดเขียวผู้หนึ่งตีกลอง คนอื่นที่เหลือร่ายรำอย่างคล่องแคล่วตามท่วงทำนองของดนตรี

เพลงเดียวก็หยุด เกาอิ้นสั่งคนให้ล่าถอยออกไปทั้งหมด หันมาหาหลี่มู่ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “เมื่อครู่ที่หญิงงามขับร้องร่ายรำเป็นอย่างไร”

หลี่มู่ยิ้มน้อยๆ “หญิงงามของผู้บัญชาการขับร้องร่ายรำประหนึ่งเสียงดนตรีจากสรวงสวรรค์กับการร่ายรำของเหยาจี

เกาอิ้นยิ้มแล้วบอก “จิ้งเฉิน ถ้าเจ้าเห็นว่าพอใช้ได้ก็โปรดรับเรือนและที่ดินผืนนี้ไว้ อีกทั้งหญิงงามเมื่อครู่ ทั้งหมดนี้จะอยู่ในชื่อของเจ้าทั้งหมด คอยปรนนิบัติซ้ายขวาในวันข้างหน้า เจ้าเห็นเป็นอย่างไร”

หลี่มู่กล่าว “เจตนาดีของผู้บัญชาการหลี่มู่ขอรับด้วยใจ ของขวัญล้ำค่าเช่นนี้หลี่มู่ไม่กล้ารับ ท่านโปรดเก็บคืนไปเถิด”

เกาอิ้นมองจ้องเขา รอยยิ้มบนใบหน้าค่อยๆ เลือนหาย สีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมน่าเกรงขามขึ้นมา

“หลี่มู่ ข้าคิดว่าเจ้าเองก็คงรู้ เพราะเหตุใดวันนี้ข้าจึงนัดเจ้ามาเป็นการส่วนตัว เจ้ามีบุญคุณใหญ่หลวงต่อสกุลเกาของข้า ตอนนั้นท่านลุงก็รับปากเจ้าไว้จริง เพียงแต่สกุลขุนนางกับสามัญชนไม่แต่งงานกัน เจ้าน่าจะรู้แก่ใจดี เพราะเหตุใดกลับยังเรียกร้องอย่างเกินเลยเช่นนี้ อีกทั้งอาเม่ยของข้าก็มีคนที่ชอบอยู่แล้ว นางเล่นด้วยกันกับคุณชายใหญ่สกุลลู่มาตั้งแต่เด็ก ถ้าไม่ใช่เพราะเกิดสงครามขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า คิดว่าป่านนี้นางคงเป็นสะใภ้สกุลลู่ไปนานแล้ว เวลานี้เกาลู่สองบ้านกำลังหารือกันเรื่องการแต่งงานที่กำลังจะเกิดขึ้น เจ้ากลับเสนอข้อเรียกร้องเช่นนี้ขึ้นมา ไยมิใช่เหลวไหลยิ่งหรือ”

เกาอิ้นลุกจากที่นั่ง เอามือไพล่หลัง เดินกลับไปกลับมาช้าๆ ส้นรองเท้าไม้พื้นสูงกระทบพื้นที่เกลี้ยงเกลา เกิดเป็นเสียงก๊อกๆ ดังก้องกังวาน

“จิ้งเฉิง ข้าเคารพบรรพบุรุษของเจ้าที่สละชีพเพื่อบ้านเมือง ได้ยินว่าเจ้าเข้าเป็นทหารในกองทัพตั้งแต่อายุสิบสามจนถึงปัจจุบัน ไม่เพียงสร้างความดีความชอบในการสู้รบ มีอยู่หลายครั้งที่ไม่ยอมทอดทิ้งสหายร่วมรบทั้งที่อยู่ท่ามกลางอันตราย น่ายกย่องเป็นอย่างมาก เจ้าเป็นบุรุษกระดูกเหล็ก เพราะเหตุใดครั้งนี้กลับสร้างความลำบากใจให้สกุลเกาเราเช่นนี้ เจ้าเคยคิดหรือไม่ ถ้าท่านลุงถูกบีบบังคับให้ทำตามคำมั่นในวันนั้น ให้อาเม่ยของข้าแต่งกับเจ้าจริง ไม่เพียงจิ้งเฉินที่จะถูกผู้คนตราหน้าว่าคิดจะอิงแอบผู้มีอำนาจเท่านั้น แล้วทางสกุลเกาเองเล่า เจ้าจะเอาสกุลเกาของข้าไปวางไว้ที่ใด เอาอาเม่ยของข้าไปวางไว้ที่ใด ถูกคนเยาะหยันเหน็บแนมก็แล้วไปเถิด เกรงว่าทั้งชีวิตของนางจะต้องอยู่อย่างคับแค้นใจไม่มีความสุขไปตลอดชีวิต!”

เขาหยุดฝีเท้า หันมาหาหลี่มู่

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

  • จุติรัก พลิกชะตาร้าย

    ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 87-88

    By

    บทที่ 87 ข้อห้าม กู้หมิงเค่อถูกหลี่เจาเกอยั่วโมโหจากไปแล้ว นางอมยิ้มรับช่วงหลักฐาน เอ่ยกับผู้ใต้บัญชาที่ติดตามนางมา “จงขนสิ่งเหล่านี้กลับกอง...

  • จุติรัก พลิกชะตาร้าย

    ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

    By

    บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่าดำออกจากหมู่บ้านมาก็...

  • จุติรัก พลิกชะตาร้าย

    ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 5-6

    By

    บทที่ 5 สังหารภูต   หลี่เจาเกอกลั้นหายใจเพ่งสมาธิ นิ้วมือวางบนด้ามกระบี่ ท่ามกลางหมู่ใบไม้แว่วเสียงความเคลื่อนไหวดังแซกซ่า เงาดำสายหนึ่งพลัน...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทที่ 2.4-2.6

    By

    บทที่ 2-4 สามีภรรยาปลอม   6   บนหอทองล่วงเข้ากลางคืนแล้ว รอบด้านล้วนจุดโคมไฟ เปลวไฟลุกโชติช่วง ในมุมที่ซย่าชิงยวนนั่งอยู่นางสามารถมองเห็นสัน...

  • จุติรัก พลิกชะตาร้าย

    ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

    By

    บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเร้น ภายใต้ผืนนภาราตร...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทที่ 2.1-2.3

    By

    บทที่ 2-1 สามีภรรยาปลอม   1   เมื่อลู่หย่วนเดินมาถึงหน้าประตูก็รู้สึกลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ผลักประตูเปิดออก สิ่งที่ทำให้เขาสติหลุดล...

  • จุติรัก พลิกชะตาร้าย

    ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

    By

    บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญู เบื้องหน้าท้องพระโ...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com