ทดลองอ่าน ธาราวสันต์ บุษบันจันทรา บทที่ 5-บทที่ 6 – หน้า 4 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ธาราวสันต์ บุษบันจันทรา บทที่ 5-บทที่ 6

บทที่หก

 

จวนสกุลเกาอยู่ห่างจากไถเฉิงไม่ไกล เข้าประตูเมืองด้านตะวันตก ข้ามถนนอวี้เจียไปก็อยู่ใกล้กับประตูจูเชวี่ยที่อยู่ทางด้านใต้ของวังหลวง

วันนี้เกาเฉียวกลับมาเร็วกว่าปกติ แต่ที่หน้าประตูก็มีรถและเกี้ยวของแขกผู้มาเยือนจอดอยู่หลายคัน

เกาลั่วเสินรอจนแขกกลับไปหมดแล้วจึงเข้ามาในห้องหนังสือ เห็นบิดาเปลี่ยนมาสวมเสื้อคลุมยาวสีเขียวอมดำ ผ้าโพกศีรษะทำมาจากผ้าไหมสีเขียวอมดำ นั่งอยู่หลังโต๊ะ กำลังก้มหน้าถือพู่กัน ไอสองสามครั้งเป็นระยะ

บิดาได้ชื่อว่าเป็นบุรุษรูปงาม ตอนหนุ่มมีใบหน้างามดุจหยก คิ้วดาบนัยน์ตาหงส์ เมื่ออายุมากขึ้นมาหน่อย ไว้หนวดดำดูสุภาพละมุนละไม ท่วงทีกิริยาสง่างามทำให้คนเห็นแล้วยากจะลืมเลือน

เกาลั่วเสินได้ยินว่าในอดีตมีอยู่ครั้งหนึ่ง บิดาออกไปสังเกตและศึกษาดูสภาพความเป็นอยู่ของราษฎรที่อำเภอหยางชวี ได้ทราบว่าเนื่องจากปีนั้นผลการเก็บเกี่ยวไม่เพียงพอ หญิงชาวนาจำนวนมากในอำเภอจึงใช้ช่วงเวลาว่างจากการเก็บเกี่ยวทอผ้าเนื้อหยาบสำหรับสวมใส่ในช่วงฤดูร้อนแล้วนำออกมาขาย แต่ถูกพ่อค้าผ้าในเมืองเจตนาฉวยโอกาสกดราคา หญิงชาวนาลังเลทำอะไรไม่ถูก ตอนนั้นบิดาจึงซื้อมาพับหนึ่ง หลังจากกลับมาก็นำไปตัดเป็นเสื้อผ้าตัวกว้าง สวมใส่แล้วนั่งบนรถเทียมวัวที่ไม่มีประทุนปิด วางท่าสง่างาม โอ้อวดไปทั่วเมือง คนเดินถนนต่างเห็นว่างดงาม ต่างชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง เหล่าบุรุษไม่ว่าขุนนางหรือสามัญชนพากันเลียนอย่างเขา เพียงไม่กี่วันผ้าเนื้อหยาบที่เดิมไม่มีคนถามถึงก็ไม่มีให้ซื้อหา ราคาพุ่งสูงขึ้น ผ้าเนื้อหยาบของอำเภอหยางชวีก็ขายหมดเกลี้ยงในคราเดียว

อันคำกล่าวที่ว่าบัณฑิตผู้สง่างามไม่ใส่ใจเรื่องปลีกย่อยเล็กน้อย พูดได้ว่ามีปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนอยู่ในตัวของเขา

เพียงแต่สองสามปีมานี้บิดาผ่ายผอมลงไม่น้อย จอนผมก็มีผมขาวขึ้นมาประปรายแล้ว แต่ถึงกระนั้น บุคลิกท่วงทียังคงสูงส่งสง่างามไม่ธรรมดา

เกาลั่วเสินเรียก “อาเหยีย” ออกมาคำหนึ่ง แล้วเดินมาถึงข้างกายเกาเฉียว นั่งคุกเข่าลงไปอย่างเรียบร้อย

นับแต่ปีที่แล้วหลังจากบ้านเมืองเกิดเรื่องวุ่นวาย เกาลั่วเสินก็เห็นบิดาเคร่งเครียดใช้สมองครุ่นคิดอย่างหนัก ยามอยู่ต่อหน้าบิดา นางจึงพยายามวางตัวเป็นผู้ใหญ่

“อาเหยีย มีอะไรให้ลูกช่วยหรือไม่”

เกาเฉียวเป็นราชเลขาธิการ ทั้งดำรงตำแหน่งอัครเสนาบดี ในสถานที่ทำการราชสำนักของไถเฉิงย่อมมีผู้ใต้บังคับบัญชาช่วยจัดการหนังสือราชการ แต่หนึ่งปีมานี้เนื่องจากบ้านเมืองสับสนวุ่นวาย เกิดสงครามขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า การต้องทำงานจนมืดค่ำถึงได้กินอาหารได้กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว เพื่อความสะดวกจึงใช้ห้องหนังสือจวนเป็นสถานที่ทำงาน

ตั้งแต่เล็กเกาลั่วเสินเข้าออกห้องหนังสือของบิดาได้อย่างมีอิสระ ยามมีแขกมาก็จะหลบไป หลังจากคนไปแล้วนางก็จะมาอยู่เป็นเพื่อนบิดาอยู่ที่นี่เสมอ

เกาเฉียวกล่าวยิ้มๆ “วันนี้ที่อาเหยียนี่ไม่มีเรื่องอะไร เจ้าไปพักผ่อนเถิด ไม่ต้องตั้งใจอยู่เป็นเพื่อนอาเหยียแล้ว”

“วันนี้ลูกไปหาอาเหนียงมา”

เกาลั่วเสินกล่าวจบก็ลอบสังเกตสีหน้าบิดา เห็นพู่กันที่เขาถืออยู่ในมือด้ามนั้นชะงักไปเล็กน้อย “เหตุใดไม่พักอยู่สักหลายวัน ไฉนไปแล้วก็กลับเข้าเมืองมาเลย”

“อาเหนียงได้ยินว่าท่านป่วยจึงเร่งให้ลูกกลับมา ยังบอกลูกให้เชื่อฟัง ต้องอยู่เป็นเพื่อนอาเหยียให้ดี”

เกาลั่วเสินพูดเรื่อยเปื่อยด้วยสีหน้าจริงจัง

เกาเฉียวไม่พูดอะไร

“อาเหนียงยังให้จวี๋อาหมัวกลับเข้าเมืองมาพร้อมกับลูกโดยเฉพาะ ก็เพื่อให้มาช่วยดูแลสุขภาพอาเหยีย อาเหยียจะได้หายป่วยในเร็ววัน อาหมัวเมื่อครู่จะมาคารวะอาเหยียด้วย แต่เห็นท่านมีแขกจึงไม่สะดวกจะเข้ามา และไปเคี่ยวยาให้อาเหยียก่อนแล้ว ถ้าอาเหยียไม่เชื่อ รออาหมัวมาแล้วก็ถามนางเองเถิด!”

เกาเฉียวยิ้มน้อยๆ “อาการป่วยของอาเหยียไม่เป็นไรแล้ว ถ้าเจ้าไม่ต้องการให้อาจวี๋อยู่เป็นเพื่อนก็ให้นางกลับไปปรนนิบัติอาเหนียงของเจ้าเถิด”

“อาเหยีย! อาเหนียงให้จวี๋อาหมัวกลับมาดูแลท่านจริงๆ นะเจ้าคะ! อาเหนียงเองก็น่าจะอยากกลับมา อาเหยีย ไว้สักวันท่านก็ไปรับอาเหนียงกลับเข้าเมืองมา…ดีหรือไม่”

เกาลั่วเสินออกจะร้อนใจขึ้นมา สองมือเกาะโต๊ะ หยัดร่างขึ้นมา

เกาเฉียวกระแอมกระไอออกมาคำหนึ่ง

“ได้…ได้…รอให้เรื่องราวในช่วงนี้ผ่านไปแล้วค่อยว่ากัน…”

“อาเหยีย ท่านต้องอย่าลืมนะ! ยิ่งไม่ต้องกลัว! อาเหนียงปากแข็งใจอ่อน ถ้าท่านไม่กล้าไปคนเดียว ลูกจะไปเป็นเพื่อนเอง อาเหนียงไม่กลับมากับท่าน ลูกก็จะร้องไห้ให้นางดู! นางเห็นลูกร้องไห้แล้วก็ใจอ่อนอยู่เสมอ!”

โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ท่วงทีกิริยาแบบเด็กหญิงตัวน้อยที่นางซุกซ่อนไว้เมื่อครู่ก็ปรากฏออกมาต่อหน้าบิดาอีกครั้ง

เกาเฉียวยิ้มเจื่อน

กับบุตรสาวโทนผู้นี้ เขารักและเอ็นดูนางเข้ากระดูกอย่างแท้จริง เพียงหวังให้นางอยู่ดีมีสุข ไร้ทุกข์ไร้กังวลไปตลอดชีวิต

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ห้วงฝันบันดาลรัก บทที่ 13-14

    By

    บทที่ 13 รังเกียจ หน้าประตูตำหนักเยี่ยอวิ๋น หวงหร่างมองไปยังยอดเขาอั้นเหลยเป็นครั้งแรก ที่แท้ยอดเขาสองแห่งอยู่ใกล้กันถึงเพียงนี้ หวงหร่างถึง...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ห้วงฝันบันดาลรัก บทที่ 10-12

    By

    บทที่ 10 เกล็ดย้อน สำนักเซียนอวี้หู หอฉีลู่ เซี่ยจิ่วเอ๋อร์กำลังซักเสื้อผ้า เสื้อผ้าของหวงหร่างมีมากเป็นพิเศษ อีกทั้งแบบเสื้อผ้ายังสลับซับซ้...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ห้วงฝันบันดาลรัก บทที่ 7-9

    By

    บทที่ 7 กิเลส หิมะแรกหลังย่างเข้าฤดูเหมันต์มาเยือนเมืองหลวง หิมะแรกเล็กละเอียด จากนั้นก็ค่อยๆ รุนแรงขึ้น ปกคลุมไปทั่ววังหลวงและกระท่อมฟาง โล...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ห้วงฝันบันดาลรัก บทที่ 4-6

    By

    บทที่ 4 แป้งชาด ตอนตี้อีชิวกลับถึงกองเสวียนอู่ก็เป็นยามอิ๋นแล้ว ถึงอย่างไรท้องฟ้าก็กำลังจะสว่าง เขาจึงมิได้นอนอีก ตัดสินใจไปอ่านเอกสารที่ห้อ...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ห้วงฝันบันดาลรัก บทที่ 1-3

    By

    บทที่ 1 แค้นเก่า หวงหร่างกลายเป็นเผือกร้อนหัวหนึ่ง ผู้เก่งกล้าจากสำนักเซียนหลายคนฝ่าฟันอันตรายลักพาตัวนางออกมาด้วยความยากลำบากเหลือแสน เดิมท...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ลำนำฝูหรงเคียงกระเรียน บทที่ 1.5-1.6

    By

    บทที่ 1.5 นกกระเรียนบาดเจ็บกับดอกฝูหรง ยามนี้ในห้องลงทัณฑ์เงียบสงัดราวกับไร้คนมีชีวิต ความเจ็บปวดแสนสาหัสที่ยากจะทานทนเมื่อครู่เริ่มสงบลงแล้...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ลำนำฝูหรงเคียงกระเรียน บทที่ 1.3-1.4

    By

    บทที่ 1.3 นกกระเรียนบาดเจ็บกับดอกฝูหรง หลังจากหิมะตกในยามค่ำคืน วันถัดมาที่หนานไห่จื่อก็ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลน ผู้ดูแลเอามือป้องตาพลางเปิ...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ลำนำฝูหรงเคียงกระเรียน

ทดลองอ่าน ลำนำฝูหรงเคียงกระเรียน บทนำ-บทที่ 1.2

บทนำ บนโลกนี้มีการเดินทางข้ามกาลเวลาที่สมบูรณ์แบบอยู่หรือไม่ น่าจะมีอยู่ หยางหวั่นก็คือคนโชคดีที่ได้เดินทางข้ามกาลเวลาคร...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 5-6

บทที่ 5 ตามที่บทละครเขียนไว้แขวนโคมแดงคือการเปิดประตูเรือนทำงานเป็นนางคณิกา แม้หูซื่อจะทำเช่นนี้จริงๆ ยามจวนตัว แต่คำพูด...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ห้วงฝันบันดาลรัก บทที่ 1-3

บทที่ 1 แค้นเก่า หวงหร่างกลายเป็นเผือกร้อนหัวหนึ่ง ผู้เก่งกล้าจากสำนักเซียนหลายคนฝ่าฟันอันตรายลักพาตัวนางออกมาด้วยความยา...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 7-8

บทที่ 7 หูซื่อหลังส่งจางมามาไปแล้วก็มีท่าทางเซื่องซึม แต่ตอนที่หันกลับมาเห็นบุตรสาวก็ฝืนทำเป็นยิ้มร่าเริง กระตุ้นให้ตนเอ...

community.jamsai.com