ทดลองอ่าน ธาราวสันต์ บุษบันจันทรา บทที่ 5-บทที่ 6 – หน้า 3 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ธาราวสันต์ บุษบันจันทรา บทที่ 5-บทที่ 6

ครั้นเรือมาถึงเกาะไป๋ลู่ เกาลั่วเสินก็นั่งเกี้ยวมาถึงเรือนรับรอง แต่มารดากลับไม่อยู่

บ่าวไพร่บอกว่ามารดาของนางไปอารามจื่ออวิ๋นที่อยู่ละแวกใกล้เคียง

ในเวลานี้ศาสนาเต๋าเป็นที่นิยมโดยทั่วไป คำสอนของเทียนซือ แพร่หลายในหมู่ชาวบ้าน กระทั่งคนในวงศ์สกุลขุนนางและราชวงศ์ก็ไม่ขาดผู้เลื่อมใสศรัทธา

อย่างเช่นสกุลลู่ พี่น้องของลู่เจี่ยนจือทุกคน ที่มีชื่อลงท้ายด้วยคำว่า ‘จือ’ ก็เพราะลู่กวงบิดาของลู่เจี่ยนจือเลื่อมใสศรัทธาในศาสนาเต๋า

อารามจื่ออวิ๋นเป็นอารามนักพรตสตรีของราชวงศ์ที่มีพระราชโองการให้สร้างขึ้น เหลี่ยวเฉินจื่อเจ้าอารามอายุห้าสิบกว่าปีแล้ว กล่าวกันว่ามีความเชี่ยวชาญในการหลอมยา รูปร่างหน้าตาดูเหมือนเพิ่งอายุสี่สิบกว่า นางเดินหมากแต่งบทกวีได้ มารดาที่พักอาศัยอยู่บนเกาะนาน มักมาที่อารามคอยเดินหมากสนทนาธรรมกับเหลี่ยวเฉินจื่ออยู่เสมอ

เกาลั่วเสินจำต้องเปลี่ยนทิศทางไปอารามจื่ออวิ๋นแทน

หนทางไม่ไกล แค่ครู่เดียวก็ถึงแล้ว

เซียวหย่งจยากำลังเดินหมากอยู่กับเหลี่ยวเฉินจื่อ เมื่อได้ยินว่าบุตรสาวมาแล้วก็รีบลุกออกมา

เหลี่ยวเฉินจื่อเดินตามมาข้างๆ พอเห็นเกาลั่วเสินก็สะบัดแส้ปัดในมือ พนมมือคารวะด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เปี่ยมไมตรีจิต

ไม่รู้เพราะเหตุใด เกาลั่วเสินไม่ชอบนักพรตหญิงสูงวัยหน้าขาวผู้นี้แม้แต่น้อย

ถึงอย่างไรใต้หล้านี้ แม้แต่พบฮ่องเต้ผู้เป็นน้าชาย นางก็ยังไม่ต้องแสดงความเคารพเลย ย่อมไม่มีความจำเป็นที่นางต้องไปใส่ใจคนที่ตนไม่ชอบหน้า

เกาลั่วเสินไม่ได้สนใจนักพรตหญิงสูงวัย เพียงโถมตัวเข้าไปในอ้อมกอดเซียวหย่งจยา “อาเหนียง สองวันก่อนลูกหกล้ม!”

เซียวหย่งจยาอายุน้อยกว่าเกาเฉียวบิดาของเกาลั่วเสินห้าปี นางให้กำเนิดเกาลั่วเสินตอนอายุยี่สิบ ปีนี้อายุสามสิบหกแล้ว แต่ดูแล้วก็ยังสาวอยู่มาก

นางสวมชุดคลุมแบบเต๋าที่สุภาพสง่างาม ยิ่งขับเน้นรูปโฉมของนางให้ดูงดงามเป็นพิเศษ ยืนอยู่ด้วยกันกับเกาลั่วเสิน บอกว่านางเป็นพี่สาวที่โตกว่าสักหน่อย เกรงว่าก็คงมีคนเชื่อ

โดยเฉพาะเมื่อเปรียบกับบิดาที่เพิ่งอายุสี่สิบจอนผมสองข้างก็มีสีขาวแซมแล้ว ความสาวและความงามของมารดามักทำให้เกาลั่วเสินนึกเห็นใจบิดาขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว…แม้นางเองก็ไม่รู้ว่าที่แท้แล้วเป็นเพราะเหตุใด มารดาจึงร้าวฉานกับบิดาจนถึงขั้นนี้ได้ แยกกันอยู่อย่างเปิดเผยมาหลายปี ไม่ยอมกลับเข้าเมืองทำให้คนทั้งเมืองเจี้ยนคังต่างหัวเราะเยาะบิดาลับหลัง บอก ‘เซี่ยงกง กลัวภรรยา’

นี่คงเป็นเรื่องเดียวในชีวิตของบิดาที่ถูกคนนินทาหัวเราะเยาะลับหลัง

กับสามีเซียวหย่งจยาไม่ถามไม่ไถ่ถึง แต่กับบุตรสาวกลับรักใคร่เป็นที่สุด พอได้ยินเช่นนี้ก็ตื่นตะลึง รีบกอดเกาลั่วเสินแน่น “ไม่เป็นไรมากกระมัง เจ็บตรงใดบ้าง เหตุใดไม่ส่งคนมาบอกอาเหนียง”

เกาลั่วเสินบอก “ลูกล้มแรงมาก วันนี้ก็ยังปวดศีรษะไม่น้อย ก็เพราะกลัวอาเหนียงจะเป็นห่วง ถึงไม่ให้คนมาบอกให้ท่านรู้”

เซียวหย่งจยารีบประคองเกาลั่วเสินออกจากอารามเต๋า สองแม่ลูกนั่งเกี้ยวกลับเรือนรับรองด้วยกัน เรียกเกาชีมาสอบถามเหตุการณ์ในตอนนั้นอย่างละเอียด รู้ว่าเกาลั่วเสินไม่เป็นอะไรมากจึงได้วางใจ เพียงดุด่าฉยงซู่กับอิงเถาสาวใช้ประจำตัวบุตรสาวอย่างหนักคราหนึ่ง

สาวใช้ทั้งสองคุกเข่าอยู่กับพื้น โขกศีรษะยอมรับผิดไม่หยุด

ชั่วขณะนั้นเกาลั่วเสินคิดไม่ถึงว่ามารดาจะพานโกรธสาวใช้จึงรีบเข้ามาขัดจังหวะ สองมือน้อยที่อวบอูมดึงแขนเสื้อชุดคลุมแบบเต๋าที่กว้างใหญ่ไว้ บิดร่างไปมา “คราวหน้าลูกจะระมัดระวัง อาเหนียง ลูกคิดถึงท่านนะเจ้าคะ”

เช่นนี้เซียวหย่งจยาถึงได้ยอมเลิกรา ไล่ฉยงซู่กับอิงเถาที่ใบหน้าซีดเผือดออกไป ก่อนลูบไล้ใบหน้าบุตรสาวที่ถูกลมแม่น้ำพัดจนออกจะชื้นเย็นด้วยความรัก “อาเหนียงก็คิดถึงเจ้า กำลังคิดจะให้คนไปรับเจ้ามาอยู่เชียว แต่เจ้าก็มาพอดี อยู่เป็นเพื่อนอาเหนียงสักหลายวันไม่ต้องกลับไปในเมืองแล้ว”

“อาเหนียง ลูกก็อยากอยู่เป็นเพื่อนท่านที่นี่ แต่เกรงจะไม่สะดวก หลายวันมานี้อาเหยีย ไม่ค่อยสบาย…”

นางชำเลืองมองสีหน้ามารดา

“ทุกหนแห่งล้วนไม่สงบสุข เขาทำงานหามรุ่งหามค่ำ นอนอยู่ในห้องหนังสือบ่อยๆ ลูกกลัวว่าเป็นเช่นนี้ต่อไปร่างกายของอาเหยียจะทนไม่ไหว ลูกเตือนอาเหยียแล้ว แต่อาเหยียไม่ฟังลูก…”

รอยยิ้มบนใบหน้าเซียวหย่งจยาค่อยๆ จางหาย ชายตามองบุตรสาวปราดหนึ่ง “เจ้าคิดจะหลอกล่ออาเหนียงให้กลับไปอีกแล้ว ตาแก่นั่นไม่คำนึงถึงความเป็นความตายแล้วเกี่ยวอะไรกับอาเหนียง อาเหนียงกลับไปแล้วเขาก็จะหายอย่างนั้นรึ!”

“อาเหยียไม่ใช่ตาแก่เสียหน่อย…”

เกาลั่วเสินมุ่ยปาก พึมพำเบาๆ อย่างไม่ชอบใจ

เซียวหย่งจยาแค่นเสียงฮึออกมาคำหนึ่ง “อย่าคิดว่าอาเหนียงไม่รู้ จิตใจคับแคบของเจ้าช่างลำเอียงยิ่งนัก! ถ้าเจ้ามาเยี่ยมอาเหนียง อาเหนียงดีใจยิ่ง แต่ถ้าจะมาเกลี้ยกล่อมให้อาเหนียงกลับไปก็อย่าได้คิด! ต่อให้เขาป่วยตายก็ไม่เกี่ยวอะไรกับอาเหนียง!”

นิ้วมือขาวนุ่มนิ่มของเกาลั่วเสินบิดสายรัดเอวที่ห้อยลงมาเส้นหนึ่งไม่หยุด ฟันขาวดุจไข่มุกกัดกลีบปากแน่น มองเซียวหย่งจยาโดยไม่พูดแม้แต่คำเดียว ขอบตาค่อยๆ แดงเรื่อขึ้น

อาจวี๋เห็นแล้วอดปวดใจไม่ได้ รีบเดินเข้ามา

“องค์หญิงใหญ่ เซี่ยงกงป่วยอยู่ ทั้งระยะนี้การงานก็มาก เกรงว่าคงจะดูแลแม่นางน้อยได้ไม่ทั่วถึง ไม่สู้ให้ข้ากลับไปดูแลปรนนิบัติแม่นางน้อยสักหลายวัน องค์หญิงใหญ่เห็นเป็นอย่างไรเจ้าคะ”

อาจวี๋เป็นอาหมัวข้างกายเซียวหย่งจยา ตอนเกาลั่วเสินยังเล็กก็ได้นางช่วยดูแลไม่น้อย

ได้ยินนางพูดเช่นนี้ น้ำตาแห่งความน้อยใจของเกาลั่วเสินก็ไหลพรากลงมา

อาจวี๋ยิ่งปวดใจอย่างมาก นางเช็ดน้ำตาให้เกาลั่วเสิน

เกาลั่วเสินจึงซุกหน้าเข้าไปในอ้อมอกของอาจวี๋เสียเลย

เซียวหย่งจยามองเงาด้านหลังบุตรสาวแวบหนึ่ง สีหน้าผ่อนคลายลง “ก็ดี อาจวี๋ เจ้ากลับไปกับนางเถิด ช่วยดูแลนางแทนข้าสักหลายๆ วัน”

อาจวี๋รีบรับคำ กระซิบปลอบโยนเกาลั่วเสิน

 

ตอนเกาลั่วเสินออกจากเกาะไป๋ลู่ ขอบตายังแดงอยู่เล็กน้อย กระทั่งพลบค่ำกลับมาถึงในเมือง ถึงได้ดูเป็นปกติดังเดิม ตอนใกล้จะถึงหน้าจวนนางก็นึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้

“อาหมัว เจออาเหยียของข้าแล้วเจ้าก็บอกว่าอาเหนียงรู้ว่าเขาป่วย จึงให้เจ้ากลับมาดูแลเขาแทนนางโดยเฉพาะ”

อาจวี๋พยักหน้า “แม่นางน้อยไม่บอก ข้าก็คิดจะทำเช่นนั้นอยู่แล้ว”

เกาลั่วเสินมองอาจวี๋ “อาหมัว ข้าได้ยินว่าเมื่อก่อนเป็นอาเหนียงจะแต่งให้อาเหยียเอง แต่มาบัดนี้อาเหนียงกลับใจดำไม่สนใจอาเหยีย เจ้ารู้หรือไม่ว่าเป็นเพราะเหตุใด”

อาจวี๋กลัวเกาลั่วเสินจะถามเรื่องนี้มากที่สุด ได้แต่ตอบอย่างคลุมเครือ “ข้าก็ไม่ทราบ…”

เกาลั่วเสินทอดถอนใจออกมาครั้งหนึ่ง “อาหมัว ถ้าอาเหนียงยอมคืนดีกับอาเหยียจะดีสักเพียงใด…”

อาจวี๋ปากก็เออออ ทว่าในใจกลับแอบทอดถอนใจ

เรื่องของสามีภรรยาพอปิดประตูลง ใครได้รับความไม่เป็นธรรม ใครใจแข็งเป็นหิน คนภายนอกเพียงเห็นภาพภายนอก ไหนเลยจะรู้เรื่องภายใน

ก็เหมือนกับคนดื่มน้ำ…เย็นร้อนก็มีแต่เจ้าตัวที่รู้

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 1

บทที่ 1 สายฝน+ไหวพริบ ต้นฤดูใบไม้ผลิเมืองเซิ่งจิงมีฝนตกชุก ราวกับผ้าไหมผืนบางที่ปกคลุมผืนฟ้า ทำให้ลานที่รกร้างเงียบเหงาข...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 2

บทที่ 2 ความสงสัย+คลื่นใต้น้ำ เจ้าเมืองหลี่ตามซูโม่อี้ออกไปแล้ว หลินหวั่นชิงเห็นเงาของเขาวิ่งอยู่ไกลๆ รู้สึกว่าชุดทางการ...

ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง

ทดลองอ่าน ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง บทที่ 124

บทที่หนึ่งร้อยยี่สิบสี่ เพราะเป็นภาคเรียนสุดท้ายนักเรียนปีสี่จะจบการศึกษาในฤดูร้อนของปีนี้ การเรียนการสอนในห้องเรียนแทบจ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปี บทที่ 27-1

บทที่ 27-1 หวงปอรับใช้อยู่ข้างกายฮ่องเต้มานาน แม้จะเทียบไม่ได้กับพวกไป๋ตันหย่งที่ยืนอยู่ข้างกายซ้ายขวาของฮ่องเต้มาตั้งแต...

community.jamsai.com