ทดลองอ่าน ธาราวสันต์ บุษบันจันทรา บทที่ 5-บทที่ 6 – หน้า 6 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ธาราวสันต์ บุษบันจันทรา บทที่ 5-บทที่ 6

จดหมายเป็นลายมือของสวี่ซือถู พี่ชายคนโตของสวี่ฮองเฮาในฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน

ในจดหมายของสวี่มี่บอก นับแต่ปีที่แล้วที่ตนนำทัพไปปราบกบฏเพื่อราชสำนัก พยายามสุดความสามารถด้วยความซื่อสัตย์จงรักภักดี โชคดีที่ไม่ได้ทำให้ผิดหวัง กองกำลังกบฏของหลินชวนหวังเวลานี้พ่ายแพ้ล่าถอยไปตลอด ถอยไปจนถึงหลูหลิง การปราบปรามให้สงบราบคาบกำลังจะเป็นจริงในไม่ช้า

ในขณะที่สถานการณ์กำลังดีขึ้นมากนี่เองก็มีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น

ก่อนจะส่งจดหมายมาวันหนึ่ง ทหารกบฏแอบรวมตัวกันลับๆ ยกกองกำลังบุกเข้ามา จู่โจมเขตอันเฉิงที่ถูกกองกำลังของราชสำนักยึดคืนกลับมาได้แล้ว

ตอนนั้นเกาหวนอยู่ในเมืองพอดี เพราะทหารรักษาเมืองมีจำนวนไม่เพียงพอ ทั้งเรื่องเกิดขึ้นมาอย่างกะทันหันจึงเข้าหนุนเนื่องช่วยเหลือไม่ทัน ไม่อาจรักษากำแพงเมืองไว้ได้

ตอนตีฝ่าวงล้อมออกมา เกาหวนโชคไม่ดีถูกทหารกบฏจับตัวเป็นเชลย

หลินชวนหวังรู้ว่าเขาเป็นลูกหลานสกุลเกา และใช้เรื่องนี้มาข่มขู่ขอแลกกับเมืองอวี้จาง ถ้าไม่ตกลงก็จะสังหารเขาเซ่นสังเวยก่อนออกรบ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กองทัพ

ในจดหมายสวี่มี่ได้หลั่งน้ำตายอมรับผิดและขออภัยต่อเกาเฉียว บอกตนผิดต่อคำฝากฝังของเกาเฉียวในช่วงก่อนหน้านี้ ความจริงถ้าสามารถช่วยเกาหวนกลับมาได้ ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยสิ่งใดตนก็ไม่เสียดาย เพียงแต่เรื่องนี้เกี่ยวพันกับสถานการณ์โดยรวม ตนไม่กล้าตัดสินใจโดยพลการจึงส่งจดหมายด่วนมาขอให้เกาเฉียวช่วยตัดสินใจ

เกาลั่วเสินตื่นตะลึงแน่นิ่ง จดหมายร่วงหลุดจากมือหล่นลงกับพื้น

เกาหวนอายุน้อยกว่าเกาลั่วเสินหนึ่งปี เป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของท่านอาสามที่ล่วงลับไปแล้วของเกาลั่วเสิน เกาเฉียวคอยช่วยอบรมสั่งสอนโดยเห็นหลานชายผู้นี้เป็นดั่งบุตรของตน เขากับเกาลั่วเสินเติบโตมาด้วยกัน ทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอย่างมาก

บุตรหลานตระกูลขุนนางรุ่นหนุ่มสาวในเมืองเจี้ยนคังส่วนใหญ่ทาแป้งทาชาด มือเท้าไม่ขยันขันแข็ง มีไม่น้อยกระทั่งขี่ม้าก็ยังกลัว ยิ่งมีน้อยมากที่สมัครใจไปเป็นทหาร

เกาหวนกลับไม่เหมือนผู้อื่น เขาฝึกฝนศิลปะการต่อสู้แต่เล็ก ฝันจะสร้างผลงานด้วยการสร้างความดีความชอบทางการทหาร ปีที่แล้วข่าวการศึกทางเหนือส่งมา ตอนเกาอวิ่นท่านอาของเกาลั่วเสินพาเกาอิ้นญาติผู้พี่ชายของนางไปก่วงหลิงเพื่อรวบรวมทหารเตรียมทำศึก เกาหวนก็ขอจะไปด้วย เกาเฉียวอ้างเหตุผลว่าเขาอายุยังน้อย ไม่อนุญาตให้เขาข้ามแม่น้ำ ตอนนั้นใช้อำนาจบีบบังคับรั้งเขาเอาไว้

คิดไม่ถึงว่าหลังจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์หลินชวนหวังก่อกบฏขึ้นมาอีก เขาทิ้งจดหมายที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นฮึกเหิมไว้ก่อนออกเดินทาง ถึงกับไปโดยไม่ลา เขาลงใต้ไปพึ่งพาสวี่มี่ ขอเข้าร่วมกองทัพปราบกบฏ

ตอนนั้นสวี่มี่ส่งจดหมายมาแจ้งเกาเฉียว บอกตนไม่ต้องการรับเกาหวนไว้ แต่เกาหวนยืนกรานไม่กลับเมืองเจี้ยนคัง

เกาเฉียวไม่รู้จะทำอย่างไรได้ ตอนนั้นจำต้องไหว้วานสวี่มี่ให้ช่วยดูแลเขาสักหน่อย สวี่มี่ก็รับปาก ส่งเขาไปอยู่กองหลังคอยควบคุมขนส่งเสบียงกรัง

ไม่ว่าอย่างไรก็นึกไม่ถึงว่าวันนี้จะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น

เกาลั่วเสินมองบิดา เห็นเขาหัวคิ้วขมวดมุ่นยืนอยู่ที่นั่น เงาร่างดูหนักอึ้ง

หนึ่งปีมานี้เนื่องจากนางได้มาช่วยบิดาจัดการหนังสือราชการในห้องหนังสืออยู่เสมอ นางจึงพอจะรู้ถึงสถานการณ์การศึกที่หลินชวนอยู่บ้าง

หลินชวนหวังวางแผนมาหลายปี พอเริ่มก่อกบฏก็เข้าโจมตียึดครองเมืองอวี้จางด้วยความรวดเร็วปานฟ้าผ่าอุดหูไม่ทัน

เมืองอวี้จางไม่เพียงมีความสำคัญด้านภูมิศาสตร์ แต่ยังเป็นที่ที่แม่น้ำกั้นและแม่น้ำซวีมาบรรจบกัน จึงเป็นจุดยุทธศาสตร์เฝ้าระวังทางเหนือ ทั้งมีทะเลสาบผ่อหยางที่เป็นแหล่งของปลาและข้าว ประหนึ่งคลังอาหารธรรมชาติแห่งหนึ่ง

เป็นเพราะยึดครองเมืองอวี้จางได้ทำให้ทัพกบฏได้เปรียบ การปราบกบฏในช่วงแรกของราชสำนักจึงไม่ราบรื่นหลายต่อหลายครั้ง หลังการสู้รบดุเดือดครั้งแล้วครั้งเล่า นายทหารและเหล่าทหารหาญก็ได้รับบาดเจ็บล้มตายหนัก ในที่สุดเมื่อไม่กี่เดือนก่อนถึงช่วงชิงเมืองอวี้จางกลับมาจากทัพกบฏได้

“อาเหยีย ท่านต้องช่วยอาตี้นะเจ้าคะ!”

นางพุ่งเข้าไปจับชายแขนเสื้อบิดาไว้แน่น เอ่ยวิงวอนเสียงสั่น

ท่านลุงท่านอาในตระกูลได้ยินข่าวก็พากันเร่งรุดมา

ค่ำคืนนี้แสงไฟในห้องหนังสือของบิดาไม่ได้ดับลงตลอดทั้งคืน

เสียงถกเถียงกันอย่างดุเดือดดังแว่วมาจากข้างในอยู่ตลอดเวลา

เกาลั่วเสินไม่ได้นอนทั้งคืน

ตอนยามโฉ่ว ท้องฟ้ายังมืดอยู่ นางก็มาที่หน้าห้องหนังสือของบิดา

ท่านลุงท่านอาทั้งหลายจากไปหมดแล้ว ในห้องหนังสือว่างเปล่าโหรงเหรงมีเพียงแสงไฟดวงเดียวกับเงาร่างผอมบางของบิดา

เขายืนอยู่ด้านหน้าหน้าต่าง เงาด้านหลังนิ่งไม่ขยับ ดูหนักอึ้งอย่างที่สุด กระทั่งเกาลั่วเสินเข้ามาใกล้เขาก็ยังไม่รู้สึกตัวแม้แต่น้อย

“อาเหยีย…”

เกาลั่วเสินเรียกเขาเสียงสั่น

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 84.1-84.2

    By

    บทที่ 84.1 ชายาเป่ยเจิ้นอ๋องมองชุดรัดเอวแขนหลวมทำจากผ้าพลิ้วกรุยกรายลายปักซูซิ่ว บนร่างองค์หญิงอวี๋หยางอีกครา ดูคล้ายกับแบบที่ซูลั่วอวิ๋นสวม...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 83.1-83.2

    By

    บทที่ 83.1 หานเหยาได้ยินน้องชายพูดขึ้นมา นางก็เอ่ยอย่างลิงโลด “ดี! พี่สะใภ้ ท่านไม่ต้องกลับไปที่หมู่บ้านเฟิ่งเหว่ยแล้ว ที่นั่นวุ่นวายเหลือเก...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 82.1-82.2

    By

    บทที่ 82.1 ที่แท้จ้าวกุยเป่ยคิดว่าให้สัญญากับหานเหยาไว้ว่าจะมารับลูกอมก็จำเป็นต้องรักษาคำพูดหรือไร หานหลินเฟิงคร้านจะแยแสบุรุษหัวทึบผู้นี้ เ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 5-6

    By

    บทที่ 5 ราตรีวุ่น แววตาเสิ่นเฉียนมืดทะมึน กัดริมฝีปาก ปลายคางเกร็งแน่นเผยความแข็งกร้าวอยู่ในที “ที่แท้ถูกเด็ดปีกหมดสิ้นแล้วเนรเทศมาให้ข้านี่...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 81.1-81.2

    By

    บทที่ 81.1 ฉิวเจิ้นเพ่งตามองดูแล้วก็พบว่าไม่เพียงกำแพงของค่ายเสบียงมีการต่อเติมให้สูงขึ้น ยังขุดคูลึกรอบตัวกำแพงทั้งด้านนอกด้านในเพิ่มอีกสอง...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 3-4

    By

    บทที่ 3 หงหลวนแต่งงาน ลมราตรีพัดกรู แสงจันทร์สาดส่อง ภายในหอตั้นเสวี่ยของจวนสกุลเซี่ยเวลานี้ เซี่ยจิ่นสองมือไพล่หลัง ฟังน้องชายตัวน้อยเซี่ยซ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 1-2

    By

    บทที่ 1 ลมตะวันตกพัดมา สุริยันจมลับประจิม แสงสายัณห์สาดส่องขอบฟ้า เสิ่นเฉียนเปลี่ยนม้าไปตัวหนึ่งแล้วในจุดพักม้า เช่นนี้จึงเร่งมาถึงนอกเมืองห...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com