ทดลองอ่าน นวลหยกงาม บทที่ 10 – หน้า 9 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน นวลหยกงาม บทที่ 10

“ตกลง พวกเราไปจากที่นี่กัน ในเมื่อพวกบ้านช่องไร่นาเคลื่อนย้ายไปไหนไม่ได้ และถ้าถูกคนจับได้ก็จะหนีไม่สำเร็จ ฉะนั้นพวกเราต้องขายของชิ้นเล็กๆ แลกเป็นเงินเตรียมเป็นค่าเดินทาง จะได้เข้าสู่เมืองหลวง…” พอพูดถึงคำว่า ‘เมืองหลวง’ ออกมา หลูซื่อก็พลันชะงักไปเล็กน้อยคล้ายลังเลใจ ก่อนกล่าวต่อ “เสาะหาหมู่บ้านใกล้ๆ เมืองหลวงเป็นที่พำนักก่อน จากนั้นค่อยไปหาพวกพี่ใหญ่ของเจ้า” นางพูดจบแล้วดูเหมือนกลัวว่าอี๋อวี้ไม่เข้าใจ ยังเอ่ยต่อท้าย “พี่ใหญ่ใกล้สอบเต็มที พวกเราอย่าไปรบกวนสมาธิของเขา หลังสอบเสร็จ เขายังต้องรั้งอยู่ในเมืองหลวงระยะหนึ่ง ถึงตอนนั้นพวกเราค่อยไปหาพวกเขาดีหรือไม่”

“ดีเจ้าค่ะ” พวกนางไม่ได้หยุดใคร่ครวญสักนิดว่าสมควรทำเช่นใด หากว่าหลูจื้อไม่ผ่านการสอบชุนเหวยแล้วเดินทางกลับบ้านล่วงหน้า กระนั้นโชคดีที่หลูจื้อเป็นคนเอาถ่าน และมีผู้มีสายตาแหลมคมเห็นความสามารถของเขาจริงๆ

หลังจากสองแม่ลูกวางแผนเรียบร้อยแล้ว หลูซื่อก็รู้สึกเบาสบายไปทั้งตัว ความอึดอัดตรงกลางอกคลายลงไปกว่าครึ่ง นางเริ่มคำนวณเงินทองในเรือนกับอี๋อวี้

พวกนางนึกแค่ว่าพรุ่งนี้จะตื่นแต่เช้าตรู่ไปขายทรัพย์สินแลกเป็นเงินที่โรงรับจำนำสักแห่งในตำบล เมื่อเตรียมตัวพร้อมแล้วก็จะออกเดินทางในวันมะรืน หาได้รู้ไม่ว่ามีเงาดำสายหนึ่งนั่งยองๆ อยู่ใต้หน้าต่างนอกเรือนได้ยินบทสนทนาของพวกนางไปเจ็ดส่วน

 

ชะรอยว่าเรื่องที่อยู่ในใจคลี่คลายลง แม้สองแม่ลูกนอนหลับไม่สนิททั้งคืน ยามรุ่งสางตื่นขึ้นมา จิตใจกลับปลอดโปร่งสดใส ฉวยจังหวะที่แสงแรกเพิ่งจับขอบฟ้าทิศบูรพา คนทั้งหมู่บ้านยังไม่ตื่นนอน พวกนางไม่กินอาหารมื้อเช้า เพียงนำเสบียงกับน้ำสะอาดติดตัวขี่เกวียนเทียมวัวออกจากหมู่บ้านไปเงียบๆ

จนกระทั่งเที่ยงวันสะสางธุระเสร็จถึงได้กลับเรือนมา ระหว่างทางเข้าหมู่บ้านยังหนีไม่พ้นต้องถูกคนชี้หน้าซุบซิบนินทา แต่พวกนางกำลังจะจากไป ทำให้ไม่ใคร่ใส่ใจสายตาของผู้อื่น พอกลับถึงเรือนสกุลหลูแล้วลงกลอนอย่างมิดชิดแน่นหนา อี๋อวี้ไปจุดเตาต้มน้ำ ด้านหลูซื่อเริ่มจัดเก็บสัมภาระ

“เสี่ยวอวี้เอาชุดฤดูหนาวไปให้หมดดีหรือไม่ ส่วนผ้าห่มติดตัวไปสองผืน แล้วก็…” อี๋อวี้ต้มน้ำอยู่ เห็นหลูซื่อแหวกม่านกั้นประตูห้องครัวสาวเท้าเข้ามา ใต้ตานางหมองคล้ำเล็กน้อย แต่สีหน้าไม่ขาวซีดดุจเดียวกับเมื่อวานอีก

“ท่านแม่จัดการไปตามที่เห็นชอบได้เลยเจ้าค่ะ พวกเราไม่ได้เดินเท้าไป ขอแค่เกวียนลากไหว ท่านแม่ก็เอาไปเถอะ”

หลูซื่อตบหน้าผากตนเองเบาๆ ทีหนึ่งแล้วพูด “ดูแม่สิ เลอะเลือนใหญ่แล้ว” ว่าแล้วก็หมุนกายออกไป

พวกนางกินอาหารมื้อเที่ยงแล้วเริ่มตระเตรียมเสบียงอาหารระหว่างทาง หลูซื่อเอาผูกงอิงที่ปลูกในเรือนมากกว่าครึ่งหนึ่งผสมกับแป้ง ทำเป็นแป้งย่างแผ่นใหญ่เท่าฝาหม้อรสชาติแสนอร่อยทีเดียวแปดแผ่น จากนั้นเอาน้ำที่ต้มเดือดแล้วทิ้งไว้ให้เย็นกรอกใส่กระบอกไม้ไผ่จนเต็มห้ากระบอก และห่อเก็บไว้ในถุงสัมภาระทั้งหมด

ถึงพลบค่ำจึงเตรียมการพร้อมสรรพ เพียงรอหลังเที่ยงคืน พวกนางก็จะแอบจากไปเงียบๆ หลูซื่อกลัวอี๋อวี้เดินทางกลางคืนจะง่วงนอน บอกให้นางไปงีบหลับบนเตียงครู่หนึ่ง ขณะที่ตนเองมองดูสีท้องฟ้าทางนอกหน้าต่าง เฝ้ารอม่านรัตติกาลคลี่คลุมลงมา

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com