“ท่านพ่อมอบให้” หลูจวิ้นก้มหน้าก้มตาเหลาแท่งไม้อยู่อย่างตั้งใจหลุดปากตอบนางว่าอย่างนี้ ทว่าสิ้นเสียงเขาไม่ทันไร ก็ถูกหลูจื้อถลึงตาใส่อย่างดุดัน ดวงตาคู่นั้นคมปลาบเสียยิ่งกว่ามีดที่งามวิจิตรเล่มนั้นถึงสองส่วน
หลูจวิ้นรับรู้ถึงกระไอเย็นเยียบที่พุ่งมาหาตนเองระลอกหนึ่งทันควัน เขาเงยหน้าขึ้นเห็นแววตาขมึงทึงของพี่ชาย ถึงรู้ตัวว่าเพิ่งพูดอะไรออกไป ดวงหน้าของเขาเผือดลงกะทันหัน ลุกลนหันไปมองในเรือน จวบจนมั่นใจว่าหลูซื่อยังล้างผลซานจาอยู่ในห้องครัวก็ถอนหายใจโล่งอก แต่พอเหลียวกลับมามองสบดวงตาสุกใสแวววาวของน้องสาว เขาพูดตะกุกตะกักอย่างห้ามไม่อยู่
“เอ่อ คือ…คือว่า…นี่เป็นของที่บิดาของคนอื่นให้มา ใช่…นี่เป็นของที่บิดาของคนอื่นให้มา”
ความจริงได้พิสูจน์แล้วว่าสมองกับพละกำลังของหลูจวิ้นเป็นสัดส่วนผกผันกัน เขาเป็นเด็กที่โกหกไม่เป็นเลย อี๋อวี้อยากแสร้งทำท่าเชื่อคำพูดของเขายังต้องอาศัยฝีมือขั้นล้ำลึกจริงๆ ในยุคที่ครอบครัวสามัญชนไม่มีปัญญาซื้อกระทั่งมีดหั่นผักสักเล่ม บิดาใครกันจะมอบมีดสลักลายประณีตแบบนี้ให้บุตรชายคนอื่น หากบิดาผู้นั้นมิใช่มีเงินทองล้นเหลือก็ต้องถูกประตูหนีบหัวไปแล้ว
อี๋อวี้ลังเลใจครู่หนึ่ง สุดท้ายยังคงละเว้นพี่รองผู้น่าสงสารของตน ทั้งที่แท้จริงแล้วนางอยากรู้ใจจะขาด แต่ถ้าจะแสดงความอยากรู้อยากเห็นออกมา มีข้อแม้ว่าต้องต้านทานดวงตาประหนึ่งใบมีดโกนที่เย็นชาถึงขีดสุดของพี่ใหญ่ซึ่งอยู่ตรงหน้า แม้มันจะจับอยู่ที่หลูจวิ้น แต่นางอาจต้องพลอยฟ้าพลอยฝนไปด้วยอย่างหลีกหนีไม่พ้น
“น้องรอง อย่าพูดอะไรแปลกๆ กับน้องเล็กอีกรู้หรือไม่” หลูจื้อหยุดคุกคามจิตใจของน้องชาย อ้าปากพูดเสียงเรียบ
“รู้แล้วๆ” หลูจวิ้นดุจได้รับอภัยโทษ เร่งรีบพยักหน้า
อี๋อวี้ลอบนึกเสียดายอยู่บ้างที่ยังสืบเรื่องของบิดาที่ตายไปแล้วของนางไม่ได้สักนิด ในครอบครัวนี้ บิดาบังเกิดเกล้าที่ตายไปแล้วของพวกนางสามพี่น้องคนนั้นคล้ายเป็นข้อต้องห้ามบางอย่าง ตามหลักแล้วหลูซื่อในฐานะมารดาสมควรเล่าเรื่องในอดีตตอนบิดายังมีชีวิตอยู่ให้ฟังจึงจะถูก ทว่าแต่ไรมาหลูซื่อไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องของอดีตสามีมาก่อน บางครั้งนางลองเลียบเคียงถามหลูจวิ้นที่ไร้เล่ห์เหลี่ยมล้วนลงเอยด้วยการที่อีกฝ่ายปิดปากแน่นสนิท
แม้ว่ากันตามสภาพการณ์ของนางที่ยังเป็นเด็กเล็กๆ คนหนึ่งกลับไม่พูดถึงบิดาจะเป็นเรื่องที่ผิดวิสัยมาก เมื่อก่อนตอนสติปัญญาไม่สมประกอบก็แล้วกันไป แต่ตอนนี้สมองเป็นปกติแล้วไม่เคยร่ำร้องเรียกหาบิดาออกจะไม่สมเหตุผลสักเท่าไหร่ ถึงกระนั้นนางไม่ตั้งใจจะเอ่ยถึงบิดาที่มีบุญแต่ไร้วาสนาต่อกันและน่าจะไปเกิดในชาติภพใหม่นานแล้ว เมื่อพินิจจากข้อสรุปทุกทาง สำหรับหลูซื่อแล้ว เรื่องที่เกี่ยวข้องกับบิดาคนนั้นไม่ถือเป็นความทรงจำที่มีความสุขอันใดอย่างเด็ดขาด และถึงขั้นเจ็บปวดรวดร้าวด้วยซ้ำไป นางไม่อยากให้สตรีที่รักใคร่เอ็นดูนางผู้นี้ต้องเสียใจเพราะความอยากรู้อยากเห็นชั่วครู่ชั่วยามของตนเองสักกระผีก
ในขณะที่นางปล่อยความคิดลอยไป หลูจื้อลอบจับสังเกตนางด้วยสายตาเจือรอยขมขื่นที่ยากจะเข้าใจ ในความคิดของเขา หลังจากน้องเล็กมีสติปัญญาสมบูรณ์ดี ครอบครัวของเขาไม่เหมือนเดิมแล้วจริงๆ หลายปีที่ผ่านมา เรื่องที่นางพิการมาแต่กำเนิดเป็นเหตุให้ทุกคนตกอยู่ใต้เงามืด จนเมื่อนางหายดี พวกเขาถึงไม่ต้องทุกข์ใจอยู่ลับหลังอีก ท่านแม่ก็ไม่ต้องฝืนยิ้มแย้มแจ่มใสแล้ว อีกหลายปีให้หลังรอเมื่อเขาสอบขุนนางระดับเมืองระดับมณฑลผ่าน ความเป็นอยู่ของครอบครัวก็จะดีขึ้น เขาจะทำให้ท่านแม่ น้องชาย และน้องสาวมีชีวิตที่สุขสบายให้จงได้
หลูจวิ้นเหลาแท่งไม้ไผ่ที่มีขนาดไล่เลี่ยกันทั้งหมดสามสิบแท่งเรียบร้อย หลังหลูจื้อหยิบไปล้างที่ห้องครัวจนสะอาด ทุกคนเริ่มเอาผลซานจาสีแดงสดพวกนั้นมาเสียบไม้