ความเคลื่อนไหวในเมืองหลวงเป็นเช่นไรก็สุดรู้ เมื่อทางสวนผูเจินได้รับข่าวคราวที่หานลี่ส่งคนมาบอกจากเมืองฉางอันว่าพบตัวหานสืออวี้แล้ว สองพ่อลูกมีธุระต้องพำนักในเมืองหลวงสองวันค่อยกลับไป หลูซื่อก็คลายใจลงได้
วันที่ยี่สิบเจ็ดเดือนสาม นางตื่นแต่เช้าตรู่ ด้วยเมื่อคืนมีม้าเร็วมาแจ้งข่าวล่วงหน้าว่าขบวนส่งสินเจ้าสาวจากหยางโจวมาถึงซีกวนแล้ว เช้าวันนี้จะมาถึงที่หมายเป็นอย่างช้า
อี๋อวี้ตื่นเช้าเช่นกัน นางไปที่ห้องหนังสือเอากระดาษหนังลูกวัวห่อคัมภีร์คุณธรรมที่ตนคัดลอกไว้ก่อนหน้านี้อย่างดี และส่งอวี๋ทงนำไปมอบให้หลี่ไท่ที่วังเว่ยอ๋อง แล้วจึงกินอาหารเช้ากับมารดา ก่อนจะกลับห้องไปบรรจงแต่งกายอย่างเรียบร้อย จากนั้นถือตำราหมากล้อมไปนั่งรอคนกับหลูซื่อในโถงหน้า
เมื่อดวงตะวันเคลื่อนลอยสูงขึ้นอย่างเนิบนาบ แสงแดดที่ส่องลอดผ่านประตูห้องโถงทอดเงายาวบนพื้นก็หดสั้นลง พรมปูพื้น ประตู และผนังล้วนปัดกวาดอย่างสะอาดหมดจด แจกันดอกไม้หลายใบก็ผ่านการขัดถูจนเป็นประกาย แม้แต่เจ้าชะมดที่เล่นซุกซนหัวหกก้นขวิดตัวนั้นก็ถูกพวกสาวใช้จับตัวไปอาบน้ำรอบหนึ่ง ลำตัวปกคลุมด้วยขนสีดำมันขลับนอนขดซุกอยู่ข้างกรอบประตูผึ่งแดด
หลูซื่อวางเข็มกับด้ายในมือลงแล้วย่ำเท้าวนไปวนมา สลับกับชะเง้อมองไปด้านนอกเป็นระยะ แต่ไม่เห็นวี่แววใครบนทางเดินยาวๆ หน้าโถงเชื่อมต่อถึงประตูใหญ่สักที
“คุณหนู น้ำแกงต้มเสร็จแล้วเจ้าค่ะ” เฉินชวีเดินประคองถาดเข้ามาวางลงข้างโต๊ะ ผิงถงเปิดฝาโถกระเบื้องสีขาวออก แบ่งเทใส่ชามส่วนหนึ่ง น้ำแกงสีน้ำตาลอมดำส่งควันขาวลอยกรุ่นๆ นางหยิบช้อนคนครู่หนึ่งถึงเอาผ้าเช็ดหน้ารองก้นชามส่งให้อี๋อวี้
อี๋อวี้วางตำราหมากล้อมลงแล้วมองมารดาที่เดินไปเดินมาตรงหน้า นางกล่าวยิ้มๆ “ท่านแม่ พักเท้าสักครู่ ดื่มน้ำแกงก่อนนะเจ้าคะ”
ตำรับน้ำโสมตังกุยมีอยู่มากมายกลาดเกลื่อน ถึงแม้ขนานนี้มิได้ใช้สมุนไพรล้ำค่าอันใด แต่ผสมผสานตัวยาซับซ้อน เช่น กระดองตะพาบน้ำ โหราเดือยไก่ และโป่งรากสนขาว เป็นต้น มีสรรพคุณรักษาอาการเลือดลมพร่องและอาการสะบัดร้อนสะบัดหนาว แขนขาอ่อนแรง บำรุงปราณ ปรับสมดุลหยาง
หลูซื่อดื่มกับอี๋อวี้ติดต่อกันมาหลายวัน รับรู้ได้ว่าสดชื่นกระปรี้กระเปร่า สีหน้าเปล่งปลั่งขึ้นมาก พอได้ยินบุตรสาวพูดกระเซ้า นางจึงสะกดความร้อนรุ่มใจไว้ รับชามมาแล้วนั่งลงข้างๆ
“นี่จวนเที่ยงตรงแล้ว ไฉนยังไม่มา คงมิใช่ว่าระหว่างทางเกิดเรื่องใดขึ้นเลยเสียเวลานะ”
“ไม่น่าจะใช่เจ้าค่ะ รออีกสักครู่เถอะ” อี๋อวี้กล่าวปลอบหลูซื่อสองคำ นางไม่กังวลใจเท่ามารดา ต่อให้คนจากทางใต้รุดมาถึงไม่ทันเวลา พวกนางก็ไม่เป็นห่วงว่าจะหาสินเจ้าสาวมาไม่ได้ แค่ต่างกันที่มากหรือน้อยเท่านั้นเอง
“มาแล้วๆ!”
หลูซื่อดื่มน้ำแกงได้ครึ่งเดียวก็ได้ยินเสียงตะโกนบอกแต่ไกล พร้อมร่างสองร่างวิ่งมาอย่างเร่งร้อน ยังไม่ทันมาถึงใกล้ๆ ก็ตะเบ็งเสียงพูดขึ้นอีก
“ฮูหยิน คุณหนู พวกเขามาถึงตัวตำบลแล้ว กำลังมุ่งหน้ามาที่คฤหาสน์นี้แล้ว”
หลูซื่อยินดียกใหญ่ แทบจะโยนชามทิ้งลงบนโต๊ะ นางยกชายกระโปรงสาวเท้าเร็วรี่ออกไปข้างนอก พอเดินถึงหน้าประตูก็ฉุกคิดขึ้นได้ หันหลังกลับมาเอ่ยเร่งบุตรสาว “ไปกันๆ ไปต้อนรับท่านป้าของเจ้ากับแม่”