“เป็นอะไรวะเชน” ธนดลถาม เห็นอีกฝ่ายทำท่าทางจริงจังแล้วเขาก็รู้สึกกลัวขึ้นมาว่านมสตรอเบอรี่นั่นอาจจะมีอะไรผิดปกติ เชนส่ายหน้าไปมาก่อนจะตอบ
“ไม่มีอะไร ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย กลับก่อนแล้วกัน” อยู่ๆ ร่างสูงก็ลุกขึ้นหยิบกระเป๋าเป้สะพายบนบ่าแล้วเดินออกไปเลย ถึงตอนนี้เชนรู้สึกว่าบรรยากาศในมหาวิทยาลัยต่างไปไม่เหมือนทุกวัน เขารู้สึกเหมือนตนเองกำลังยืนอยู่ในที่โล่งแล้วมีคนกำลังจ้องมองจากทุกที่ แต่ที่แย่กว่านั้นคือเมื่อเดินมาถึงรถ
มีตุ๊กตาวาฬตัวหนึ่งวางอยู่บนฝากระโปรงรถ น้อยคนนักที่จะรู้เรื่องที่เขาชอบวาฬเป็นพิเศษ ขนาดเพื่อนของเขายังไม่รู้อะไรที่เฉพาะเจาะจงแบบนี้เลย มีเพียงสาเหตุเดียวเท่านั้นที่ตุ๊กตาวาฬติดโน้ตไว้ว่า ‘ขับรถดีๆ นะ รักนะจ๊ะ’ จะมาอยู่ตรงนี้ได้…
นั่นคือยายกฤษรา พลอยในบ่อ!!
ชายหนุ่มหยิบตุ๊กตาวาฬขึ้นมาหมายจะโยนทิ้ง แต่มือของเขาดันค้างอยู่กลางอากาศ ไม่ใช่เพราะมีใครมาจับไว้ แต่เป็นเพราะว่าพอมองดีๆ แล้วเจ้าวาฬนี่มันก็น่ารักเหมือนกัน ใครก็รู้ว่าตุ๊กตาหมีหาซื้อง่ายแค่ไหน แต่วาฬไม่ใช่ของที่จะหาซื้อได้ทั่วไป เชนทำอะไรไม่ได้นอกจากเปิดประตูโยนมันเข้าไปในรถ
ส่วนกฤษราที่แอบมองอยู่ไกลๆ ก็ยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี สงสัยว่าแผนที่สองของเธอจะได้ผล ในเมื่อเขาไม่ให้เข้าใกล้ เธอก็ส่งของไปแสดงความรู้สึกแทน
“ง่ายเฟร่อ” หญิงสาวว่า แค่จีบผู้ชายแค่นี้ไม่คณามือของเธอหรอก คนอย่างกฤษราหากต้องการผู้ชายคนไหนแล้วไม่มีทางที่ผู้ชายคนนั้นจะรอดมือ
วันต่อๆ มากฤษราก็ทำเหมือนเดิม เอาของที่เธอศึกษามาแล้วว่าเขาชอบไปวางตามที่ต่างๆ ที่เขาจะต้องไป ข้อดีของการใช้ชีวิตประจำวันแบบเดิมๆ ของเชนทำให้เขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงสถานที่ที่ตัวเองจะต้องไปได้ ล่าสุดเขาเห็นหนังสือที่เขาไปถามหาที่ห้องสมุดมาวางอยู่ในโรงยิมพร้อมโน้ต คราวนี้เขียนชื่อของเขาด้วย ปลายฟ้าที่มาเล่นบาสด้วยกันหยิบเอามาให้พร้อมเครื่องหมายคำถามบนหน้า
“เชนชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับสัตว์เหรอ” หญิงสาวถาม
“ใช่” เชนตอบสั้นๆ เขาชอบสัตว์ทะเลโดยเฉพาะวาฬ แต่ใครจะเลี้ยงสัตว์ทะเลที่บ้านได้ เขาไม่เคยบอกใครว่าเขาชอบคุยกับสัตว์มากกว่าคน เขาดูทีวีและอ่านหนังสือ บางครั้งก็ไปเล่นกับลูกแมวข้างบ้านที่หลงมา จินตนาการเอาว่ามันคือแมวน้ำ ชีวิตส่วนตัวแบบนี้เขาไม่เคยมานั่งสาธยายให้ใครฟัง แต่…
ยายนั่นรู้หมด!!
เขาทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เขาต้องจัดการก่อนที่เรื่องมันจะเลวร้ายไปกว่านี้ อาจจะต้องพายายนั่นไปโรงพยาบาลแผนกจิตเวชหรือไม่ก็รีบชิงบีบคอให้ตายก่อน
“ขอเบอร์โทรศัพท์เพื่อนของปลายหน่อยได้ไหม” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น
“เพื่อนของปลายเหรอ คริสซี่น่ะนะ” ปลายฟ้าย้อนถาม คราวก่อนเขายังบอกอยู่ว่าหากจะมาให้เธอมาคนเดียว แต่ทำไมถึงมาขอเบอร์โทรศัพท์ของกฤษรา
“มีธุระน่ะ เหมือนเขาจะทำของหล่นเอาไว้ ฉันจะเอาไปคืน”
“ฝากปลายไปก็ได้นะ”
“อยากไปคืนเอง”
“เอ่อ เอาอย่างนั้นเหรอ แต่คริสซี่อาจจะไม่สบายใจก็ได้ที่ปลายให้เบอร์โดยที่ไม่บอกก่อน ขอปลายบอกเขาก่อนนะ” หญิงสาวรู้สึกกังวลว่ากฤษราจะว่าเอา ยังไงเบอร์โทรศัพท์ก็เป็นเรื่องส่วนตัว เธอจะต้องบอกอีกฝ่ายก่อน
ปลายฟ้าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์ข้อความส่งให้กฤษรา ถามเรื่องที่เชนจะขอเบอร์โทรศัพท์มือถือ แต่ยังไม่ทันที่เธอจะอธิบายว่าทำไมชายหนุ่มถึงอยากขอ กฤษราก็ตอบตกลงโดยไม่ได้ถามอะไรต่อ
“คริสซี่โอเค เดี๋ยวปลายส่งเบอร์ให้นะ”
“อืม ขอบใจมาก” เชนพูดแค่นั้นแล้วก็กลับไปซ้อมบาสเกตบอลต่อ
“ปลายจ๊ะ วันนี้ตอนเย็นไปกินหมูกระทะกันไหม” นิกกี้เอ่ยชวนปลายฟ้า ทุกครั้งที่ซ้อมเสร็จพวกเขาก็จะอยู่เล่นกับปลายฟ้าต่อ แต่ก่อนหน้านั้นพวกเขาต้องซ้อมกันจริงจังกับทีมมหาวิทยาลัย ซึ่งก็แค่ชั่วโมงสองชั่วโมง โดยเฉพาะตอนที่ยังไม่มีกำหนดแข่งพวกเขาก็เหมือนจะเล่นกันเฉยๆ เสียมากกว่า
“เอาสิ วันนี้ปลายเอารถมา จะกลับกี่โมงก็ได้” ปลายฟ้าตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ตอนนี้เธอสนิทกับเพื่อนผู้ชายสี่คนนี้แล้วจึงคิดว่าไปไหนมาไหนด้วยกันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก อีกอย่างพวกเขาไม่ได้ชวนเธอไปดื่มเหล้าสักหน่อย
“โอเคจ้า งั้นหนึ่งสองสามสี่ห้า” นิกกี้นับหัวของคนที่จะไป แต่เหมือนว่าหัวที่ห้านั้นหายไปแล้ว
“โรบอตบอยมันไปแล้วนะ มันบอกมีธุระ” ธันวาบอกกับเพื่อนเมื่อเห็นนิกกี้ชะงักค้าง
“งั้นเหลือสี่” คนนับเบ้ปากก่อนจะสรุป ยังไงเขาก็ชวนปลายฟ้าไปแล้ว แม้จะเสียดายที่ไม่ได้เห็นเชนกับปลายฟ้าสร้างความสัมพันธ์ให้คืบหน้า แต่มีเวลาอีกเยอะ เอาไว้ทีหลังก็ได้