ทดลองอ่าน นางแอ่นขับขาน สกุณาแซ่ซ้อง บทที่ 5-6 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน นางแอ่นขับขาน สกุณาแซ่ซ้อง บทที่ 5-6

หน้าที่แล้ว1 of 4

บทที่ 5 เคราะห์หนักเมื่อสิบห้า

ไม่ว่าเสิ่นกุยเยี่ยนจะคิดอย่างไรก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ช่างเหลวไหลสิ้นดี บุรุษที่ตกลงว่าจะแต่งงานกับนางมานาน บุรุษที่นางเชื่อมั่นมาโดยตลอดมีสัมพันธ์ทางกายครั้งที่สองกับน้องสาวนางซึ่งเกิดจากภรรยาเอก แต่กลับบอกว่ายังจะตบแต่งนางเหมือนเดิมและไม่รับผิดชอบน้องสาวนาง ข้างบนก็มีแม่ใหญ่กดดันอยู่ จะให้นางตัดสินใจอย่างไรได้เล่า

หากยืนยันจะแต่งต่อไป มิเท่ากับนางละโมบในลาภยศสรรเสริญของตระกูลอัครเสนาบดีโดยไม่สนใจไยดีน้องสาวหรอกหรือ แต่หากไม่แต่งก็กลายเป็นว่าบุตรสาวอนุของรองเสนาบดีเล็กๆ เช่นนางทำลายการแต่งงานของจวนอัครเสนาบดีไปแทน

พวกนางนึกว่านางโง่หรือไร

เสิ่นกุยเยี่ยนก้มศีรษะ หน้าซีดเผือด ทำได้เพียงให้เป่าซั่นไปเรียนบิดาให้รีบมาคืนความเป็นธรรม

เสิ่นกุยหย่าที่อยู่ตรงนั้นนั่งบีบต้นขาน้ำตาคลอเบ้า เสิ่นกุยเยี่ยนมองแล้วอึ้งไปเล็กน้อยด้วยไม่เคยเห็นมาก่อนว่าอีกฝ่ายทำเช่นนี้เป็น

เมื่อบิดาก้าวเข้ามาในห้องโถงใหญ่ เสิ่นกุยหย่าก็ทิ้งตัวลงคุกเข่าดังตุ้บแล้วกอดต้นขาผู้เป็นบิดาพลางร่ำไห้ “ท่านพ่อ ท่านตีลูกให้ตายเถิดเจ้าค่ะ ลูกไม่มีหน้าจะเจอใครแล้ว เพื่อการแต่งงานของพี่สาว ท่านพ่อตีลูกให้ตายไปเสียเถิดเจ้าค่ะ”

นายผู้เฒ่าเสิ่นสะดุ้งเฮือก รีบประคองบุตรสาวขึ้นมาตามความเคยชิน “นี่มันเรื่องอะไรกัน”

ที่คุกเข่าอยู่ข้างกันยังมีกู้เจาตงที่ควรกลับไปตั้งนานแล้ว นายผู้เฒ่าเสิ่นขมวดคิ้วแล้วทรุดตัวลงนั่งตรงเก้าอี้ประธาน

เสิ่นกุยหย่าร้องไห้น้ำตานองหน้า พูดเสียงสะอึกสะอื้น “ลูกชอบคุณชายกู้มากเหลือเกิน ห้ามใจมิให้มีสัมพันธ์กับคุณชายไม่ได้จริงๆ ลูกมันต่ำช้า ลูกมันหน้าด้าน…”

ระหว่างที่พูดเสิ่นกุยหย่ายังยกมือตบหน้าตนเองอย่างแรงหลายครั้ง

เสิ่นกุยเยี่ยนเบิกตากว้าง รู้สึกว่าหากน้องสาวต่างมารดาไม่เสียสติก็จะต้องถูกผีเข้าเป็นแน่แท้!

ทุกคนในห้องตกตะลึงไปตามๆ กัน กู้เจาตงถึงกับคว้ามือนางไว้ไม่ให้ทำร้ายตนเองต่อพลางขมวดคิ้วห้าม “คุณหนูห้า!”

เสิ่นกุยหย่าจับมือเขาไว้พลางสะอื้นฮัก ทั้งคู่คุกเข่าเคียงกัน สภาพดูราวกับนกเป็ดน้ำคู่รักที่จะถูกจับพรากกันอย่างนั้น

กู้เจาตงสับสนอยู่ในใจ เขามองคนน้องอยู่นาน ก่อนจะหันไปมองคนพี่แวบหนึ่ง เสิ่นกุยหย่ารู้สึกเหมือนเขาจะเริ่มหวั่นไหวเล็กน้อย นัยน์ตาสะท้อนความขัดแย้งออกมาอย่างชัดเจน แต่แล้วอึดใจต่อมาเขาก็หันไปค้อมคำนับนายผู้เฒ่าเสิ่น “เรื่องวันนี้เป็นความผิดของหลานเอง อย่าตำหนิคุณหนูห้าเลยขอรับ รอให้กุยเยี่ยนแต่งเข้าตระกูลเมื่อไร หลานจะต้องชดเชยให้คุณหนูห้าอย่างแน่นอน”

เสิ่นกุยหย่าสะอื้นเบาๆ “คุณชายกู้อย่าฝืนใจเลยเจ้าค่ะ ในเมื่อไม่ใช่คู่ครองที่สวรรค์ลิขิตมาให้ หย่าเอ๋อร์จะเหนี่ยวรั้งไว้ได้อย่างไร”

คนหนึ่งไม่ลืมความรับผิดชอบ คนหนึ่งไม่ลืมความเป็นเหตุเป็นผล พออยู่คู่กันเช่นนี้ ผู้อื่นก็ดูเหมือนจะเป็นคนร้ายกาจไปเสียหมด นายผู้เฒ่าเสิ่นถอนหายใจเฮือก ตำหนิติเตียนได้ไม่เต็มปากเช่นกัน ในเมื่ออีกฝ่ายยินดีรับผิดชอบก็เอาตามนี้แล้วกัน

ตำแหน่งขุนนางสูงกว่าเพียงขั้นเดียวยังกดดันถึงตายได้ นี่ตำแหน่งของอีกฝ่ายยังสูงกว่าเขาตั้งหลายขั้น

อย่าให้เป็นเรื่องเป็นราวเลยอย่าให้เป็นเรื่องเป็นราวเลย

เสิ่นกุยเยี่ยนชอกช้ำอยู่บ้าง แต่เมื่อมองเสิ่นกุยหย่าที่ยังไม่เลิกร่ำไห้ก็คิดว่าฝ่ายนั้นน่าจะเจ็บช้ำยิ่งกว่า ถึงอย่างไรนางก็ยังสามารถแต่งเข้าจวนอัครเสนาบดีไปเป็นภรรยาเอก ขณะที่ตอนนี้เสิ่นกุยหย่ายังไม่มีอะไรเลยสักอย่าง

ปรากฏว่าพอทุกคนแยกย้ายกันหมดแล้ว จู่ๆ เสิ่นกุยหย่าที่เดินอยู่ข้างหน้าก็หันมามองนางแล้วยิ้ม “เกลียดข้ามากเลยสินะ”

เสิ่นกุยเยี่ยนชะงัก

“ช่วยไม่ได้ ก็ข้าเป็นตัวเอกฟ้าลิขิตที่ข้ามมิติมานี่นา” ท่าทางน่าสงสารเมื่อครู่ถูกสลัดทิ้งไปจนสิ้น เสิ่นกุยหย่ากระหยิ่มยิ้มย่อง “เจ้าคงฟังไม่รู้เรื่องหรอกว่าข้าพูดอะไรอยู่ แต่ในเมื่อข้ามาแล้ว ต่อให้เจ้างดงามสักเพียงใดก็แข่งกับเสิ่นกุยหย่าไม่ชนะ”

‘เสิ่นกุยหย่า’ ยกมือป้องปากยิ้มอย่างกระหยิ่มใจ ดูละครทะลุมิติมาหลายปีดีดัก ในที่สุดก็ถึงตาตนเองบ้างแล้ว นางจะทำให้บุรุษทุกคนที่อยู่ที่นี่หลงรักนาง ทำให้ทรัพย์สมบัติทั้งหมดตกเป็นของนางให้ได้ นางตัวประกอบหน้าตาพริ้มเพราผู้นี้เชี่ยวชาญศิลปะทุกแขนงแล้วอย่างไรเล่า นางเป็นคนยุคปัจจุบัน มีอะไรที่แย่งมาไม่ได้บ้าง

เสิ่นกุยเยี่ยนขมวดคิ้วมองคนตรงหน้าเดินยิ้มจากไปจนไกล ก่อนจะหันไปถามเป่าซั่นอย่าอึ้งๆ “นางจมน้ำจนสมองเสื่อมไปจริงๆ หรือ”

สาวใช้เบ้ปาก “เสื่อมขั้นรุนแรงด้วยเจ้าค่ะ”

อะไรคือ ‘แข่งกับเสิ่นกุยหย่าไม่ชนะ’ คุณหนูของนางไม่เคยคิดจะชิงดีชิงเด่นด้วยเสียหน่อย แต่สิ่งใดสมควรได้ก็จะไม่หลีกทางให้เด็ดขาด!

เสิ่นกุยเยี่ยนส่ายศีรษะ เห็นว่าตนเองควรกลับไปปักชุดเจ้าสาวก่อนจะดีกว่า น้องสาวต่างมารดาอยากเสียสติก็ปล่อยให้เสียสติไป

 

“คุณหนู ท่านยังเกลียดชังคุณหนูสามเหมือนเมื่อก่อนเลยนี่เจ้าคะ” อวี้ซูประคองเสิ่นกุยหย่าพลางพูดอย่างประหลาดใจ “แม้ไม่มีความทรงจำหลงเหลือก็ยังเกลียดหรือเจ้าคะ”

เสิ่นกุยหย่าร้องหึเบาๆ “แค่เห็นหน้าก็รู้สึกไม่ถูกชะตาแล้ว หน้าตางดงามถึงเพียงนั้นต้องเป็นนางจิ้งจอกแน่ๆ อีตาคุณชายกู้นั่นเป็นประเภทใช้ข้างล่างคิดแทนสมอง มีหรือจะตาแหลม มองอะไรฉาบฉวยล่ะไม่ว่า”

อวี้ซูผงะไปเล็กน้อย รู้สึกไม่คุ้นชินกับคำพูดคำจาของคุณหนูของตนนัก

เสิ่นกุยหย่ากล่าวต่อไป “สตรีเช่นนี้น่ะ สมัยอยู่ที่เดิมข้าเคยเห็นมานักต่อนักแล้ว แค่หน้าตาสะสวยสักหน่อยบุรุษก็ชมชอบ ถือว่าตนเองวิเศษเลิศเลอเพราะเล่าเรียนหนังสือ บุรุษพวกนั้นมันตาถั่ว มองไม่เห็นความงามจากภายในของข้า”

ฟังไม่รู้เรื่องเลยสักนิด สาวใช้ได้แต่หัวเราะแหะๆ เออออตาม เสิ่นกุยหย่าเยื้องย่างเข้าไปในเรือนอย่างเชื่อมั่นพลางวางแผนว่าขั้นต่อไปจะจับกู้เจาตงอย่างไรให้อยู่มือ

หน้าที่แล้ว1 of 4

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com