บทที่สิบ
หลังหลี่เหวยหยวนกับหลี่หลิงหว่านกลับไปที่เรือนพักด้านหลังแล้วก็แยกย้ายกันเข้าห้องไปพักผ่อน จวบจนช่วงใกล้พลบค่ำ อากาศร้อนน้อยลง ฮูหยินผู้เฒ่าจึงส่งสาวใช้มาตามพวกเขา บอกให้รวมตัวกันไปไหว้พระยังอุโบสถใหญ่ด้วยกัน
เดิมทีหลี่เหวยหยวนที่อยู่ในเรือนพักก็รู้สึกจิตใจไม่สงบมาโดยตลอด เอาแต่คิดว่าที่สุดแล้วควรไปหาท่านเจ้าอาวาสแล้วสอบถามความเป็นมาของหลี่หลิงหว่านดีหรือไม่ แต่ในชั่วขณะนั้นเมื่อเขาได้เห็นหลี่หลิงหว่านกำลังเดินพูดคุยหัวเราะกับหลี่หลิงเจียว หางตาปลายคิ้วล้วนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขาพลันรู้สึกว่านางมีที่มาอย่างไรกันแน่นั้นมีอะไรสำคัญกันเล่า
ไม่ว่าในอดีตนางจะเป็นใครล้วนไม่สำคัญ ขอเพียงในตอนนี้และในวันข้างหน้านางล้วนอยู่เคียงข้างเขาเช่นนี้ เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว เหตุใดยังจะต้องไปสนใจว่านางมีความเป็นมาอย่างไรด้วย
เขาผงกศีรษะส่งยิ้มให้หลี่หลิงหว่าน ก่อนจะเดินตามหลี่ซิวป๋อกับคนอื่นๆ เข้าไปยังอุโบสถใหญ่
หลี่หลิงเจียวมองเห็นแล้วจึงเบ้ปากใส่หลี่หลิงหว่าน “พี่ใหญ่เป็นคนที่ไม่ว่ากับผู้ใดก็ล้วนเย็นชาด้วย มีเพียงกับเจ้าเท่านั้นที่นับว่าใส่ใจยิ่งนัก”
เป็นเพราะหลี่หลิงเยี่ยน หลายวันมานี้ท่าทีที่หลี่หลิงเจียวมีต่อหลี่หลิงหว่านจึงเปลี่ยนไปอย่างมาก พูดไปแล้วหลี่หลิงเจียวก็แค่เป็นคนที่อาจจะดูเย่อหยิ่งจองหองไปบ้างเท่านั้น ความจริงเนื้อแท้ของนางก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร เป็นแค่เด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น
หลี่หลิงหว่านได้ฟังแล้วก็เม้มปากยิ้มก่อนเอ่ย “ความจริงหากเจ้าได้ทำความรู้จักพี่ใหญ่ไปนานๆ ก็จะรู้เองว่าเขาเป็นคนที่ดีมากคนหนึ่ง ไม่ได้เย็นชาเหมือนที่เจ้าคิดไว้”
“ช่างเถอะ” หลี่หลิงเจียวส่ายศีรษะ “พี่ใหญ่ดูเป็นคนเย็นชาจริงๆ ข้าไม่กล้าเข้าไปใกล้เขาหรอก กลัวว่ายังไม่ทันจะเข้าใกล้ก็ถูกเขาแช่แข็งตายเสียก่อนมากกว่า”
พูดมาถึงตรงนี้หลี่หลิงเจียวก็ยื่นศอกไปกระทุ้งหลี่หลิงหว่าน กระตุ้นให้นางมองไปยังหลี่หลิงเยี่ยนที่อยู่ข้างหน้าซึ่งกำลังคล้องแขนและพูดจาสนิทสนมกับหลี่หลิงเจวียน ก่อนเอ่ยอย่างลึกลับ “ก่อนหน้านี้ในสวนดอกไม้ ข้าเห็นนางกำลังเอ่ยสนทนากับพี่ใหญ่ ในมือยังถือปลอกพัดอยู่อันหนึ่ง บอกว่านี่เป็นของที่นางปักด้วยตนเอง อยากจะมอบให้พี่ใหญ่เป็นการแสดงความยินดีที่พี่ใหญ่สอบได้เป็นซานหยวนจี๋ตี้ แต่พี่ใหญ่ไม่แม้แต่จะสนใจนางเลย เขาเดินจากไปทันที เจ้าไม่เห็นว่ายามนั้นนางยืนอยู่ที่เดิม ใบหน้าเปลี่ยนสีอยู่สักพัก สุดท้ายก็หมุนตัวเดินกลับไปอย่างกรุ่นโกรธ จากนั้นเจ้าลองเดาดูสิว่าเกิดอะไรขึ้น
ผ่านไปอีกสองวัน ไม่นึกเลยว่าข้าจะได้เห็นปลอกพัดอันนั้นอยู่กับพี่รอง คงมิใช่ว่านางปักปลอกพัดที่เหมือนกันสองอัน อยากจะมอบให้พี่ใหญ่กับพี่รองคนละอันหรอกนะ จะต้องเป็นเพราะนางเห็นว่าตอนนี้พี่ใหญ่ได้เข้าไปอยู่ในสำนักราชบัณฑิต อนาคตรุ่งโรจน์ ดังนั้นจึงอยากประจบพี่ใหญ่ แต่พี่ใหญ่ไม่คล้อยตาม นางเลยลอยไปตามน้ำ เปลี่ยนไปมอบปลอกพัดอันนั้นให้พี่รองแทน พี่รองผู้น่าสงสารต้องมารับของที่ผู้อื่นเขาไม่เอา แล้วยังหลงคิดว่าในใจน้องสามของเขามีพี่ชายผู้นี้อยู่อีกด้วย ข้ารู้สึกขัดตานางที่เป็นเช่นนั้น วันถัดมาข้าจึงไปหาพี่รอง บอกเรื่องราวเหล่านี้กับเขา พี่รองยังไม่เชื่อ บอกว่าข้าเห็นนางทำดีต่อเขาไม่ได้ ยามนั้นทำเอาข้าโกรธไม่น้อยเลย ไม่ว่าอย่างไรข้าก็จะไม่สนใจพี่รองอีกต่อไปแล้ว ข้าจะรอดูว่าน้องสามผู้แสนดีของเขาจะดีกับเขาเช่นนี้ไปได้ตลอดหรือไม่”
หลี่หลิงหว่านไม่รู้แม้แต่น้อยว่ายังมีเรื่องราวเช่นนี้เกิดขึ้นด้วย ยามที่ได้ยินหลี่หลิงเจียวเอ่ยขึ้นนางจึงรู้สึกแปลกใจไม่น้อย แม้นางจะรู้สึกไม่ชอบหลี่หลิงเยี่ยน เพราะหากพูดไปแล้วนางกับหลี่หลิงเยี่ยนก็อยู่ฝ่ายตรงข้ามกัน ขอเพียงในใจฮูหยินผู้เฒ่ากับหลี่ซิวป๋อยังมีความคิดที่จะอุ้มชูซุนหลันอีขึ้นเป็นภรรยาเอก หลี่หลิงเยี่ยนกับซุนหลันอีย่อมต้องเป็นศัตรูของนางกับโจวซื่อ ทว่าหากพูดตามความจริง นับตั้งแต่หลี่หลิงเยี่ยนกลับจวนสกุลหลี่มาเมื่อปลายปีก่อน อีกฝ่ายก็มักจะมานั่งเล่นอยู่กับนาง มอบสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ ให้นางอยู่บ่อยครั้ง ในน้ำเสียงยามที่พูดกับนางเต็มไปด้วยความใส่ใจมากเพียงใดไม่พูดถึง แต่ทุกครั้งที่ได้พบหน้ากัน หลี่หลิงเยี่ยนก็จะเข้ามาจับแขนนาง เอ่ยกับนางอย่างสนิทสนม แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าหลี่หลิงเยี่ยนเป็นคนฉลาดยิ่ง ความปรารถนาดีเหล่านี้ที่อีกฝ่ายปฏิบัติต่อนางก็เป็นเพียงการแสดงออกในฉากหน้าเท่านั้น กระนั้นหลี่หลิงหว่านก็ยังคงคาดไม่ถึงว่าหลี่หลิงเยี่ยนจะทำเรื่องเช่นนี้ออกมา
“พี่ใหญ่ไม่เคยพูดเรื่องนี้กับข้ามาก่อน” หลี่หลิงหว่านเอ่ยเสียงเบา “แต่ว่าน้องหก เรื่องเช่นนี้เจ้าไปบอกพี่รองตรงๆ พี่รองย่อมไม่มีทางเชื่ออยู่แล้ว”
ผู้ใดจะเชื่อกัน ในเมื่อไม่ว่าอย่างไรใบหน้าของหลี่หลิงเยี่ยนก็ดูเป็นคนที่กระทำต่อทุกคนอย่างจริงใจเช่นนั้น
หลี่หลิงเจียวเบ้ปากอย่างไม่สบอารมณ์ “ไม่ว่าเขาจะเชื่อหรือไม่ แต่ข้าตาสว่างแล้ว จะรอดูว่าน้องสามผู้แสนดีในใจเขาวันหน้าจะกลายเป็นเช่นไร”
จะกลายเป็นเช่นไรอย่างนั้นหรือ หลี่หลิงเยี่ยนเป็นคนมีชะตาหงส์ วันหน้าก็จะได้กลายเป็นฮองเฮา เป็นมารดาของแผ่นดินน่ะสิ