ทดลองอ่าน
ทดลองอ่าน นิยายเรื่องนี้ข้าไม่ได้เขียน! เล่ม 3 บทที่ 1-2
หลี่หลิงหว่านรู้ว่าเขาโกรธเข้าแล้วจริงๆ แต่ยามนี้นางก็โมโหเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน ดังนั้นจึงไม่เหลือบมองเขาแม้แต่น้อย ยังคงเบือนหน้าหนีมองไปยังต้นตงชิง ที่อยู่ด้านข้างด้วยความโกรธ
ในใจหลี่เหวยหยวนตอนนี้ก็เต็มไปด้วยเพลิงโทสะคับฟ้า เดิมทีก่อนหน้านี้เขาอยู่ที่เรือนโถงเปิดโล่งด้านหน้า ได้ยินผู้คนเอ่ยเรื่องที่ฮ่องเต้ทรงกลับคำพิพากษาความผิดของรองข้าหลวงตู้กับรองข้าหลวงซุนเมื่อหลายสิบปีก่อน คิดถึงว่าปีนั้นหากมิใช่ฮ่องเต้ทรงเลอะเลือน เขาก็คงจะได้เป็นหลานชายคนโตผู้สูงศักดิ์ของจวนสกุลหลี่ และไม่มีทางต้องเผชิญกับการดูถูกเหยียดหยามของผู้คนในหลายปีมานี้ เดิมทีในใจเขาก็ไม่สบอารมณ์อยู่บ้างแล้ว ตอนนี้หลี่หลิงหว่านยังมาทะเลาะกับเขาด้วยเรื่องฉุนอวี๋ฉีเช่นนี้อีก
ที่ผ่านมาหลี่หลิงหว่านไม่เคยมีท่าทีต่อต้านเขามาก่อน ทว่าวันนี้เพื่อฉุนอวี๋ฉีนางกลับหาเรื่องเขา หรือว่าแค่พบกับฉุนอวี๋ฉีเพียงครั้งเดียว นางก็พึงพอใจในตัวอีกฝ่ายเข้าแล้วจริงๆ
คิดมาถึงตรงนี้เขาก็รู้สึกว่าเพลิงโทสะในใจแทบจะพวยพุ่งออกมา ชั่วขณะต่อมาจึงยื่นมือออกไปจับข้อมือขวาของหลี่หลิงหว่านแน่น
หลี่หลิงหว่านเจ็บ แต่เพราะกำลังโกรธอย่างยิ่งยวดนางจึงขัดขืนไม่หยุด เมื่อหลี่เหวยหยวนไม่ปล่อย นางจึงยกเท้ากระทืบลงไปบนเท้าเขาอย่างรุนแรง ก่อนจะสัมผัสได้ว่ามือที่จับข้อมือนางคลายออกเล็กน้อย นางจึงรีบออกแรงสะบัดจนหลุด ก่อนจะเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เคียงคู่ไปกับหลี่หลิงเยี่ยนพร้อมเอ่ยกับอีกฝ่าย “พี่สาม พวกเรากลับไปหอหมิงเซ่อด้วยกันสองคนเถอะเจ้าค่ะ”
ยามนี้หลี่หลิงหว่านทำได้เพียงเกาะขอนไม้ลอยน้ำอย่างหลี่หลิงเยี่ยน หากซ้ายขวามีคนอื่นอยู่ด้วย หลี่เหวยหยวนก็ไม่น่าจะลงมือทำอะไรนาง
หลี่หลิงเยี่ยนเหลือบมองหลี่หลิงหว่านก่อนยิ้มเอ่ย “น้องสี่กับพี่ใหญ่มักมีบทสนทนาส่วนตัวมากมายให้พูดคุยกันเสมอ ยามอยู่ที่จวนแม้พวกเจ้าสองคนจะพบหน้ากันทุกวันก็ยังมีเรื่องให้คุยไม่หมด วันนี้มาถึงจวนก่วงผิงโหวแห่งนี้ เจ้ากับพี่ใหญ่ก็ยังคงหลีกเลี่ยงพวกเราไปอยู่กันสองคนเช่นเดิม” นางยกแขนเสื้อขึ้นบังริมฝีปาก เอ่ยกลั้วหัวเราะอย่างหยอกเย้า “เมื่อครู่เจ้ากับพี่ใหญ่พูดจากระซิบกระซาบอะไรกันหรือ คงมิใช่ว่าแอบนินทาอะไรพวกเราหรอกนะ”
ในใจหลี่หลิงหว่านกำลังวุ่นวายสับสน กับประโยคนี้ของหลี่หลิงเยี่ยนนางจึงไม่ได้โต้เถียง เพียงแค่ตอบรับอย่างขอไปที ขณะเดียวกันยังใช้หางตามองไปยังหลี่เหวยหยวน ก่อนจะเห็นเขากำลังเม้มปากแน่นเป็นเส้นตรง สีหน้าเย็นชาเป็นอย่างยิ่ง ทั้งยังไม่มองนาง สายตาเอาแต่มองไปยังต้นไม้ที่ปลูกอยู่ข้างทาง
หลี่หลิงหว่านเห็นแล้วในใจก็ทั้งโกรธทั้งกลัว โกรธเพราะนางไม่ชอบให้หลี่เหวยหยวนเหนี่ยวรั้งนางเช่นนี้ กระทั่งนางพูดคุยกับคนอื่นก็ยังไม่ได้ นางรู้สึกว่าตนเองถูกเขายึดเอาไว้จนแทบจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว แล้วก็กลัวเพราะนางรู้ว่าหลี่เหวยหยวนเป็นคนมีนิสัยขี้ระแวง อย่าให้นางกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาหงุดหงิดเลย มิเช่นนั้นความพยายามในหลายปีที่ผ่านมานี้ของตนเองก็ล้วนสูญเปล่าแล้ว
ชั่วขณะหนึ่งหลี่หลิงหว่านคิดจะไม่สนใจหลี่เหวยหยวน เพียงแค่เดินไปข้างหน้าตามทางของตนเองก็พอ แต่อีกชั่วขณะหนึ่งนางก็ยังอยากจะหันกลับไปหาหลี่เหวยหยวน ร้องขอความเมตตากับเขาเสียงเบา ขอให้เขาอย่าได้โกรธอีกต่อไป
ในใจหลี่หลิงหว่านสับสนวุ่นวาย ไม่รู้จริงๆ ว่าควรจะทำเช่นไรดี ชั่วขณะนั้นนางจึงก้มหน้าคอตก รู้สึกอยากร้องไห้ออกมาจริงๆ
ฉุนอวี๋ฉีที่อยู่ด้านข้างก็มองเห็นสีหน้าอมทุกข์และลำบากใจบนใบหน้าของหลี่หลิงหว่าน
แม้เมื่อครู่เขาจะเอาแต่สนทนากับเหลียงเฟิงอวี่ แต่ปลายหางตายังคงคอยสังเกตหลี่หลิงหว่านกับหลี่เหวยหยวนอยู่เสมอ ซึ่งเห็นได้ชัดมากว่าพวกเขาทั้งสองคนทะเลาะกันขึ้นมาแล้ว หลี่เหวยหยวนใบหน้าเคร่งขรึม หลี่หลิงหว่านโกรธอย่างมาก ทั้งสองคนต่างไม่มีใครยอมใคร ต่อมาหลี่เหวยหยวนยังยื่นมือออกไปจับข้อมือหลี่หลิงหว่านอย่างรุนแรง ชั่วขณะนั้นฉุนอวี๋ฉีไม่รู้ว่าเพราะอะไร จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าหัวใจบีบรัดแน่น กระทั่งเกือบจะพุ่งไปกระชากมือข้างนั้นของหลี่เหวยหยวนที่จับข้อมือหลี่หลิงหว่านออก แต่สุดท้ายเขาก็ยังข่มกลั้นเอาไว้ได้
หลี่เหวยหยวนกับหลี่หลิงหว่านเป็นพี่น้องกัน พูดไปแล้วเขาก็เป็นเพียงคนนอกเท่านั้น ทว่าหลี่หลิงหว่านก็ดูหวาดกลัวหลี่เหวยหยวนมากจริงๆ ขณะเดียวกันก็ใส่ใจอีกฝ่ายมากที่สุดด้วย ต่อให้ตอนนี้นางจะสะบัดหลุดออกจากการเกาะกุมของหลี่เหวยหยวนและวิ่งมาทางด้านหน้าแล้ว กระนั้นนางก็ยังเหลือบมองอีกฝ่ายเป็นพักๆ เมื่อเห็นหลี่เหวยหยวนไม่มองนาง ใบหน้านางก็เหมือนจะร้องไห้ออกมา
ครั้นเห็นว่าหลี่หลิงหว่านเกือบจะหมุนตัวกลับไปหาหลี่เหวยหยวนอยู่แล้ว ฉุนอวี๋ฉีพลันเดินไปด้านข้างสองก้าว ขวางทางหลี่หลิงหว่านเสีย
หลี่หลิงหว่านเงยหน้ามองเขา ยังคงทำหน้านิ่วคิ้วขมวด
นางเป็นคุณหนูผู้งดงามถึงเพียงนี้ สมควรที่จะยิ้มแย้มอยู่ตลอดเวลาจริงๆ ดวงตาที่กลอกไปมาราวกับไข่มุกราตรีเม็ดที่งามที่สุดในใต้หล้า เปล่งประกายสว่างไสวออกมาทั่วทั้งร่าง
น้ำเสียงของฉุนอวี๋ฉีโอนอ่อนลงมาโดยไม่รู้ตัว “คุณหนูหลี่ ท่านเดินกลับหอหมิงเซ่อไปพร้อมกับพี่สาวท่านก่อนเถิด ทางด้านข้า สหายหลี่ และเหลียงซื่อจื่อจะเดินกลับไปที่เรือนโถงเปิดโล่งด้านหน้าด้วยกันเอง ไม่ไปส่งพวกท่านแล้ว”
หลี่หลิงหว่านไม่ได้ตอบกลับ เพียงแค่เอียงศีรษะ สายตามองไปยังหลี่เหวยหยวน
ดวงตาหลี่เหวยหยวนมองจับจ้องไปที่หลี่หลิงหว่านอย่างอ่านไม่ออก ก่อนที่เขาจะหันหน้าหนีไปอย่างเย็นชา มองต้นไม้ข้างทางต่อไป
เขาไม่สนใจข้า?! เขาถึงกับไม่สนใจข้า?!
ชั่วขณะนั้นหลี่หลิงหว่านไม่รู้ว่าในใจตนเองกำลังโกรธหรือกำลังกลัวกันแน่ นางเองก็ไม่มีความคิดที่จะมาคอยรักษามารยาทกับฉุนอวี๋ฉีอีก จึงทำเพียงผงกศีรษะให้เขาอย่างเร่งร้อนเพื่อแสดงความขอบคุณ จากนั้นก็หมุนตัวเดินจากไป
ทว่าหลี่หลิงเยี่ยนกลับเอ่ยเสียงเบาอ่อนหวานบอกลาฉุนอวี๋ฉีกับเหลียงเฟิงอวี่ ก่อนจะติดตามหลี่หลิงหว่านกลับไปยังหอหมิงเซ่อด้วยกัน