รอจนถึงบริเวณที่นางแยกจากหลี่หลิงหว่าน เสี่ยวซานก็ชี้นิ้วไปยังทิศที่หลี่หลิงหว่านเดินไปพร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงแฝงอาการสะอื้น “ยามนั้นบ่าวหันหน้ากลับไปมองก็เห็นคุณหนูเดินไปตามทางนั้น แต่บ่าวจำได้ว่าตรงนั้นเป็นสถานที่ต้องห้าม ฮูหยินผู้เฒ่าออกคำสั่งอย่างเข้มงวด ไม่อนุญาตให้ผู้ใดในจวนแห่งนี้เข้าไปทั้งนั้น ด้วยเหตุนี้ตอนนั้น…ตอนนั้นบ่าว…”
ด้วยเหตุนี้ทั้งๆ ที่นางรู้แก่ใจว่าหลี่หลิงหว่านมุ่งไปยังทิศทางนั้น ทว่าเมื่อนึกถึงคำพูดของฮูหยินผู้เฒ่า ที่สุดแล้วจึงไม่ได้ติดตามไป แต่หันกลับไปตามหลี่เหวยหยวนแทน
หลี่เหวยหยวนมองไปยังทิศทางนั้นคราหนึ่ง หัวใจพลันหนักอึ้งยิ่งขึ้น เขาไม่ได้เอ่ยอะไรอีก เพียงกำชับให้เสี่ยวซานรีบกลับไปรอที่เรือนอี๋เหอ หากระหว่างทางพบเจอผู้ใดเข้า นางไม่อาจเปิดเผยเรื่องนี้ออกไปได้แม้แต่คำเดียว ถ้ามีสาวใช้ภายในเรือนอี๋เหอถามขึ้นมา ก็ให้บอกเพียงว่าคุณหนูสี่มีเรื่องด่วนจึงย้อนกลับไปหาคุณชายใหญ่ สักพักก็จะกลับมา
เสี่ยวซานรีบร้อนรับคำ ก่อนที่นางจะยกโคมไฟวิ่งเหยาะๆ กลับไปยังเรือนอี๋เหอ
ส่วนทางด้านหลี่เหวยหยวนก็ขยับเท้าก้าวยาวๆ ไปข้างหน้าแล้ว
เรือนเล็กของตู้ซื่อแม้จะแยกห่างออกมา แต่เขาไปเยือนอยู่บ่อยๆ จึงคุ้นเส้นทางเป็นอย่างดี และด้วยความร้อนใจเขาจึงรีบวิ่งมาตลอดทาง ในตอนที่เขาได้เห็นเรือนเล็กแห่งนี้ หลี่หลิงหว่านก็เพิ่งมาถึงเท่านั้น
หลี่เหวยหยวนมองเห็นเรือนร่างสะโอดสะองของนางกำลังยืนอยู่ตรงหน้าประตูเรือน หัวใจที่หวาดหวั่นมาโดยตลอดของเขาจึงสงบลงได้ พริบตาต่อมาเขาก็อยากจะเปิดปากส่งเสียงเรียกนาง ให้นางรีบตามเขากลับไป แต่ยามนั้นเขาก็ได้เห็นหลี่หลิงหว่านกำลังถืออะไรบางอย่างงัดแงะอิฐก้อนที่สี่ด้านซ้ายมือพอดี
เรือนเล็กที่กักขังตู้ซื่อแห่งนี้ถูกคล้องแม่กุญแจเอาไว้ตลอดเวลา ต่อให้เป็นบ่าวรับใช้ที่มาส่งอาหารก็ไม่อาจเข้าไปได้ เพียงแค่เปิดช่องเล็กๆ เอาไว้บนกำแพง พอถึงเวลาก็นำสำรับอาหารส่งผ่านเข้าไปในช่องนั้น ภายหลังหลี่ซิวซงหาหนทางขโมยลูกกุญแจของแม่กุญแจตัวนี้มาจากฮูหยินผู้เฒ่าได้ หยิบมาแล้วก็ให้คนทำลูกกุญแจเอาไว้ดอกหนึ่ง จากนั้นนำกุญแจต้นแบบกลับไปวางคืนฮูหยินผู้เฒ่าทางด้านนั้น ส่วนกุญแจที่ถูกทำมาดอกนี้ หลี่ซิวซงได้บอกกับหลี่เหวยหยวนไว้แล้วว่าอิฐก้อนที่สี่ทางซ้ายด้านนอกประตูเรือนมีโพรงอยู่ กุญแจจะวางเอาไว้ในนั้น หากเขาอยากมาหาตู้ซื่อเมื่อใดก็สามารถหยิบกุญแจมาเปิดประตูเรือนเข้าไปเองได้เลย
เพียงแต่เรื่องราวที่เป็นความลับขนาดนี้มีเพียงเขากับหลี่ซิวซงเพียงสองคนเท่านั้นที่รู้เรื่อง เหตุใดยามนี้หลี่หลิงหว่านกลับกระจ่างได้เล่า
หลี่เหวยหยวนรู้สึกสงสัยจึงไม่ได้เปิดปากเรียกหลี่หลิงหว่านในทันที ทั้งยังขยับตัวเล็กน้อยไปซ่อนตัวอยู่หลังต้นกุ้ยที่ปลูกอยู่ข้างทาง
จากนั้นเขาก็เห็นหลี่หลิงหว่านหยิบกุญแจขึ้นมาไขแม่กุญแจแล้วผลักประตูก้าวเข้าไปในเรือน ทั้งยังหันกลับมาปิดประตู ยามนั้นเขาถึงได้เดินย่องไปที่ประตู ก่อนจะยื่นมือออกไปผลักประตูเบาๆ ทว่าบานประตูทั้งสองไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย เห็นทีหลี่หลิงหว่านคงจะลงกลอนประตูเอาไว้ที่ด้านหลัง
หลี่เหวยหยวนขมวดคิ้ว หลังกวาดสายตามองไปรอบๆ ก็พบว่าที่ใกล้กำแพงมีต้นการบูรอยู่ต้นหนึ่ง กิ่งก้านใบอุดมสมบูรณ์ แม้ลำต้นจะไม่ได้แนบชิดกับกำแพงมากนัก แต่เขาคำนวณดูแล้วรู้สึกว่าหากตนเองอยู่สูงพอแล้วกระโดดลงไปด้านล่าง เขาก็จะเข้าไปในเรือนได้พอดี
เขาไม่วางใจให้หลี่หลิงหว่านอยู่กับตู้ซื่อตามลำพังจริงๆ ต่อให้รู้ทั้งรู้ว่าการทำเช่นนี้มีอันตรายอย่างแน่นอน แต่หลี่เหวยหยวนยังคงเดินไปที่ใต้ต้นการบูรต้นนั้นอย่างไม่ลังเลแล้วเริ่มปีนขึ้นไป
รอจนรู้สึกว่าความสูงพอได้แล้ว หลี่เหวยหยวนก็จับกิ่งไม้แห้งที่ค่อนข้างหนากิ่งหนึ่งเคลื่อนตัวไปด้านหน้าอย่างเชื่องช้า เขาชะโงกหน้ามองลงไปด้านล่างครู่หนึ่งแล้วก็กัดฟันกระโดดลงไป
โชคดีที่พื้นลานเรือนทุกหนแห่งล้วนมีแต่วัชพืชที่แห้งเหี่ยวไปแล้ว เนื่องจากไม่มีคนมาทำความสะอาด วัชพืชจึงปูอยู่บนพื้นเป็นชั้นหนาๆ ราวกับพรมอย่างไรอย่างนั้น ยามที่เขากระโดดลงมา แม้หัวเข่ากับข้อศอกล้วนกระแทกลงพื้นอย่างรุนแรงจนรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาทันที ทว่าสุดท้ายก็ไม่ได้แขนหรือขาหักแต่อย่างใด
หลี่เหวยหยวนพยุงกายลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เขาไม่มีเวลามาสนใจว่าที่หัวเข่ากับข้อศอกตรงนั้นเจ็บมากเพียงใด เพียงเร่งรีบเดินย่องไปยังโถงหลักที่อยู่ด้านหน้า
ภายในโถงหลักมีแสงตะเกียงน้ำมันสลัวราง แล้วก็มีเสียงหลี่หลิงหว่านกำลังตวาดถามตู้ซื่ออย่างกรุ่นโกรธ หลี่เหวยหยวนนิ่งอึ้ง เขาไม่ได้รีบร้อนเข้าไปในทันที เพียงแค่ซ่อนตัวอยู่นอกประตูและฟังบทสนทนาระหว่างหลี่หลิงหว่านกับตู้ซื่อที่อยู่ข้างในเงียบๆ
จากนั้นก็เหมือนมีฟ้าผ่าส่งเสียงกัมปนาทอยู่ข้างหูเขาอย่างไรอย่างนั้น เขารู้สึกเพียงว่าตลอดทั้งร่าง ไม่ใช่เพียงแค่ร่างกาย แต่รวมทั้งจิตวิญญาณของเขากำลังสั่นสะท้าน
นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะไม่ใช่บุตรชายของหลี่ซิวซง! เขาเกิดขึ้นเพราะตู้ซื่อถูกภิกษุสารเลวรูปหนึ่งย่ำยี! ไม่นึกเลยว่าเขาจะเป็นคนที่มีชาติกำเนิดสกปรกโสมมเช่นนี้!