“เคย ตอนบ้านเขาจัดงานแสดงสินค้าแพงๆ เขาเคยหาคนนอกเข้าไปเสริมคนของเขา ก็ไม่มีปัญหาอะไรนะ คุยง่าย จ่ายเงินตรง” ทรงพลทบทวนความทรงจำ “ทำไม จะไปทำงานกับเขาเรอะ”
“บริษัทของเขามีโครงการที่น่าสนใจอยู่” ชายหนุ่มตอบก่อนจะเล่าเรื่องที่เจ้าสัวประดิษฐ์ร่วมทุนกับต่างชาติเพื่อรีโนเวตโรงแรมและสร้างศูนย์การค้าแห่งใหม่
“ฟังดูน่าจะเป็นงานใหญ่มากนะ”
“ความจริงผมก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากหรอก แต่ถ้ามีโอกาสก็อยากลองน่ะ”
“จะว่าไปตอนที่ไปทำงานกับทางนั้น พ่อก็ได้เจอลูกสาวของเจ้าสัวคนนึงด้วยนะ ถ้าเข้าใจไม่ผิดน่าจะเป็นคนเล็ก” ทรงพลนึกขึ้นได้
“น้องปินเหรอครับ” อาชวินเลิกคิ้ว
“อาจจะชื่อนั้นก็ได้ มันก็นานแล้ว…แล้วนี่รู้จักเขาด้วยเรอะ”
“เพิ่งรู้จัก คือผมรู้จักลูกสาวคุณบันลือก่อน ส่วนน้องปินเขาเป็นเพื่อนสนิทของลูกสาวคุณบันลืออีกที เมื่อไม่นานมานี้เพิ่งเจอกันที่งานเลี้ยง แล้วเมื่อวันก่อนก็บังเอิญเจอกันอีกรอบแถวออฟฟิศผม” อาชวินเล่า
“วินคงพอมีข้อมูลเกี่ยวกับครอบครัวเจ้าสัวใช่ไหม ที่ว่าลูกสาวคนเล็กเป็นลูกเมียน้อยน่ะ”
อาชวินพยักหน้ารับคำถามของทรงพล ก่อนจะหันไปเล่าให้วีรากรซึ่งปกติไม่สนใจอะไรทำนองนี้ฟัง…เจ้าสัวประดิษฐ์มีสองบ้าน โดยปภาวรินท์เป็นลูกบ้านเล็กซึ่งพ่อรับมาอยู่บ้านใหญ่ด้วยกันหลังจากแม่ของเธอเสียชีวิตในช่วงที่หญิงสาวเข้ามหาวิทยาลัย สำหรับรัญชนานั้นเขาเคยพบผ่านๆ ตามงานอีเวนต์ แต่ไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว ภรรยาหลวงของประดิษฐ์ก็เสียชีวิตไปแล้วเหมือนกัน
“ถ้ารู้จักคนนี้ก็น่าจะดี งานที่พ่อรับวันนั้นเป็นงานที่มีพวกเพชรพลอยมาแสดง ลูกสาวอีกคนที่ตาดุๆ หน่อยเป็นนางแบบอยู่บนเวที ส่วนลูกสาวคนเล็กเหมือนจะเป็นฝ่ายประสานงาน ค่ำนั้นเดินมาถามพวกพ่อทั้งก่อนและหลังงานเลยว่าขาดเหลืออะไรไหม ดูเป็นเด็กดีนะ” ส่วนที่ทรงพลไม่ได้พูดออกไปคือท่านเคยได้ยินว่าลูกสาวบ้านใหญ่เกลียดน้องสาวต่างแม่มาก และถึงขั้นเหยียดหยามอีกฝ่ายในที่สาธารณะหลายหนทีเดียว
“ผมรู้จักเขาแค่ผิวเผิน แต่ดูแล้วก็น่าจะเป็นอย่างนั้นนะ” ชายหนุ่มเห็นพ้อง
“ถ้าดูท่าว่าเขาจะช่วยได้ก็ไปตีสนิทซะสิ ได้นามบัตรมาแล้วนี่” วีรากรพูดเป็นเชิงสั่ง
“ไอ้นี่ก็สั่งจริง ไปตีสนิทเองมั่งไหมวะ” อาชวินเหล่มองเพื่อนอย่างขันๆ
โดยทั่วไปแล้วแม้จะได้ชื่อว่าเป็นสถาปนิกเหมือนกัน แต่พวกเขาก็แบ่งงานกันทำชัดเจนด้วยความถนัดอยู่คนละทาง ตัววีรากรแม่นกฎหมายและถนัดงานที่เน้นความคุ้มค่ากับประโยชน์ใช้สอยสูง นิสัยเงียบๆ ทำให้เจ้าตัวคุมงานอยู่ในออฟฟิศเป็นหลัก ขณะที่อาชวินมีความโดดเด่นด้านไอเดียแปลกใหม่หรือเน้นความสวยงามสะดุดตา และมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกว่าก็ทำให้เขารับหน้าที่ติดต่อเจรจากับลูกค้า
อย่างไรก็ตามถ้าโครงการของพร้อมพิพัฒน์ใช้วิธีการประกวดออกแบบก็ต้องหวังให้ทางนั้นประทับใจงานในพอร์ตโฟลิโอของ Archwin มากพอจะติดต่อมา ถ้าปภาวรินท์มีส่วนร่วมกับโครงการก็อาจช่วยได้ แต่อาชวินก็ไม่ได้มีข้อมูลเกี่ยวกับเธอมากนัก กระทั่งจะได้เจอกันอีกหรือเปล่ายังไม่รู้เลย
เท่าที่ชายหนุ่มทราบเกี่ยวกับลูกสาวคนเล็กของเจ้าสัวประดิษฐ์คือเมื่อวันงานเลี้ยงเธอน่าจะกลัวมากจริงๆ ตอนที่เขายื่นมือไปให้เธอใช้เป็นหลักยึดเพื่อยืนนั้นปลายนิ้วของเธอเย็นเฉียบจนน่าตกใจ วันนั้นความสงสัยผุดวูบขึ้นมา ครั้นวันนี้เขาพูดถึงเธอก็ยังอดสงสัยซ้ำไม่ได้ เพราะมันต้องมีเหตุผลที่ทำให้เธอกลัวขนาดนั้น
ทรงพลยกแก้วเหล้าขึ้นจิบขณะมองชายหนุ่มทั้งสองคุยกัน…อันที่จริงถ้าหากอาชวินอยากใช้เส้นสายในการเข้าถึงเจ้าสัวประดิษฐ์ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย ไม่ต้องไปตีสนิทลูกสาวของอีกฝ่ายให้เสียเวลาด้วย แต่ถ้าเขาจะทำแบบนั้นก็คงทำเสียนานแล้ว และคงไม่ฝ่าฟันตั้งบริษัทเองด้วยความยากลำบากแบบนี้